« ตอบกลับ #1110 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 06, 2012, 08:26:10 PM »
สวัสดีครับ
ออกทริปหน้าพี่หนึ่งอย่าลืมหารองเท้าที่เหมาะสมนะครับ จำเป็นครับ
เดียวทริปหน้าไปไหนกันดี อย่าลืมแจ้งมานะครับ ถ้าว่างจะไปด้วย
ดีใจที่พี่สนุกกับทริปแรก
ต้องขอขอบคุณน้อง bat มากๆเลยครับสำหรับคำแนะนำดีๆ ทั้งเรื่องการเทคนิคการขี่ การดูแลรถ และเครื่องแต่งกาย(รองเท้า) รวมทั้งการคอยคุมอยู่ด้านหลังและดูแลเพื่อนๆตลอดระยะทางที่ไปกันเมื่อวาน เดี๋ยวพี่จะจัดให้แล้วค่อยเอางานไปส่งน้อง bat คราวหน้านะครับ อิอิ
ขอน้องหนึ่ง หรือ น้อง bat เฉลยคำแนะนำดีๆ ผ่านกระทู้นี้ด้วยนะครับ
มีพี่มือใหม่ บ้านไกล ยังต้องการคำแนะนำเหมือนกัน
อย่างเช่น เมื่อวาน เด็กปั้ม เติมน้ำมัน หกใส่ถังน้ำมัน แล้ว ไปเอาน้ำยาเช้ดกระจกมาเช็ดล้างให้
กลายเป็น ว่า เป็นรอยด่าง เป็นปื้นๆ วันนี้ล้างรถ ล้างอย่างไรก็ไม่ออก หละ
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1111 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 07:25:52 AM »
เรื่องเติมนํ้ามันแล้วมันกระเด็นโดนรถนี้ผมก็มีเรื่องเล่าครับ...ปรกติแรกๆได้รถมาจะเติมนํ้ามันทีก็จะบอกเต็มถังตลอดมีทริปนึงจะถึงบ้านแลัวฟ้ามืดเวลาเติมเด็กปั้มก็จะโฉงกหน้าคอยดูว่าใกล้เต็มรึยังแต่ด้วยว่ามืดเลยมองจากแล้วน้องมันกดมันมือไปหน่อยกลายเป็นรดนํ้าต้นไม้ซะงั้น ฮ่าๆ ราดถังผมแล้วกระจายมาลงเครื่องนิดๆ ผมก็ร้อง โอ้วๆๆๆน้อง พอแล้วๆ ฮ่าๆ ในใจอารมณ์เสียนิดๆแต่ก็ไม่เป็นไรรีบจ่ายตังส์ แต่ปิดฝาถังไม่ได้นํ้ามันเอ่อล้นเต็มเลยๆเข็นรถไปหน้าห้องนํ้าเลยเอาผ้าเช็ดหน้าจุ่มใส่นํ้ามันที่ล้นเอ่อฝาถังแล้วบิดนํ้ามันทิ้งไปจนนํ้ามันเหลืออยู่ระดับปากฝาถังด้านในจึงปิดฝาถังได้ทำไปก็แอบบ่นในใจไปกลัวสีรถจะด่างอีกเวรกรรม พอปิดฝาถังได้เท่านั้นละผมหาแก้วนํ้าเปล่าในถังขยะเทเศษนํ้าแข็งในแก้วทิ้งไปแล้วล้างนํ้าให้สะอาดก่อนผมเทราดอยู่อย่างนั้นเหมือนล้างรดเลยครับแต่ราดเฉพาะจากถังนํ้ามันลงไปจนคิดว่าคราบนํ้ามันเจือจางแล้วจึงพอครับเสียเวลาอยู่กับขั้นตอนนี้ประมาณ 20 นาทีครับ เฮ่อ! surrender หลังจากนั้นมาเวลาผมจะเติมนํ้ามันหรือแม้แต่ตอนออกทริปผมจะใช้ผ้าเช็ดหน้าห่อตรงปากถังนํ้ามันรองเอาไว้เอาไว้เลยครับสะบายใจดี