ถึงสื่อมวลชนทุกท่าน ผมจะบอกความจริงเรื่อง ไข้หวัด 2009 ให้ทราบ

[AnGleDoC]

ขออนุญาตนำกระทู้เกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ 2009 จาก Thiclinic มาเผยแพร่ที่นี่ด้วยนะคะ

และขอตั้งกระทู้ตามหัวข้อกระทู้จากลิงค์เดิมด้วยค่ะ ( ขอบคุณคุณหมอเจ้าของกระทู้ไว้ login name  :  Paste and Copy  ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ )   pray


อ้างอิงจาก http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1247126405


กระทู้ หัวข้อ 43331: ถึงสื่อมวลชนทุกท่าน ผมจะบอกความจริงเรื่อง ไข้หวัด 2009 ให้ทราบ ค่ะ ขอขอบพระคุณคุณหมอจขกทอีกครั้ง ด้วยค่ะ   pray


ขอ printscreen และ crop มาให้อ่านกันง่ายๆนะคะ เผื่อหลายท่านขี้เกียจคลิกเข้าไปอ่านใน TCC

[AnGleDoC]

อันนี้เอามาฝากเพิ่มค่ะ จาก TCC เช่นกันค่ะ  pray

[เuตsu้อย ศิษย์-HD]

น่ากลัวจัง ถ้ากลายพันธุ์สงสัย...

คิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเองกันทั้งนั้น ไม่คิดถึงส่วนรวมกันมั้งเลย

ปิดสถานประกอบการสัก 2 - 3 วัน ไข้หวัดก็ควบคุมได้ ไม่ต้องมารอดูคนตายทีละคน ทีละคน...

ขอบคุณมากครับสำหรับความรู้ที่ดีและรู้ลึกกว่าเดิม  pray  เมื่อไหร่จะแก้ปัญหา พวกนักการเมืองกับสื่อเห็นแก่ตัวได้สักทีเนี๊ย สังคมไทย  surrender

[เuตsu้อย ศิษย์-HD]

ประเทศไทยจะมีผู้นำและนักการเมืองในสภาเป็นคนดีกันทุกคน...

ระหว่างรอคนดี ไปหาหน้ากากมาใส่กันไข้ไว้ก็ดีครับ  thumbsup  ambulance

[Lee HD]

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านครับ.. ไม่รู้เลยนะเนี้ยว่ามันสามารถกลายพันธุ์ได้รุนแรงขนาดนี้.. อ่านแล้วสยอง  sick

เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปหาซื้อหน้ากากมาใช้บ้างดีกว่า  ambulance

[cops]

ดูข่าว นายกฯ บอกอย่าเพิ่งตกใจ เอางัยกันดีล่ะเนี่ย  headbang skull ambulance

[AnGleDoC]

ดูข่าว นายกฯ บอกอย่าเพิ่งตกใจ เอางัยกันดีล่ะเนี่ย  headbang skull ambulance

ตอนแรกว่าจะไม่ เอามาลง แต่พอเห็น rep  นี้ขอนิดนึงละกันนะคะ

มาฟังความเห็นจากบรรดาพี่ๆเพื่อนๆแพทย์บ้างนะคะ ขอเอาความเห็นมาจาก TCC โดยตรงเลย จะได้ไม่ขาดตกบกพร่องค่ะ

ความเห็นที่ #18 เมื่อ: 07/09/09 เวลา 18:27:25 »      sadangel

เห็นด้วยกับ จขกท. คนตายขนาดนี้หมอและคนจากกระทรวงสธ.ยังบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัว  เหมือนเป็นการแก้ตัวรายวัน ตั้งแต่คนตายคนแรก

 โรคลิ้นหัวใจก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าเป็นcompromise host  ตอกย้ำด้วยการตายของคนหลังๆอีก ยังบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัว ให้ใช้ชีวิตตามปกติ 

กระทรวงควรเข้าใจด้วยว่าประชาชนเขาฟังและทำตามท่าทีของพวกท่านอยู่ 

ที่สถานการณ์มันรุนแรงเพราะประชาชนขาดการสำเหนียกต่อความรุนแรงของโรค เพราะมีกระทรวงสธ.คอยบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัวอยู่ทุกวันๆ

ซึ่งความจริงแล้วโรคนี้น่ากลัวเพราะไม่มียารักษาและคนตายเพิ่มขึ้นทุกที ปัญหาสำคัญอยู่ที่การควบคุมและท่าทีที่อ่อนเกินไปของกระทรวง.   

