« เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 10:25:22 AM »
รถปีเดียวกัน แกแนะนำสาธิตง่ายๆดี ลองเล่นตามสักหน่อยสิ
[ Invalid YouTube link ]
เพื่อความรู้และความเพลิดเพลิน วันว่างๆ
บันทึกการเข้า
...Become A Biker from inside.
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 10:39:32 AM »
Alternator ก็คือ Generator คือ ชุดผลิตไฟฟ้ากระแสสลับ หรือไฟ AC. ไฟ AC จะเกิดในเครื่องยนต์ได้ จะต้องมี Rotor คือ ชุดแม่เหล็กวงกลมดำๆ ซ้ายมือ Rotor จะหมุนหลังจากเครื่องยนต์เดิน แม่เหล็กจะหมุนตัดกับ Stator หรือ ข้าวต้มมัดที่เราชอบเรียก เพียงเท่านี้ ก็จะมีไฟออกมาจาก Stator ตลอดเวลาที่ Rotor หมุนติ้ว แต่ไฟนี้ยังใช้ไม่ได้ ต้องนำไปเข้ากับชุด Rectifier and Regulator หรือ แผ่นชาร์ต ที่เราเรียกกัน ถ้าระบบไฟปกติ จะได้ไฟชารต์ ประมาณ 14.4 VDC หล่อเลี้ยงระบบไฟต่างๆใน HD ของเรา ทฤษฏี เขาว่างั้น นะ
|
บันทึกการเข้า
...Become A Biker from inside.
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 10:45:54 AM »
อยากแชร์ความรู้ เล็กๆน้อยๆบ้างนะครับ ใครมีอะไรก็บอกกัน ไม่อยากบอกเลย ว่ามือใหม่ อันนี้รถผม ปลดขั้ว Alternator ออกจาก Regolator เห็นรูรอโดนจิ้ม 3 รู เขรอะๆ ถือโอกาสใช้ Contact Cleaner แบบที่ใช้กับวงจรไฟฟ้า ทำความสะอาด ก่อนจิ้ม
|
บันทึกการเข้า
...Become A Biker from inside.
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 11:35:27 AM »
มิเตอร์แบบตัวเลข ตั้งวัดค่าความต้านทาน หน่วยเป็น Ohm จิ้มที่กราวด์ด้านหนึ่ง ผมเลือกจิ้มที่ โยงเกียร์ ใกล้ๆ ด้านบนภาพ สีแดงก็จิ้มลงไปในรู ได้ผลตามที่ครูฝรั่งบอก คือ ความต้านทานสูงมากๆ มิเตอร์แสดงผลเป็น 1 แต่ไม่มีตัวเลขอื่นตามหลังมา ทำจนครบทั้งสามรู ผลเหมือนกัน
|
บันทึกการเข้า
...Become A Biker from inside.
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 11:46:33 AM »
วัดค่าความต้านทานของ Stator ของผมวัดได้อยู่ที่ 0.3-0.5 Ohm ซึ่งน้อยกว่าใน วิดีโอ ครูฝรั่งวัดได้ 1 Ohm แต่ครูฝรั่งในเวบ HD อื่นๆ บอกว่า ปกติ ผมก็เชื่อว่าของผมก็ปกติ วัดให้ครบทุกคู่ ได้ผลใกล้เคียงกัน ค่าต่ำๆ ขนาดนี้ ถ้าลัดวงจรก็วินิจฉัยยาก แต่ถ้าขาดก็ง่าย
|
บันทึกการเข้า
...Become A Biker from inside.
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 11:57:09 AM »
ทำไปทำมา ก็เกิดอาการคันมือ หัวล้านนอกครู อยากทำมากกว่านั้น ก็เลยสตารทเครื่องยนต์ อยากรู้ว่าไฟ AC ที่ออกมาเป็นเท่าไร ครูฝรั่งบางท่านบอกว่าไม่ควรทำ การเดินเครื่องแล้ว No Load อาจสร้างความเสียหาย ไม่สนละ ผมวัดไฟได้ที่รอบเดินเบาประมาณ 17 โวลท์AC เร่งเครื่องขึ้นไปที่ 2,000 รอบ ได้โวลทAC เพิ่มขึ้น 2 เท่า คือ 35 โวลท์AC รีบดับเครื่อง กลัวพัง แต่วันนี้ก็ได้ข้อมูลอ้างอิงกับรถของตัวเอง มาบ้างพอเป็นกระสัย pray
|
บันทึกการเข้า
...Become A Biker from inside.