ฮ่าๆ"เด็กปั้มมันจะว่าผมดัจริต"ช่างมันเพราะมันไม่ได้มาล้างรถให้ผมมันเติมอย่างเดียวพวกนี้ ฮ่าๆ แล้วผมจะไม่บอกเติมเต็มถังแล้วครับบอกเป็นตัวเลขเลยใช้การกะประมาณเอาจากที่เคยขับครับเป็นการแก้ปัญหานํ้ามันหกใส่รถได้เป็นอย่างดีรถผม 48 เวลาไฟโชว์นํ้ามันเวลามันสว่างขึ้นต้องเติมแล้วนั้น ผมบอกเลยน้อง 170 - 180 ก็ว่าไปมันจะพอดีฝาถังด้านในเลยครับแต่ถ้าออกทริปแล้วไฟโชว์บางทีเติมไม่ได้ทันทีอาจต้องขับไปอีก 20-30 กิโลเมตร ผมก็จะเติม 200 เลยครับไม่มีล้นเลยคราวนี้ยิ่งได้ผ้าเช็ดหน้ามารองด้วยแล้วนี้หมดปัญหาเลยครับแถมเอาผ้าเช็ดหน้าที่โดนนํ้ามันเล็กๆน้อยๆบ้างเวลาเติมมาดมนี้มันชื่นใจจริงๆแทนยาดมเลยครับ ฮ่าๆ boogie (อันนี้ความชอบส่วนตัวนะครับออกแนวโรคจิตร ฮ่าๆ) แชร์ข้อมูลส่วนตัวให้อ่านเล่นๆนะครับแต่ถ้าจะเอาไปทำบ้างก็ยินดีเลยครับ number1
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1112 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 09:30:48 AM »
ยินดีครับ
จริงๆ แล้วพี่หนึ่งออกมาขี่ตอนหลังสองทุ่มกับพวกผมก็ได้นะครับ ส่วนใหญ่พวกผมไปกินน้ำชากัน หาเรื่องขี่รถแล้วนักเจอเพื่อนๆ ชาว HD พอถึงร้านน้ำชาก็คุยกันเรื่อง HD 90% ผมว่าเป็นการพักผ่อนที่ดีครับ
ขี่ในหมู่บ้านคนเดียวไม่สนุกหลอกครับ
ลองดูถ้าพี่ว่างก็นัดเจอกันหลัง 2 ทุ่ม ส่วนใหญ่ผม พี่นัน และบอลจะว่างหลัง 2 ทุ่ม แถมพวกเราอยู่บ้านใกล้กันด้วย ตอนขากลับ ก็ขี่มาพร้อมกันได้เลย วันนี้มีพี่ชวนไปกินน้ำชากัน (สงสัยคงอยากขี่รถ เพราะติดลูกค้า Malay ตอนช่วงเสาร์ อาทิตย์) วันนี้คงว่างหน่อย เลยชวนผมแล้ว ถ้าพี่หนึ่งว่างก็เจอกันนะครับ
ขอบคุณน้อง bat มากเลยครับที่ชวน พอดีช่วงนี้พี่เลี้ยงเด็กๆที่บ้านไม่อยู่ พี่เลยต้องดูคนเดียวเลย เพราะแฟนพี่กว่าจะเลิกงานและกลับถึงบ้านก็เกือบสามทุ่มแล้ว อิอิ ... แต่ถ้าพี่เลี้ยงกลับมาเมื่อไหร่ คงได้ออกไปแจมด้วยแน่ๆ เพราะเมื่อวานพี่ขี่ Iron883 ไปดูคนไข้ตอน 1-2ทุ่ม (ปล่อยให้เด็กๆอยู่บ้านกันเองประมาณ 1ชม. อิอิ) แล้วรีบขี่กลับบ้านเลย ดูแล้วน่าจะออกไปแจมได้สบายๆ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1113 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 10:44:19 AM »
