คือถ้า เที่ยวแบบ trekking ต้อง trekkingthai.com เที่ยวแบบประหยัดหน่อย แต่ชมโลกได้ทั่ว พวกระผม ขี้เมา คงไม่ได้ชมอะไรมากนัก
เขาทำโปรแกรมไว้ดีมากๆ นะ เขียนได้แบบนี้ต้องผู้ชำนาญเท่านั้นครับ
พวกผมจ้าง คือจ้างรถกระบะไว้คอยเก็บศพ กับ ทำเอกสารเท่านั้น ไม่ได้จ้างผู้รู้อันใด
หลวง พระบาง เมืองมรดกโลก เมืองที่เต็มไปด้วย ศิลปวัฒนธรรม ในแบบล้านช้าง ที่น่าไปเยือนยิ่งนัก ไม่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มองหาความสวยงามจากภายนอก ทริปนี้น่าจะเหมาะกับคนที่พร้อมรับและเรียนรู้สิ่งที่อยู่ภายในมากกว่า ที่ผ่านมาปัญหาในการเดินทางไป เป็นเรื่องใหญ่อย่างหนึ่งในประเทศลาว แบ็กแพ็คเกอร์ ทั่วๆไป ต้องใช้รถประจำทางของรัฐบาล ซึงเป็นรถหวานเย็นจอดตลอดทาง จากเวียงจันทน์ ถึงหลวงพระบางต้องใช้เวลาประมาณ 12-14 ชม.(ระยะทาง370 กม.)นั่งกันจนขาแข็งลงมาต้องหัดเดินใหม่ แต่ก็แล้วอารมณ์ความชอบ ดังนั้นหากใครดูแล้วคิดว่าอยาก เอาเวลาที่เสียไปเที่ยวแล้วมีเวลาอยู่กับแต่ละจุดเต็มที่ขึ้น โดยร่างกายไม่เพลีย ซึ่งหมายถึงอาจต้องมีเวลาเดินทางมากขึ้น เราก็ไปกันหลายๆคน แล้วเช่ารถตู้ในลาวเหมาไปจะสะดวกขึ้นอย่างมาก ใครมีงบมากกว่านี้ก็มีแพคเกจไปด้วยเครื่องบิน ไม่แพงกว่านี้มากนักครับ แต่ว่าจะอดสัมผัสกับเมืองน้อย ๆ ที่สวยมากอีกเมืองหนึ่งคือวังเวียง ซึ่งเป็นเมืองระหว่างทางที่ยิ่งนานวัน ยิ่งน่าสนใจ ไป แต่ด้วยเหตุที่ จากกรุงเทพถึงหลวงพระบางค่อนข้างไกล ปัญหาลางานยาวจึงเป็นปัญหาต่อไป ไปทั้งที ควรให้คุ้มหน่อย ใครที่ไม่อยากนั่งรถไกล ตอนนี้มีทางออกโดยนั่งเครื่องบินไปลงที่อุดร แล้วไปนอนรอก่อนที่หนองคาย 1 วันสบาย ๆ
จัดในรูปแบบทัวร์ ออกมาเป็นทริปนี้จ้า (4คืน 5วันในลาว , ที่วังเวียง 1 คืนและ 3 คืนในหลวงพระบาง)
วันแรกของการเดินทาง ( 22 ต.ค. 47 )
19.00น. พบกันที่ สถานีรถทัวร์ หมอชิตใหม่ ชานชลาไหน จะโทรแจ้งให้ทราบ เดินทางโดยรถทัวร์ปอ.1 (ใครจะไปรอที่หนองคายก็เดินทางไก่อน 1 วันครับ)
วันที่ 2 ของการเดินทาง ( 23 ต.ค. 47 )
06.30 น. ถึงหนองคาย ขนสัมภาระ ขึ้นรถ Jumbo ไปทานอาหารเช้า และจองตั๋วรถทัวร์ขากลับ ทานอาหารเช้ายอดฮิต ไข่กระทะ ขนมปังข้าวจี่ใส้หมูยอ
08.30 น. ไปสะพานมิตรภาพ ไทยลาว ยื่นเอกสาร
09.30 น. ขึ้นรถลุงเปิ้ล เข้าเวียงจันทน์ แลกเงินไว้ใช้สัก ล้าน 2 ล้านกีบ แล้วลุยกันต่อไปสู่วังเวียง
