« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2012, 09:59:26 PM »
รถนำเข้าโดนเพิ่มภาษีอีก10%ทำยังไงต่อไปดีครับ ผมจะได้ซื้อในการแพงมากขึ้น หรือราคาเท่าเดิมละเนี่ย ยังไม่ทันซื้อเลย frustrated T T
1200 UP - 20% / 883-900 - 10% / 500-600 - 5%
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 26, 2012, 11:17:26 PM โดย thend »
บันทึกการเข้า
We ride together We share experience
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2012, 10:33:11 PM »
ทำได้อย่างเดียวคือ ทำใจ ครับ จากอดีตในช่วงไม่ถึงสิบปี น้ำมัน ทอง อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ แพงขึ้น 4-5 เท่า ทุกคนก็บ่น รวมทั้งผม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี้กันต่อไป สู้ๆครับ
มีเรื่องจะเล่าให้ฟังว่า สมัยผมเด็ก พ่อผมอยากได้มอไซค์ BMW R27 จำได้ว่าราคา 2-3 หมื่น เวลาผ่านไป ยี่สิบปี ตอนนี้ R27 ขึ้นเป็น สามแสนอัพแล้ว แต่ทำไงได้ล่ะ ก็ตอนนั้นไม่มีกำลังจะซื้อ ตอนนี้อยากได้ก็ต้องยอมจ่ายครับ
|
บันทึกการเข้า
ใดใด ในโลก ล้วนอนิจจัง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2012, 11:42:43 PM »
ทำได้อย่างเดียวคือ ทำใจ ครับ จากอดีตในช่วงไม่ถึงสิบปี น้ำมัน ทอง อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ แพงขึ้น 4-5 เท่า ทุกคนก็บ่น รวมทั้งผม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี้กันต่อไป สู้ๆครับ
มีเรื่องจะเล่าให้ฟังว่า สมัยผมเด็ก พ่อผมอยากได้มอไซค์ BMW R27 จำได้ว่าราคา 2-3 หมื่น เวลาผ่านไป ยี่สิบปี ตอนนี้ R27 ขึ้นเป็น สามแสนอัพแล้ว แต่ทำไงได้ล่ะ ก็ตอนนั้นไม่มีกำลังจะซื้อ ตอนนี้อยากได้ก็ต้องยอมจ่ายครับ
ผมว่าถ้าของทุกอย่างมันแพงขึ้น เงินเดือนก็ต้องเพิ่มด้วยสิ ไม่งั้นมันอยู่ไม่ได้ surrender
|
บันทึกการเข้า
We ride together We share experience
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 12:05:10 AM »
ทำได้อย่างเดียวคือ ทำใจ ครับ จากอดีตในช่วงไม่ถึงสิบปี น้ำมัน ทอง อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ แพงขึ้น 4-5 เท่า ทุกคนก็บ่น รวมทั้งผม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี้กันต่อไป สู้ๆครับ
มีเรื่องจะเล่าให้ฟังว่า สมัยผมเด็ก พ่อผมอยากได้มอไซค์ BMW R27 จำได้ว่าราคา 2-3 หมื่น เวลาผ่านไป ยี่สิบปี ตอนนี้ R27 ขึ้นเป็น สามแสนอัพแล้ว แต่ทำไงได้ล่ะ ก็ตอนนั้นไม่มีกำลังจะซื้อ ตอนนี้อยากได้ก็ต้องยอมจ่ายครับ
ผมว่าถ้าของทุกอย่างมันแพงขึ้น เงินเดือนก็ต้องเพิ่มด้วยสิ ไม่งั้นมันอยู่ไม่ได้ surrender
ตอบกลับแบบนี้ ท่าจะยาว ตอนผมทำงานนะ เงินเดือนแทบไม่ได้ขึ้น แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น หนี้สินก็มี ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ไม่เห็นตาย อยากได้เงินขึ้นก็ขอเจ้านายสิ แต่!! ลองถามตัวเองก่อน ว่าทำงานดีขึ้นแค่ไหน ทำผลงานให้บริษัทเท่าไหร่ ถ้าทำงานเท่าเดิม แล้วอยากได้เงินขึ้น ก็นอนฝันต่อไป ที่บอกก็แค่ให้คิดมุมอื่นบ้าง อย่ามองแต่มุมตัวเอง ไม่งั่นก็ไม่ไปไหนหรอกน้อง อย่าท้อไปล่ะ ยังมีคนลำบากกว่าเราเยอะแยะ จะฟีโน่ หรือ ฮาร์เล่ย์ มันก็พาไปถึงจุดหมายได้ทั้งนั้นแหละ อย่าไปซีเรียส police police
|
บันทึกการเข้า
ใดใด ในโลก ล้วนอนิจจัง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 12:35:19 AM »