และปัญหาสามารถดีขึ้นได้ง่ายโดยให้ประชาชนหันมาระมัดระวังดูแลรักษาตัวเองดี ๆไม่ให้เป็นหวัดในช่วงนี้ อย่าอดนอน งดเหล้าบุหรี่

และควรแนะนำให้สวมหน้ากากเมื่อจะเข้าห้างหรือที่ๆมีคนมากๆ ต้องงดการเล่นคอนเสิร์ตหรือการชุมนุมใดๆที่ไม่จำเป็นในช่วงนี้

ไม่ใช่ไปยืนแจกหน้ากากอยู่หน้าคอนเสิร์ตหน่อมแน้มอย่างที่ทำ ขอให้คุณ(กระทรวง)รู้ตัวเองว่าคุณคือผู้ชี้นำคนทั้งประเทศว่าจะให้ไปทางไหน

เขาคอยเดินตามคุณอยู่ สถานการณ์มันรุนแรงท่าทีที่ออกมาก็ต้องเข้มแข็งเข้มงวดมากกว่านี้

ควรออกประกาศอย่างเป็นทางการจากกระทรวงได้แล้วว่าจะต้องควบคุมอะไรบ้างและต้ องปฏิบัติตัวกันอย่างไร

ขอเน้นว่าอย่างเป็นทางการเพื่อส่งสัญญานให้ประชาชนรู้ว่าโรคนี้น่ากลัว(ถ้าค ุณไม่ดูแลสุขภาพให้ดี) ไม่ใช่ไม่น่ากลัว

และขอเสนอแนะต่อท่านปลัดกระทรวงเรื่องการใช้ยาดมสมุนไพรและยาอมสมุนไพรในการ ป้องกันรักษาโรคนี้ อย่ามองข้ามยาสมุนไพร

เชื้อไวรัสยาฝรั่งฆ่าไม่ได้แต่ยาสมุนไพรฆ่าได้  ระยะก่อนหน้านี้(โรคนี้ระบาดแล้ว) ดิฉันมีอาการเหมือนจะเป็นหวัด

แค่เริ่มรู้สึกคัดจมูกแต่รู้สึกว่าเพลียมาก ไม่มีแรง เลยรีบเอาน้ำมันยูคาลิปตัสล้วงเข้าไปในจมูกทั้ง2ข้างและอมโบตัน(หรือยาอมสมุ

นไพรไทยแบบอื่นๆก็ได้ ) 5-10นาทีต่อมาอาการก็หายเป็นปลิดทิ้ง ทำงานต่อได้เหมือนเดิม แต่เดิมดิฉันต้องเป็นหวัดปีละ2-3ครั้งทุกปี

ค้นพบเรื่องนี้มา2ปี ไม่เป็นหวัดจนต้องกินยาแก้อักเสบอีกเลย ในน้ำมันยูคาลิปตัสน่าจะมีตัวยาที่ฆ่าเชื้อไวรัสได้ ทุกวันนี้เวลาทำงาน

เวลาเดินตามห้างถ้ากลัวจะติดก็จะคอยทาและอมไว้ นี่น่าจะเป็นวิธีการป้องกันง่ายๆแบบไทยๆที่ดีอีกวิธีหนึ่งนอกจากใส่หน้ากาก ถือเป็นการป้องกัน2ชั้น

เพราะเห็นแล้วว่าได้ผลจริงๆ เป็นการทายาลงไปตรงที่เชื้ออยู่เลยและป้องกันลำคอของเราไม่ให้เชื้อมาเกาะได ้

ก็ขอเสนอความคิดนี้ให้ท่านลองพิจารณาดู ขอบคุณค่ะ
ส่งโดย: goodwillhunting
สถานะ: Newbie 
จำนวนความเห็น: 14   
   

[AnGleDoC]

ความเห็นที่ #39 เมื่อ: 07/11/09 เวลา 20:43:26 »    

on 07/11/09 เวลา 00:50:42, InuyaRuoku wrote:

พอจะเข้าใจแล้วครับ ที่มันระบาดไปทั่วโลกก็เพราะความกล้า ๆ กลัว ๆ ของ WHO ซึ่ง ถูกครอบงำด้วยลัทธิทุนนิยมนี่เอง ไม่กล้าทำอะไรที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศตะวันตก
สุดท้าย ไทยที่ลอกแบบแนวทางการป้องกันโรคของ CDC มาก็เจอสถานการณ์ไม่ต่างจากอเมริกา เรียกว่าฝั่งตะวันตก อเมริกาป่วยและตายเป็นอันดับ 1 ฝั่งตะวันออกไทยก็ไม่น้อยหน้าเป็นที่ 1 เหมือนกันเลย

 
 
 
ผมคิดว่าเป็นมุมมองที่มีคติมากเกินไปครับ
 
 
เพราะหาก WHO เป็นอย่างที่คุณกล่าวหาจริง   WHO จะประกาศยกระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาด จากระดับ 1 - 6 อย่างรวดเร็วหลังจากเกิดเหตุที่ Mexico ไปทำไม ?   
 
เพาะการประกาศว่า การระบาดอยู่ในระดับ 6 ก็คือประกาศว่า โรคได้ระบาดไปทั่วโลกแล้ว กักไม่อยู่แล้ว
 
 
 
 
น่าจะต้องมองอีกมุมหนึ่งด้วยว่า เราไม่สามารถควบคุมสิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้ แม้กระทั่งไวรัส ..... เราเป็นแค่สิ่งมีชีวิตหนึ่ง ที่ต้องปรับตัวไปกับมัน เพราะเราอยู่ร่วมโลกเดียวกับมันต่างหาก
 
ส่งโดย: Heron
สถานะ: Executive Member 
จำนวนความเห็น: 4537 
   

[AnGleDoC]

หัวข้อ 43371: รู้สึกว่า การปฏิบัติเรื่องหวัด 2009 เมืองไทยไม่เข้มข้น  (จำนวนคนอ่าน 377 ครั้ง)
« เมื่อ: 07/10/09 เวลา 18:38:49 »     

มีความรู้สึกว่า ทำไมการปฏิบัติเรื่องหวัด 2009 ทำไมถึงไม่เข้มแข็งเหมือนที่อื่นๆ
นักวิชาการหลายๆท่าน มาออกความเห็นทำเป็นรู้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ เห็นเปลี่ยนเป็นรายวัน
ตอนแรกบอก คนตาย มีแต่คนแก่และเด็ก คนอ่อนแอ  
ต่อมาคนอ้วนก็ตาย ผอมก็ตาย คนแข็งแรงก็ตาย คนหนุ่มสาวที่แข็งแรงก็ตาย
เป็นไข้สองวัน ไอไม่หาย ควรมาพบแพทย์
บางคนบอกอยู่บ้านเฉยๆ
 
ตันก๋งเห็นแถวอเมริกาใต้ เช่น โบลิเวีย หรือเปรู เขาทำเรื่องนี้จริงจัง ทั้งที่คนป่วย และตาย น้อยกว่าบ้านเรา เขาไม่ได้หวังว่าจะหยุดโรคนี้ได้ แต่ต้องทำให้การระบาดรุนแรงน้อยที่สุด
เขาสั่งปิดโรงเรียนทันทีถึงสิ้นเดือน ห้ามจัดงานรื่นเริง ปิดสถานบันเทิง ทุกแห่ง
หมอที่ตรวจ สวมชุดรัดกุม สวมเสื้อกาวน์ยาว สามหมวก MaskN95 มีเต๊นท์สำหรับตรวจ และคัดกรองแยกผู้ป่วย
แต่บ้านเรา ตรวจกันที่โรงรถหนะ แจก Mask กระดาษให้แพทย์อย่างเดียว
บังคับให้หมออกตรวจอีกแหนะ...
 
เป็นโรคใหม่ที่ไม่ค่อยรู้จัก ควรพูดน้อยๆ ทำมากๆไว้ก่อนน่าจะดีกว่า
    
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 07/10/09 เวลา 18:40:53 by ตันก๋ง »
แม้คนจะเปลี่ยนไปคนแล้วคนเล่า แต่ขุนเขาและสายน้ำยังมั่นคงเหมือนเดิม ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ใด
ชอบดู concert ,ชอบกินอาหารญี่ปุ่น, ชอบนั่งดื่มเบียร์ ฟังเพลงในที่ๆบรรยากาศดีๆ ชอบเที่ยวเมืองจีน
ไม่ชอบคนวางท่า วางมาดแสดงตนว่าเหนือคนอื่น อย่ามาทำไม่ฉลาด
ส่งโดย: ตันก๋ง
สถานะ: Executive Member  
จำนวนความเห็น: 6645  
    
« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 07/10/09 เวลา 18:44:23 »     

เห็นด้วยฮับ
ยิ่งยืดเยื้อ ไม่ปิด ไร สักอย่าง  
จะระบาดหนักสุด สุด
เป็นห่วงคนที่บ้านนะฮับ
กัวเราจะเอาเชื้อไปติดเขา
ฉีดวัคซีนหมดบ้านแล้วฮับ
เชื้อจะได้มะกลายพันธุ์        
 จาป่วยวันไหนไม่รุ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 07/10/09 เวลา 18:45:15 by cyodsawat »
ส่งโดย: cyodsawat
สถานะ: Junior Member  
จำนวนความเห็น: 60  

ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 07/10/09 เวลา 19:48:04 »     

ก็นะ ประเทศที่หมอกะพยาบาลเป็นไข้หวัด 2009  
คิดดูว่า การป้องกันจะทำได้ดีแค่ไหน universal precausion หุหุ ไม่มีในประเทศไทยหรอก แถมป่วยก็หยุดไม่ได้นรกๆ ชัดๆ
ส่งโดย: nong ben
สถานะ: Full Member  
จำนวนความเห็น: 168  
    
124.157.228.*

ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 07/10/09 เวลา 21:10:05 »     

นายกออกมาบอกอีกว่า ตอนนี้อัตราตายน้อยกว่าประเทศอื่นมาก
 
ไม่ต้องปิดประเทศแน่นอน
 
ให้ปิดแต่รร.กวดวิชา ร้านเกมส์
 
ร้านอื่นๆ ทั้งร้านสอนคอม สอนพิมพ์ดีด เช่า internet ไม่เกี่ยว
 
ตอนนี้รร.ข้างๆบ้านผม ป่วยพร้อมกันครึ่งรร.อีกแล้ว
 
เมื่อเช้าก็มีคนแก่ sudden death มาคนนึง ในบ้านมีประวัติมีหลานเป็น flu 2009 ด้วย  
 
กระทรวงบอกว่าไม่ต้องตรวจหรอก คงเป็นหัวใจวาย  
 
เฮ้อ....
 
 
ส่งโดย: nobetakung  
สถานะ: Executive Member  
จำนวนความเห็น: 674   [/
 ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 07/11/09 เวลา 03:43:01 »     

เราขาดการระแวดระวังที่ดี พอมันมาถึงใกล้ตัวก็ทำอะไรลำบากแล้ว ซึ่งพอลำบากเราก็เลยตัดสินใจไม่ทำมันซะเลย  
 
รพ.ผมยังไม่มี confirm เคสเพราะว่าไม่มีใครส่งตรวจ มีแต่ผมส่งอยู่คนเดียว    
 
แต่ที่ผมส่งผมต้องใส่ชุดคลุมสองชั้น จัดห้องแยกเหมือนหวัดนกเลยนะ  
ส่งโดย: Innominate  
สถานะ: Executive Member  
จำนวนความเห็น: 896  
    
222.123.234.*

[AnGleDoC]

หัวข้อ 43440: เมื่อไหร่ สธ.จะยอมรับความจริง และบอกความจริงให้ประชาชนทราบ  (จำนวนคนอ่าน 293 ครั้ง)
« เมื่อ: วันนี้ เวลา 00:51:39 »    

จากข่าวเพื่อสื่อมวลชนของ สธ. วันที่ 10 กค.52
สธ.เตรียมรณรงค์ คาดหน้ากากอนามัย สู้ภัยหวัดใหญ่ฯพร้อมกันทั่วไทย เร็วๆนี้
 
http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew .php?idHot_new=26562
 
Quote:
สำหรับการคาดประมาณทางวิชาการแนวโน้มสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในไทย โดยคณะผู้เชี่ยวชาญระบุว่า..................
การติดต่อส่วนใหญ่ผ่านทางมือสัมผัสมากกว่าติดทางการหายใจ

 
อยากทราบว่า คณะผู้เชี่ยวชาญคือใคร ทำไมยังยืนยันว่าส่วนใหญ่ติดต่อทางมือสัมผัส
ทั้ง ๆ ที่ความจริงที่มีคนศึกษาและได้ข้อสรุปคือส่วนใหญ่ติดจากละอองเสมหะที่ผู้ป่ว ย ไอ จาม ใส่ในระยะ 1 เมตร
Quote:
At present, evidence suggests that the main route of human-to-human transmission of the new  Influenza A (H1N1) virus 
is via respiratory droplets, which are expelled by speaking, sneezing or coughing.
Any person who is in close contact (approximately 1 metre) with someone who has influenza-like symptoms (fever, sneezing, 
coughing, running nose, chills, muscle ache etc) is at risk of being  exposed to potentially infective respiratory droplets.