13.00 น. ทานอาหารกลางที่ร้านอาหาร นางสีสะหว่าง ที่วังเวียง
14.30 น. มีกิจกรรมให้เลือก คือ เช่าจักรยาน (40 บาท) ล่องห่วงยาง (120 บาท ) พายเรือ แคนู (คนละ 200 บาท)
18.00 น. เข้าที่พัก อาบน้ำ
19.00 น. ทานอาหารเย็น อาหารหลัก เป็นปลาน้ำโขง ต้มยำ และผัดเผ็ด ร้าน ไผ่คำอันลือชื่อของวังเวียง
วันที่ 3 ของการเดินทาง ( 24 ต.ค. 47 )
06.00 น. ออกชมตลาด วังเวียงยามเช้า เป็นตลาดนัดชาวบ้าน ซาบซึ้งวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ทานอาหารเช้า(ตามอัธยาศัย)
09.00 น. เข้าชมถ้ำจัง ถ้ำน้ำ และ ถ้ำด้านบน เสียค่าเข้าชม 9000 กีบ
10.00 น. รถลุงเปิ้ล ล้อหมุน มุ่งสู่ หลวงพระบาง
13.00 น. ทานอาหารกลางวันระหว่างทางที่บ้านกิ่วกระจำ บรรยากาศกลางหุบเขา อาหารระหว่างทาง เฝอ ข้าวผัด
16.30 น. ถึงหลวงพระบางแวะเช็คอินโรงแรมแล้ว เริ่มเที่ยวในทันทีลุยปีนเขาขึ้นนมัสการพระธาตุภูสี กลางเมืองหลวงพระบาง ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก
18.00 น.เข้าที่พัก ที่ พักที่จองไว้ บรรยากาศ สดชื่น สงบเงียบ อาบน้ำ เปลี่ยนชุดหล่อ
19.30 น. ทานอาหารเย็น บนบรรยากาศ ริมน้ำโขง ที่ร้านอาหารทิวทัศน์แคมโขง อาหารปลาน้ำโขงเป็นเอก แกล้ม เบยลาว
20.00 น. เดินชมตลาดนัด ซึ่งเป็นตลาดนัดกลางคืน ขายของพ้นเมืองคล้ายเชียงใหม่ ดูของ ต่อราคา อย่าเพิ่งซื้อเพราะยังมีเวลาอีกหลายวัน
21.00 น. นอนพักผ่อน หรือจะไปเปิดหูเปิดตากันก็ตามอัธยาศัย
วันที่ 4 ของการเดินทาง ( 25 ต.ค. 47 )
06.00 น. ตื่นเช้าออกไปใส่บาตร พระ100 กว่าองค์ ตามวัฒนธรรมลาว แล้วเดินเที่ยว ตลาดแคมโขง ทานอาหารเช้า ข้าวปุ้น,ข้าวเปียก …(ตามอัธยาศัย) แล้วเดินเที่ยวรอบ ภูสี (วัดพระบรมสารีริกธาตุ),
08.00 น. เข้าชมพระราชวังเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติลาว แล้วไปพระธาตุหมากโม วัดเชียงทอง
10.30 น. ลงเรือไปเที่ยวถ้ำติ่ง ขึ้นไปตามลำน้ำโขง ชมบ้านต้มเหล้า ทานอาหารกลางวันที่ ร้านอาหารแบบชาวบ้านที่บริการด้วยปลาน้ำโขง สดๆเป็นๆ ชมถ้ำติ่งที่มีพระพุธรูปโบราณ อายุกว่าร้อยปี
16.00 น. กลับที่พัก เตรียมตัวทานอาหารเย็น
18.00 น. นั่งรถไปกินปลาแม่น้ำ สดๆเป็นๆ อีกมื้อหนึ่ง ให้คุ้ม กับชื่อเสียงของปลาน้ำโขง วันนี้ ร้านสุดาพอน อาหารแบบชาวบ้าน อย่างลาวแท้ๆ สุดเด็ด ต้มแจ่วปลาโจก (ต้องสั่งล่วงหน้าจึงจะทำให้) ส้มตำ รสชาดสุดๆ (อย่าให้ใส่พริกเกิน 5 เม็ด)