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 08:37:31 PM »
เข้ามาเก็บความรู้จ้า ขอบคุณครับ pray pray pray
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2012, 10:23:41 PM »
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 04:16:24 PM »
รถผมเวลาไม่เปิดไฟหน้าชาร์ท 14.7 v พอเปิดไฟหน้าโวลท์ตกเรือยๆ ถ้าใช้ไฟหน้าไปนานๆ ไฟไม่พอสตาร์ท อยากทรบความผิดปกติว่าจะแก้ไขตรงไหนครับ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2012, 07:48:54 PM »
ย้ำอีกทีว่าผมมือใหม่นะครับ มี HD ให้เล่นคันเดียวและคันสุดท้าย พอรถเสียปุ๊บ ไม่อยากแจ้นไปร้านซ่อม ;Dอย่างสตารท แล้วดังแป๊กเดียว ผมก็รื้อ ทิ่ม จิ้ม พ่วง มันส์หยดของผม กว่าจะปลงใจซื้อแบตเทียมมาใส่ ก็เป็นเดือน แล้วก็ กลับมาฉุยฉายได้อีก เหตุที่ได้ทำการเช็ค Alternator ก็เพราะไฟชารตไม่ขึ้น ไม่มี 14.7 VDC ที่ว่า โชคของผมดีที่ แค่ขั้วสกปรก ลุยฝุ่นลุยโคลนมากไปหน่อย ระบบไฟก็มี 2 อย่าง คือ Alternator และ ชุดแผ่นชารต ถ้าวัดโวลท์ที่แบตแล้วตกลงเรื่อยๆ ถ้าไฟที่ออกจาก Alternator เป็นปกติ ชุดแผ่นชารต ในส่วนวงจร Regulator น่าจะมีปัญหานะครับ เพราะหน้าที่คือ รักษาระดับโวลท์ให้คงที่ Load น้อยรักษาระดับอยู่ได้ พอ Load มากจากไฟหน้าที่เปิด ก็วูบๆลงไปเพราะRegulatorจ่ายกระแสไม่ไหว อันนี้ วิเคราะห์แบบช่างไฟนะครับ ซึ่งไอ้ตัว Regulator ของผมเกือบโดนผ่าเล่นแล้ว ถ้ามันเสีย ใครมีแผ่นชารตHDเสียๆ ลองส่งให้ผมยำเล่นดู ถ้าตีแตก ก็จะเอามาแชร์ ฝรั่งมันบอกไม่ไห้ซ่อม ให้เปลี่ยนเท่านั้น เฮ่อๆ ย้ำอีกทีว่าผมมือใหม่ แต่อะไรที่ทำเองได้ก็อยากจะทำเองครับ สนุกดี ประหยัด ได้ความรู้ ใกล้ชิดกับรถมากขึ้น อยากให้เกิดการแชร์ กล้าแชรความรู้ และเต็มใจที่จะแชร คิดว่าเป็นเรื่องดีครับ จริงใจที่จะบอก ผิดถูกต้องมาวิเคราะห์กันเองในหมู่ผู้หลงใหล HD ยอดฝีมือทั้งนั้นครับ pray
|
บันทึกการเข้า
...Become A Biker from inside.
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2012, 12:19:31 PM »
ต้องขอบคุณที่ให้ความรู้..การซ่อม HD บางครั้งถ้าเราเอาความรู้มาแชร์กันก็มีประโยขน์มาก โดยเฉพาะจากประสพการณ์ตรง และอีกอย่างหนึ่งคือไว้แก้ปัญหาในระหว่างเดินทาง หากท่านใดมีความรู้หรือประสพการณ์ ในการวิเคราะห์ปัญหาช่วยกรุณา แนะนำด้วยนะ๊ครับ ขอขอบคุณล่วงหน้า
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 22, 2012, 10:23:44 AM »
pray pray ได้ความรู้อย่างมากเลยครับขอบคุณครับ pray pray
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2012, 08:22:35 AM »
|
บันทึกการเข้า
|