เรื่องเติมนํ้ามันแล้วมันกระเด็นโดนรถนี้ผมก็มีเรื่องเล่าครับ...ปรกติแรกๆได้รถมาจะเติมนํ้ามันทีก็จะบอกเต็มถังตลอดมีทริปนึงจะถึงบ้านแลัวฟ้ามืดเวลาเติมเด็กปั้มก็จะโฉงกหน้าคอยดูว่าใกล้เต็มรึยังแต่ด้วยว่ามืดเลยมองจากแล้วน้องมันกดมันมือไปหน่อยกลายเป็นรดนํ้าต้นไม้ซะงั้น ฮ่าๆ ราดถังผมแล้วกระจายมาลงเครื่องนิดๆ ผมก็ร้อง โอ้วๆๆๆน้อง พอแล้วๆ ฮ่าๆ ในใจอารมณ์เสียนิดๆแต่ก็ไม่เป็นไรรีบจ่ายตังส์ แต่ปิดฝาถังไม่ได้นํ้ามันเอ่อล้นเต็มเลยๆเข็นรถไปหน้าห้องนํ้าเลยเอาผ้าเช็ดหน้าจุ่มใส่นํ้ามันที่ล้นเอ่อฝาถังแล้วบิดนํ้ามันทิ้งไปจนนํ้ามันเหลืออยู่ระดับปากฝาถังด้านในจึงปิดฝาถังได้ทำไปก็แอบบ่นในใจไปกลัวสีรถจะด่างอีกเวรกรรม พอปิดฝาถังได้เท่านั้นละผมหาแก้วนํ้าเปล่าในถังขยะเทเศษนํ้าแข็งในแก้วทิ้งไปแล้วล้างนํ้าให้สะอาดก่อนผมเทราดอยู่อย่างนั้นเหมือนล้างรดเลยครับแต่ราดเฉพาะจากถังนํ้ามันลงไปจนคิดว่าคราบนํ้ามันเจือจางแล้วจึงพอครับเสียเวลาอยู่กับขั้นตอนนี้ประมาณ 20 นาทีครับ เฮ่อ! surrender หลังจากนั้นมาเวลาผมจะเติมนํ้ามันหรือแม้แต่ตอนออกทริปผมจะใช้ผ้าเช็ดหน้าห่อตรงปากถังนํ้ามันรองเอาไว้เอาไว้เลยครับสะบายใจดี ฮ่าๆ"เด็กปั้มมันจะว่าผมดัจริต"ช่างมันเพราะมันไม่ได้มาล้างรถให้ผมมันเติมอย่างเดียวพวกนี้ ฮ่าๆ แล้วผมจะไม่บอกเติมเต็มถังแล้วครับบอกเป็นตัวเลขเลยใช้การกะประมาณเอาจากที่เคยขับครับเป็นการแก้ปัญหานํ้ามันหกใส่รถได้เป็นอย่างดีรถผม 48 เวลาไฟโชว์นํ้ามันเวลามันสว่างขึ้นต้องเติมแล้วนั้น ผมบอกเลยน้อง 170 - 180 ก็ว่าไปมันจะพอดีฝาถังด้านในเลยครับแต่ถ้าออกทริปแล้วไฟโชว์บางทีเติมไม่ได้ทันทีอาจต้องขับไปอีก 20-30 กิโลเมตร ผมก็จะเติม 200 เลยครับไม่มีล้นเลยคราวนี้ยิ่งได้ผ้าเช็ดหน้ามารองด้วยแล้วนี้หมดปัญหาเลยครับแถมเอาผ้าเช็ดหน้าที่โดนนํ้ามันเล็กๆน้อยๆบ้างเวลาเติมมาดมนี้มันชื่นใจจริงๆแทนยาดมเลยครับ ฮ่าๆ boogie (อันนี้ความชอบส่วนตัวนะครับออกแนวโรคจิตร ฮ่าๆ) แชร์ข้อมูลส่วนตัวให้อ่านเล่นๆนะครับแต่ถ้าจะเอาไปทำบ้างก็ยินดีเลยครับ number1