20.00 น.เดินชมตลาดนัด ซึ่งเป็นตลาดนัดกลางคืน ขายของพ้นเมืองคล้ายเชียงใหม่ ดูของ ต่อราคา วันที่ 2 จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ 5 ของการเดินทาง ( 26 ต.ค. 47 )
08.00 น. ตื่นสายหน่อย หรือใครยังติดใจตักบาตรตองเช้าก็สุดแล้วแต่ ออกทานอาหารเช้า ตามร้านกาแฟดังๆที่มีคนแนะนำไว้ใน Web ทานอาหารเช้าแบบฝรั่งเศส หรือแบบลาวๆ ก็ได้ “ร้านอินโดจีน” หรือใครจะลอง ข้าวจี่ร้านอร่อยเชื้อสายเวียตนามก็ได้
09.00 น. ออกรถไปเที่ยวน้ำตก กว่างสี เป็นน้ำตกที่สวยงาม ระหว่างทางแวะชม หมู่บ้านผานม พระธาตุที่มองเห็นจากที่พัก
13.00 น. ทานข้าวกลางวันในบรรยากาศเย็นฉ่ำ ของน้ำตก จิบ เบยลาว
15.00 น. กลับเข้าเมืองหลวง เช่าจักรยาน ลุยเมืองหลวง ได้รัศมีไกลกว่าเดิน เที่ยวให้ทั่ว เก็บรายละเอียด ถ่ายรูปให้ครบ ทุกจุดที่ผ่านมาหากมีบางแห่งที่ตกหล่น
18.00 น. อาหารเย็นวันนี้ มาบรรยากาศริม ม.คานกันมั่ง เป็นอาหารแบบลาวๆ แต่เป็นร้านทำเสริฟฝรั่ง จึงค่อนข้างจืดๆหน่อย
20.00 น. วันนี้รอบดึกคงไม่ออก เพราะเที่ยวทั่วเมืองหลวงแล้ว และพรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า
วันที่ 6 ของการเดินทาง ( 27 ต.ค. 47 )
05.30 น. ออกเดินทาง มุ่งกลับสู่เวียงจันทน์แวะหาของรองท้องที่ท่ารถ แล้วลุยขึ้นเขา อากาศเย็นสบาย
08.30 น. แวะทานอาหารระหว่างทาง ที่กิ่วกะจำ เป็นอาหารเช้ามื้อด่วน จะเป็นกาแฟ ไข่ทอด หรือ เฝอ
13.00 น. ทานอาหารกลางวันเจ้าเก่ายอดนิยม ร้านไผ่คำที่วังเวียง
15.00 น. ถึงเวียงจันทน์ ตะเวน เที่ยว ถ่ายรูป สถานที่สวยงาม วัดวาอาราม ประตูชัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปเหมือนไม่ได้มา Shopping ตลาดเซ่า แห่งเมืองเวียงจันทน์ แล้วแต่เวลาจะอำนวย
18.00 น. ข้ามสะพานมิตรภาพสู่แดนไทย กินก๋วยเตี๋ยว (ในลาวไม่มี มีแต่ เฝอ) ตามอัธยาศัย
20.00 น. ขึ้นรถทัวร์ กลับกรุงเทพฯ ถึงกรุงเทพฯ 05.00 น. กลับบ้านเปลี่ยนชุดทำงาน อย่างซื่นมื่น ก็ลางานเพิ่มจากวันหยุดปกติอีกแค่ 1 วันเองนะเนี่ย
แต่ละร้านอาหารที่เลือกให้ทานนี่ทานแต่ที่เด็ด ๆ ล้วน ๆ นะครับ ลองไปทานกันดู....
ข้อมูล จาก
http://www.trekkingthai.com/trekking/detailtrip.php?trip_id=12&type_id=|12|ครับ