เดี๋ยวนี่ มีเงินผ่อนเยอะแยะ ไป ตัดสินใจเมื่อไหร่ก็ขี่เมื่อนั้น รอเก็บแต่เงินสด พอเก็บถึงก็ ไม่กล้าซื้ออีก เพราะเงินมันดูเยอะไปไง ถ้าคิดจะขี่แล้วซื้อไปเลย อย่าทำครอบครัวเดือดร้อนพอ เอาใจช่วย นี่ก็ซื้อผ่อนเอา อีกไม่กี่งวดก็หมดแล้ว พอซื้อ จะได้รู้ว่า รู้งี้ซื้อตั้งนานแล้ว ไม่น่าไหว้ครูนาน เลยเชื่อเหอะ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 12:54:43 AM »
ทำได้อย่างเดียวคือ ทำใจ ครับ จากอดีตในช่วงไม่ถึงสิบปี น้ำมัน ทอง อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ แพงขึ้น 4-5 เท่า ทุกคนก็บ่น รวมทั้งผม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี้กันต่อไป สู้ๆครับ
มีเรื่องจะเล่าให้ฟังว่า สมัยผมเด็ก พ่อผมอยากได้มอไซค์ BMW R27 จำได้ว่าราคา 2-3 หมื่น เวลาผ่านไป ยี่สิบปี ตอนนี้ R27 ขึ้นเป็น สามแสนอัพแล้ว แต่ทำไงได้ล่ะ ก็ตอนนั้นไม่มีกำลังจะซื้อ ตอนนี้อยากได้ก็ต้องยอมจ่ายครับ
ผมว่าถ้าของทุกอย่างมันแพงขึ้น เงินเดือนก็ต้องเพิ่มด้วยสิ ไม่งั้นมันอยู่ไม่ได้ surrender
ตอบกลับแบบนี้ ท่าจะยาว ตอนผมทำงานนะ เงินเดือนแทบไม่ได้ขึ้น แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น หนี้สินก็มี ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ไม่เห็นตาย อยากได้เงินขึ้นก็ขอเจ้านายสิ แต่!! ลองถามตัวเองก่อน ว่าทำงานดีขึ้นแค่ไหน ทำผลงานให้บริษัทเท่าไหร่ ถ้าทำงานเท่าเดิม แล้วอยากได้เงินขึ้น ก็นอนฝันต่อไป ที่บอกก็แค่ให้คิดมุมอื่นบ้าง อย่ามองแต่มุมตัวเอง ไม่งั่นก็ไม่ไปไหนหรอกน้อง อย่าท้อไปล่ะ ยังมีคนลำบากกว่าเราเยอะแยะ
จะฟีโน่ หรือ ฮาร์เล่ย์ มันก็พาไปถึงจุดหมายได้ทั้งนั้นแหละ อย่าไปซีเรียส police police
thumbsup thumbsup thumbsup thumbsup thumbsup number1
|
บันทึกการเข้า
ชื่อกี้นะครับ 48 สีทอง กำแพงเพชร ^__^
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 07:42:35 AM »
เดี๋ยวนี่ มีเงินผ่อนเยอะแยะ ไป ตัดสินใจเมื่อไหร่ก็ขี่เมื่อนั้น รอเก็บแต่เงินสด พอเก็บถึงก็ ไม่กล้าซื้ออีก เพราะเงินมันดูเยอะไปไง ถ้าคิดจะขี่แล้วซื้อไปเลย อย่าทำครอบครัวเดือดร้อนพอ เอาใจช่วย นี่ก็ซื้อผ่อนเอา อีกไม่กี่งวดก็หมดแล้ว พอซื้อ จะได้รู้ว่า รู้งี้ซื้อตั้งนานแล้ว ไม่น่าไหว้ครูนาน เลยเชื่อเหอะ
ขอบคุณครับ pray
|
บันทึกการเข้า
We ride together We share experience
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 08:28:14 AM »
ตอบกลับแบบนี้ ท่าจะยาว ตอนผมทำงานนะ เงินเดือนแทบไม่ได้ขึ้น แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น หนี้สินก็มี ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ไม่เห็นตาย อยากได้เงินขึ้นก็ขอเจ้านายสิ แต่!! ลองถามตัวเองก่อน ว่าทำงานดีขึ้นแค่ไหน ทำผลงานให้บริษัทเท่าไหร่ ถ้าทำงานเท่าเดิม แล้วอยากได้เงินขึ้น ก็นอนฝันต่อไป ที่บอกก็แค่ให้คิดมุมอื่นบ้าง อย่ามองแต่มุมตัวเอง ไม่งั่นก็ไม่ไปไหนหรอกน้อง อย่าท้อไปล่ะ ยังมีคนลำบากกว่าเราเยอะแยะ
จะฟีโน่ หรือ ฮาร์เล่ย์ มันก็พาไปถึงจุดหมายได้ทั้งนั้นแหละ อย่าไปซีเรียส police police
thumbsup thumbsup thumbsup thumbsup thumbsup thumbsup thumbsup thumbsup thumbsup
|
บันทึกการเข้า
สนใจ..สะกิดได้ ^^
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 09:41:41 AM »
ขี้นจาก3เปอร์เซนต์เป็น20ครับ
|