ขอบค6Iมากเลยน้อง โอซัง48 เคยเจอล้นแบบน้องเหมือนกัน แต่เช้คด้วยผ้าธรรมดาก็โอเค คราวนี้ น้องคงหวังดี ใช้น้ำยาเช็ดดกระจกมา เช็ดซ้ำให้ เลยกลายเป็นคราบปื้นๆ ไม่เงา ..ล้างยังไงก็ไม่เหมือนเดิมเลย อารมณ์ดมกลิ่นน้ำมันแล้วหอมนี่ พี่ก็เป็น 5555 แบบ เวลาเติมน้ำมันรถยนต์ ก็ต้องลงมาดมกลิ่นนอกรถ คงเพราะ ตอนเด็ก ๆ ปิดเทอม เคยไปเป็นเด็ก ปั๊ม มาก่อนก็ไม่รู้สิ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1114 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 10:46:55 AM »
 รูปวัน meeting ครับ
ขอเอาอีกสัก หลายๆรูป ครับ ของหนึ่งนี่ น่าจะเป็นคันที่สี่ ใช่มะ ใช่มะ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1115 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 11:24:50 AM »
โอย มีจองคิวกันเต็มเลย ฮอตจริงๆคร้าบบบบบบบบบ number1 number1
เดี๋ยวทริปหน้า พี่จะจัดให้น้องแน็คแบบเต็มๆเลยนะครับ ... แต่พี่ก็อยากจะดูทริปทางเหนือบ้างเหมือนกัน เมื่อไหร่จะนัดพี่อ๋อออกทริปบ้างล่ะ? อิอิ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1116 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 11:29:26 AM »
สวัสดีครับ
ออกทริปหน้าพี่หนึ่งอย่าลืมหารองเท้าที่เหมาะสมนะครับ จำเป็นครับ
เดียวทริปหน้าไปไหนกันดี อย่าลืมแจ้งมานะครับ ถ้าว่างจะไปด้วย
ดีใจที่พี่สนุกกับทริปแรก
ต้องขอขอบคุณน้อง bat มากๆเลยครับสำหรับคำแนะนำดีๆ ทั้งเรื่องการเทคนิคการขี่ การดูแลรถ และเครื่องแต่งกาย(รองเท้า) รวมทั้งการคอยคุมอยู่ด้านหลังและดูแลเพื่อนๆตลอดระยะทางที่ไปกันเมื่อวาน เดี๋ยวพี่จะจัดให้แล้วค่อยเอางานไปส่งน้อง bat คราวหน้านะครับ อิอิ
ขอน้องหนึ่ง หรือ น้อง bat เฉลยคำแนะนำดีๆ ผ่านกระทู้นี้ด้วยนะครับ มีพี่มือใหม่ บ้านไกล ยังต้องการคำแนะนำเหมือนกัน อย่างเช่น เมื่อวาน เด็กปั้ม เติมน้ำมัน หกใส่ถังน้ำมัน แล้ว ไปเอาน้ำยาเช้ดกระจกมาเช็ดล้างให้ กลายเป็น ว่า เป็นรอยด่าง เป็นปื้นๆ วันนี้ล้างรถ ล้างอย่างไรก็ไม่ออก หละ
ไปช่วยเปิด google แล้ว พอได้ความรู้มาเล็กน้อยนะครับพี่อ๋อ ว่า ถ้าเปื้อนคราบน้ำมันที่ตัวรถ ให้ใช้ baking soda ผสมน้ำแล้วเช็ดออกครับ ... แต่ยังไม่เคยลองนะครับ ถ้าพี่อ๋อมีวิธีอื่นๆที่ได้ผลแล้ว ช่วยแจ้งเพื่อนๆด้วยนะคร๊าบบบบ ผมก็โดนเหมือนกันครับ แต่เป็นหยดสองหยดเท่านั้น ยังไม่ได้เช็ดเลย ... ตั้งแต่ซื้อมา ล้างไปแค่ครั้งเดียวที่เปื้อนโคลนเยอะๆ (ตอน ... ร้อยโลครั้งแรกครับ อิอิ)
