วันที่ 1 เมษายนของทุกปีนี่พวกคนตะวันตกเค้าเรียกกันว่าวัน April Fool's Day ที่ใครจะโกหกอะไรกันก็ได้ไม่มีใครโกรธไม่มีใครถือ ยกให้กันวันนึงครับ
ผมลองค้นดูในเว็บพบประวัติความเป็นมาก็เลยเก็บเอามาฝากให้อ่านกันเล่นๆ
ในปี ค.ศ. 1582 พระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 13 ทรงออกคำสั้งให้โลกโรมันคาธอลิกเปลี่ยนการใช้ปฏิฐินแบบ จูเลียนซึ่งถือเอาวันที่ 25 มี.ค. ถึง 1 เม.ย. ของทุกปีเป็นช่วงขึ้นปีใหม่ เป็นการใช้ปฏิฐินแบบเกรกอเรียนซึ่งถึอเอาวันที่ 1 ม.ค. เป็นวันขึ้นปีใหม่ ปัญหาก็คือประชาชนจำนวนมากในยุโรปโดยเฉพาะที่ฝรั่งเศสไม่ได้รับข่าวสารเนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่มี Internet หรือ social network อื่นๆ คนในยุโรปก็ยังคงใช้วันที่ 25 มี.ค. ถึง 1 เม.ย. ฉลองปีใหม่กันอยู่ตามเดิม พวกที่ได้รัยข่าวสารและหันไปฉลองกันวนัที่ 1 ม.ค. ก็มองว่าพวกที่ยังยึดถือวันปีใหม่เดิมๆ เป็นพวกโง่ น่าขบขัน ก็เลยล้อพวกนี้เล่นเช่นส่งข้อความที่เป็นเท็จขำๆ ไปให้ ในที่สุดก็กลายเป็นวัฒณธรรมประเพณีประจำปีไป
เรื่องนี้บางทีก็ไม่น่าเชื่อนักเพราะนักวิชาการอธิบายว่าความจริงแล้วปฎิฐินแบบเกรกอเรียนประกาศใช้กันในปีค.ศ. 1752 ต่างหาก
อีกคำอธบายหนึ่งมาจาก อาจารย์สอนประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยบอสตันในสหรัฐฯ ชื่อศ. โจเซฟ บอสกินซึ่งฝระบุว่าประเพณี April Fool's เริ่มต้นขึ้นในยุคของจักรวรรดิโรมันสมัยจักรพรรดิ์คอนสแตนติน เรื่องมันมีอยู่ว่าพวกตลกหลวงบอกซีซาร์ว่าพวกเขาน่าจะบริหารประเทศชาติและจักรวรรดิได้ดีว่าซีซาร์ คอนสแตนติขำกลิ้งก่อนที่จะบอกตัวตลกหลวงที่ชื่อว่า คูเเกล ลองบริหารบ้านเมืองดูสักวันนึงแทนพระองค์ก็แล้วกัน คูเกลเลยใช้วันนั้นออกกฎหมายหนึ่งฉบ้บกำหนดให้ทุกคนในโรมันเอ็มไพร์โกหกและเล่นตลกกันได้หนึ่งวันที่ในที่ 1 เม.ย. ซึ่งก็กลายเป็นประเพณีกันต่อมา
คำอธิบายของ ศ. บอสกินได้รนับความสนอกในใจมากจากสำนักข่าวเอพี ทำให้สำนักข่าวสัมภาษณ์อาจารย์คนนี้แล้วเอาเรื่องไปลง หยังสือพิมพ์หลายฉบับของสหรัฐฯ ตีพิมพ์เรื่องนี้อย่างครึกโครมในปี ค.ศ. 1983 ที่น่าสนใจก็คือ อีกสองปีผ่านมาสำนักข่าวเอพีทราบว่า ศ. บอสกินเต่งเรื่องขึ้นมาเองทั้งสิ้น ไม่มีเรื่องจริงเลยที่เกี่ยวกับคอนสแตนตินและตลกหลวงของโรมัน
เป็นอันว่าสำนักข่าวเอพีกลายเป็นเหยื่อตลกร้ายของศ. บอสกินในวัน April Fool's Day ครับ
ใครสนใจค้นต่อได้ใน infoplease.com ครับ
April Fool's Day (อ่าน 1538 ครั้ง)