จากคำแนะนำในการใช้หน้ากากในชุมชนของ WHO
http://www.who.int/entity/csr/resources/publications/Adviceusemaskscommu nityrevised.pdf
 
สธ. ต้องยอมรับได้แล้วว่าสื่อความรู้ผิด ๆ ให้คนไทยสับสนไปหมด
ให้รู้ว่าการติดต่อที่พบบ่อยคือการไอ จาม ใส่ในระยะ 1 เมตร และสามารถป้องกันได้ด้วย การอยู่ห่างจากคนที่มีอาการไอ จาม น้ำมูก
ให้มากกว่า 1 เมตร และในสถานการณ์ที่ต้องเข้าไปในที่ที่มีคนแออัด (อยู่ห่างจากคนอื่นน้อยกว่า 1 เมตร ) 
ให้ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการถูกผู้ป่วย ไอ จามใส่
 
ให้คนไทยรู้ว่า คนต่างหากที่เป็นพาหะนำโรค มาสู่ตัวเอง ถ้าจะกลัวหรือระวังก็ให้ระวังคนมากกว่า ที่ไหนมีคนมาก ยิ่งเสี่ยงมาก
ไม่ใช่เอาแต่กลัวเสมหะที่ติดอยู่ตามภาชนะ ตามอุปกรณ์ ซึ่งก็สามารถนำโรคได้แต่น้อยกว่าการไอ จาม มาก ๆ
เพราะไวรัสในเสมหะอยู่ไม่นาน ไม่เกิน 24 ชม.ก็ตายแล้ว  แต่คนสามารถแพร่เชื้อได้เป็นสัปดาห์
ตอนนี้ รัฐบาลทำงานแบบสับสนไปหมด เพราะไม่รู้จริง กลัวเสมหะที่ตกบนพื้นพรม จนขอให้โรงหนัง รื้อพรมออก   
 
นี่แหละ ผลของความไม่รู้หรืออวิชชา  แทนที่จะรณรงค์ใช้หน้ากากทุกคนที่อยู่ในที่มีคนแออัด เช่น โรงหนัง รถไฟฟ้า รถเมล์
กลับไปทำอะไรที่ไร้สาระ ให้คำแนะนำผิด ๆ แบบไม่รู้จริงแบบนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ เวลา 01:17:32 by InuyaRuoku »
ส่งโดย: InuyaRuoku
สถานะ: Junior Member 
จำนวนความเห็น: 84   
   
118.172.104.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: วันนี้ เวลา 01:02:51 »    

แล้วที่ สธ. จะรณรงค์เรื่องหน้ากากช่วยเอาคำแนะนำนี้ไปแปลและเผยแพร่ให้ประชาชนทราบด้วย
ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนใช้หน้ากากกันแบบงมงาย  ให้รู้ว่าควรใส่เมื่อต้องเข้าไปใกล้กับคนที่มีอาการเหมือนเป็นหวัดในระยะใก ล้กว่า 1 เมตร 
หรือใส่เมื่อเข้าไปในที่ที่มีคนแออัด จนต้องอยู่ใกล้กันมาก และอาจถูกไอ จามใส่ เช่น ในรถไฟฟ้า ในตลาดนัดติดแอร์ ในรถทัวร์   ในโรงหนัง 
หรือเวลาดูคอนเสิร์ต   
ไม่ใช่ใส่เวลาอยู่บ้านคนเดียวหรือใส่ไปวิ่งตามข้างถนนที่ไม่มีใครอยู่เลยซัก คน
 
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ เวลา 01:04:09 by InuyaRuoku »
ส่งโดย: InuyaRuoku
สถานะ: Junior Member 
จำนวนความเห็น: 84   
   
