เดินลงมาชั้นล่าง.. คันนี้ก็สวย.. Panhead ปี 1948 เป็นเครื่องยนต์อีกรุ่นที่มีเสน่ห์ในตัวมันเองจริงๆ
รถแข่งในแบบ Super Bike ในยุค 1950 กับ KRTT ปี 1953
เดินมาเจอเจ้า Black Springer ในอดีต.. สีขาว-น้ำเงิน สีเดียวกันเปี๊ยบเลย..
Heritage Springer FLSTS ถูกผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1997 โดยยึดเอารูปแบบรถในสมัยเก่ามาผลิตใหม่..
อย่างชุดสปริงเกอร์หน้า ที่ไปเอาของ FL 1948 มาใช้ใหม่.. หรือไฟท้ายแบบ Tomb Stone, ท่อหางปลา ซ้าย-ขวา.. เบาะ-กระเป๋ามีหนวด..
ชุดสีเอามาจากแนวของรถในยุค 1930 แถมด้วยยางขอบขาวที่ใช้ในยุค 1950
เจ้าคันนี้เลยเข้ามาอยู่ในทำเนียบรถที่น่าเก็บสะสม.. แต่พอหันมาดูเจ้า Black Springer แล้ว.. ผมชอบของผมแบบนี้ เก็บแบบนี้ดีกว่าไม่ซ้ำใครดี
รถวิบาก MT-500 ปี 1995 ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในกองทัพ Canada..
ถูกสร้างขึ้นจากโรงงาน Armstrong ของอังกฤษ ที่ Harley ไปซื้อมาในปี 1986
Buell RR 1000 Battle Twin.. เพิ่งรู้ว่า Buell ก็เคยทำรถทรง Super Bike แบบนี้ด้วยเหมือนกัน
อีกคันในทำเนียบรถที่น่าเก็บสะสม.. เจ้า Fat Boy หัวเหลือง ปี 1990.. โทนสีแบบเดียวกับระเบิดนิวเคลียร์ที่ถล่มประเทศญี่ปุ่น
ต้องขอบคุณ Arnold Schwarzenegger กับหนัง Terminator 2 ที่ทำให้คนแทบทั้งโลกรู้จักกับเจ้า Fat Boy..
กลับออกมายืนที่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์อีกครั้ง.. กับครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มาเหยียบถิ่นกำเนิดของ Harley-Davidson ได้อย่างที่ฝันเอาไว้ตั้งแต่เด็ก..
มาถึงตั้งแต่ 10 โมงเช้า.. กลับออกมาเกือบ 6 โมงเย็น.. ใช้เวลาตั้งแต่เริ่มต้นออกจากเมืองไทยไปแล้วประมาณ 34 ชั่วโมง..
และแล้วก็ได้เวลากลับไปชาร์จไฟซะที.. นี่ถ้าไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ กับโรงงาน HD คงหนีกลับไปนอนตั้งแต่เที่ยง..
เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปชมสำนักงานใหญ่ของ Harley-Davidson กันครับ