บันทึกการเข้า
mad springer
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 09:55:25 AM »
ตอบกลับแบบนี้ ท่าจะยาว ตอนผมทำงานนะ เงินเดือนแทบไม่ได้ขึ้น แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น หนี้สินก็มี ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ไม่เห็นตาย อยากได้เงินขึ้นก็ขอเจ้านายสิ แต่!! ลองถามตัวเองก่อน ว่าทำงานดีขึ้นแค่ไหน ทำผลงานให้บริษัทเท่าไหร่ ถ้าทำงานเท่าเดิม แล้วอยากได้เงินขึ้น ก็นอนฝันต่อไป ที่บอกก็แค่ให้คิดมุมอื่นบ้าง อย่ามองแต่มุมตัวเอง ไม่งั่นก็ไม่ไปไหนหรอกน้อง อย่าท้อไปล่ะ ยังมีคนลำบากกว่าเราเยอะแยะ
จะฟีโน่ หรือ ฮาร์เล่ย์ มันก็พาไปถึงจุดหมายได้ทั้งนั้นแหละ อย่าไปซีเรียส police police
number1 number1 number1 number1 number1 thumbsup thumbsup thumbsup
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 10:38:37 AM »
ทำได้อย่างเดียวคือ ทำใจ ครับ จากอดีตในช่วงไม่ถึงสิบปี น้ำมัน ทอง อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ แพงขึ้น 4-5 เท่า ทุกคนก็บ่น รวมทั้งผม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี้กันต่อไป สู้ๆครับ
มีเรื่องจะเล่าให้ฟังว่า สมัยผมเด็ก พ่อผมอยากได้มอไซค์ BMW R27 จำได้ว่าราคา 2-3 หมื่น เวลาผ่านไป ยี่สิบปี ตอนนี้ R27 ขึ้นเป็น สามแสนอัพแล้ว แต่ทำไงได้ล่ะ ก็ตอนนั้นไม่มีกำลังจะซื้อ ตอนนี้อยากได้ก็ต้องยอมจ่ายครับ
ผมว่าถ้าของทุกอย่างมันแพงขึ้น เงินเดือนก็ต้องเพิ่มด้วยสิ ไม่งั้นมันอยู่ไม่ได้ surrender
ตอบกลับแบบนี้ ท่าจะยาว ตอนผมทำงานนะ เงินเดือนแทบไม่ได้ขึ้น แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น หนี้สินก็มี ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ไม่เห็นตาย อยากได้เงินขึ้นก็ขอเจ้านายสิ แต่!! ลองถามตัวเองก่อน ว่าทำงานดีขึ้นแค่ไหน ทำผลงานให้บริษัทเท่าไหร่ ถ้าทำงานเท่าเดิม แล้วอยากได้เงินขึ้น ก็นอนฝันต่อไป ที่บอกก็แค่ให้คิดมุมอื่นบ้าง อย่ามองแต่มุมตัวเอง ไม่งั่นก็ไม่ไปไหนหรอกน้อง อย่าท้อไปล่ะ ยังมีคนลำบากกว่าเราเยอะแยะ
จะฟีโน่ หรือ ฮาร์เล่ย์ มันก็พาไปถึงจุดหมายได้ทั้งนั้นแหละ อย่าไปซีเรียส police police
กำลังปรับตัวให้ทันอยู่ครับ pray
|
บันทึกการเข้า
We ride together We share experience
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 01:28:36 PM »
เอาใจช่วยนะครับ วันนึงมันต้องมาถึงครับ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 01:34:24 PM »
ทำใจซื้อให้ลง ใส่ลูกบ้ามากกว่าเดิม 
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 01:35:21 PM »
ขอถามผู้รู้เพิ่มเติมครับ แล้วข่าวที่ว่า เบนซิน91 จะเลิกผลิตล่ะครับ คงมีแต่แก๊สโซฮอล์ มอไซค์ต้องเติมโซฮอล์เรื่อยๆในระยะยาว คาร์บูฯจะมีปัญหาไหม... สงสัยจะต้องซ่อมบ่อยแน่ๆ ค่าใช้จ่ายนอกจากค่าภาษีที่เพิ่มขึ้นแล้ว ต้องเตรียมเงินเสียค่าซ่อมมากขึ้นแน่ๆ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 01:58:57 PM »
ประกาศใช้แล้ว. 19 ธค 55. ต้องรับแบบกล้ำกลืน. อนาคตเงินยิ่งเฟ้อขึ้นมาก. ของต่างๆราคาแพงตามแน่นอน
กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. - รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ที่ผ่านความเห็นชอบของ ครม.วันนี้ว่า เป็นการจัดเก็บตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามที่กระทรวงการคลังเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาการบิดเบือนโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีรถยนต์และเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ของโลก ดังนั้นจึงเป็นการเปลี่ยนภาษีสรรพสามิตรถยนต์ทั้งระบบ โดยจัดเก็บภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งเป็นการคิดภาษีตามประเภทรถยนต์ 7 ประเภท ดังนี้ รถยนต์นั่ง และรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 30 ปล่อยก๊าซฯ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 35 และปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 40
รถยนต์นั่งประเภทอี 85 และรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 25 ปล่อยก๊าซฯ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 30 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 35
รถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้าที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 10 ปล่อยก๊าซฯ เกิน 100-150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 20 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 25 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 30
รถยนต์กระบะที่ไม่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 3 และปล่อยก๊าซฯ เกิน200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 5 รถยนต์กระบะที่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 5 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 7
รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (ดับเบิลแคป) มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 12 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 15 และรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 25 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 30
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ครม.มีความเห็นชอบในการประชุมฯ ครั้งนี้ เห็นควรว่าให้มีช่วงระยะเวลาในการปรับตัวของผู้ประกอบการรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2559 เนื่องจากกระทรวงการคลังวิเคราะห์ผลกระทบว่าการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการบางราย ทั้งนี้มีการคำนวณรายได้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ในปี 2559 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2554 เป็นเงิน 25,693 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังเสนอให้มีการเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตนำเข้ารถจักรยานยนต์ขนาดกระบอกสูบ 800-1,000 ซีซี ที่ปัจจุบันมีการจัดเก็บอยู่ที่ร้อยละ 103 โดยจะมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 123 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.เป็นต้นไป คาดว่าจะช่วยให้มีรายได้จากการเก็บภาษีส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็นวงเงินประมาณ 150 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่าผู้ที่สามารถซื้อรถจักรยายนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดดังกล่าวได้เป็นผู้มีฐานะเพียงพอที่จะชำระภาษีเพิ่มเติม. - สำนักข่าวไทย
|
บันทึกการเข้า
|