118.172.104.*

[www.BikerFarms.com]

 worship  thumbsup ขอบคุณคุณ AnGleDoC มากค่ะที่ช่วยกันเอาความจริงเปิดเผย จะได้ตระหนักถึงอันตรายที่ใกล้ตัวเข้ามาทุกทีกันมากขึ้น  ช่วงที่โรคหวัด 2009 ระบาดใหม่ๆ ในเม็กซิโกเวลาเมย์เปิดอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ไทยในเน็ทรู้สึกหงุดหงิดใจมากๆ ค่ะ ก็เค้าเอาแต่รูปหมูขึ้นพาดหัวข่าวทุกวัน ยังคุยกันกับเพื่อนที่ทำงานด้านโรคระบาดเลยว่า เดี๋ยวผู้คนก็เข้าใจผิดคิดว่ากินหมูถึงจะติดโรคหรอก และหลังจากนั้นไม่นานติดตามข่าวอยู่เรื่อยๆ ก็เจอข่าวกักหมูแถวด่านชายแดน ยังคิดว่าเมืองไทยกำลังทำอะไรกันอยู่เนี่ยยย  บ้านเมืองอื่นเค้ากักคนที่เดินทางจากประเทศที่มีการระบาดกันให้รึ่ม..แถมรัฐก็ออกมาพล่ามอยู่ได้ว่าไม่อันตรายควบคุมได้...ไม่เน้นการให้ความรู้ที่ถูกต้องด้านการป้องกันโรคกับประชาชนอีกต่างหาก ยิ่งติดตามข่าวยิ่งกลุ้มใจค่ะ...ตอนแรกที่โรคนี้เริ่มระบาดเข้ามาถึงอเมริกา ยังไม่พบในเมืองไทยคุณสามีเคยบอกถ้ามันระบาดมากจนควบคุมไม่ได้จะไปหลบอยู่เมืองไทยซักพัก เลยโดนเอ็ดซะ..ตอนนี้ที่นี่เค้าควบคุมได้แล้วเพราะว่าเค้าเน้นการให้ความรู้เรื่องการป้องกัน และผู้คนมีความรับผิดชอบต่อสังคมสูงด้วยค่ะ เวลาป่วยเค้าก็งดออกไปแพร่เชื้อ ถ้าจำเป็นต้องออกไปไหนก็ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก ที่ทำงานก็ลงทุนเตรียมโลชั่นฆ่าเชื้อไว้ให้สำหรับทามือเวลาจามหรือไอ จะได้ไม่ไปแปดเปื้อนแพร่เชื้อทุกที่ ที่มือไปสัมผัส  เด็กป่ายก็ให้หยุดเรียนไปเลย ไม่ต้องมากลัวเรียนไม่ทันเพื่อนแบบบ้านเรา  เมย์ว่าเรื่องโรคหวัด 2009 เมืองไทยเรามาผิดทิศทางตรงที่ไปเน้นการตรวจเชื้อ และ การรักษามากเกินไป  surrender แทนที่จะแบ่งงบประมาณมาเน้นการให้ความรู้ด้านการป้องกันโรคให้มากกว่านี้น่ะค่ะ ..อ้อ..ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อวานอ่านข่าวอีกค่ะ เห็นว่ารถตู้ไล่คนที่ใช้ผ้าปิดจมูกลงจากรถกลัวว่าีผู้โดยสารคนอื่นจะกลัว..อ้าวววว  เอาเข้าไป..แม่เจ้า..  frustrated ..อึดอัดมานาน ได้ระบายซะหน่อยค่อยดีขึ้น    jawdrop ambulance skull

[T. 2 CAM]

ขอบคุณสำหรับข่าวสารดีๆเช่นนี้ครับ.... pray pray thumbsup thumbsup

[AAA]

ขอบคุณครับหมอต่าย pray
ตอนนี้ผมเพิ่งเป็นหวัดซะด้วยสิ........เสียวอยู่เหมือนกันครับ frustrated

[MADMAX]

ขอบคุณครับหมอต่าย pray
ตอนนี้ผมเพิ่งเป็นหวัดซะด้วยสิ........เสียวอยู่เหมือนกันครับ frustrated

 jawdrop jawdrop jawdrop jawdrop eyeopoping eyeopoping eyeopoping nana nana nana

[cops]

ขอบคุณครับหมอต่าย pray
ตอนนี้ผมเพิ่งเป็นหวัดซะด้วยสิ........เสียวอยู่เหมือนกันครับ frustrated

หวัดนกเขารึปล่าว ...5555 number1