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1117 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 11:32:34 AM »
เรื่องเติมนํ้ามันแล้วมันกระเด็นโดนรถนี้ผมก็มีเรื่องเล่าครับ...ปรกติแรกๆได้รถมาจะเติมนํ้ามันทีก็จะบอกเต็มถังตลอดมีทริปนึงจะถึงบ้านแลัวฟ้ามืดเวลาเติมเด็กปั้มก็จะโฉงกหน้าคอยดูว่าใกล้เต็มรึยังแต่ด้วยว่ามืดเลยมองจากแล้วน้องมันกดมันมือไปหน่อยกลายเป็นรดนํ้าต้นไม้ซะงั้น ฮ่าๆ ราดถังผมแล้วกระจายมาลงเครื่องนิดๆ ผมก็ร้อง โอ้วๆๆๆน้อง พอแล้วๆ ฮ่าๆ ในใจอารมณ์เสียนิดๆแต่ก็ไม่เป็นไรรีบจ่ายตังส์ แต่ปิดฝาถังไม่ได้นํ้ามันเอ่อล้นเต็มเลยๆเข็นรถไปหน้าห้องนํ้าเลยเอาผ้าเช็ดหน้าจุ่มใส่นํ้ามันที่ล้นเอ่อฝาถังแล้วบิดนํ้ามันทิ้งไปจนนํ้ามันเหลืออยู่ระดับปากฝาถังด้านในจึงปิดฝาถังได้ทำไปก็แอบบ่นในใจไปกลัวสีรถจะด่างอีกเวรกรรม พอปิดฝาถังได้เท่านั้นละผมหาแก้วนํ้าเปล่าในถังขยะเทเศษนํ้าแข็งในแก้วทิ้งไปแล้วล้างนํ้าให้สะอาดก่อนผมเทราดอยู่อย่างนั้นเหมือนล้างรดเลยครับแต่ราดเฉพาะจากถังนํ้ามันลงไปจนคิดว่าคราบนํ้ามันเจือจางแล้วจึงพอครับเสียเวลาอยู่กับขั้นตอนนี้ประมาณ 20 นาทีครับ เฮ่อ! surrender หลังจากนั้นมาเวลาผมจะเติมนํ้ามันหรือแม้แต่ตอนออกทริปผมจะใช้ผ้าเช็ดหน้าห่อตรงปากถังนํ้ามันรองเอาไว้เอาไว้เลยครับสะบายใจดี ฮ่าๆ"เด็กปั้มมันจะว่าผมดัจริต"ช่างมันเพราะมันไม่ได้มาล้างรถให้ผมมันเติมอย่างเดียวพวกนี้ ฮ่าๆ แล้วผมจะไม่บอกเติมเต็มถังแล้วครับบอกเป็นตัวเลขเลยใช้การกะประมาณเอาจากที่เคยขับครับเป็นการแก้ปัญหานํ้ามันหกใส่รถได้เป็นอย่างดีรถผม 48 เวลาไฟโชว์นํ้ามันเวลามันสว่างขึ้นต้องเติมแล้วนั้น ผมบอกเลยน้อง 170 - 180 ก็ว่าไปมันจะพอดีฝาถังด้านในเลยครับแต่ถ้าออกทริปแล้วไฟโชว์บางทีเติมไม่ได้ทันทีอาจต้องขับไปอีก 20-30 กิโลเมตร ผมก็จะเติม 200 เลยครับไม่มีล้นเลยคราวนี้ยิ่งได้ผ้าเช็ดหน้ามารองด้วยแล้วนี้หมดปัญหาเลยครับแถมเอาผ้าเช็ดหน้าที่โดนนํ้ามันเล็กๆน้อยๆบ้างเวลาเติมมาดมนี้มันชื่นใจจริงๆแทนยาดมเลยครับ ฮ่าๆ boogie (อันนี้ความชอบส่วนตัวนะครับออกแนวโรคจิตร ฮ่าๆ) แชร์ข้อมูลส่วนตัวให้อ่านเล่นๆนะครับแต่ถ้าจะเอาไปทำบ้างก็ยินดีเลยครับ number1
ขอบคุณน้องโอมากๆเลยนะครับสำหรับข้อมูลดีๆ ... ว่าแต่ผ้าที่โดนน้ำมันเวลาเติม เป็นผ้าเดียวกันกับที่ใช้พันคอไว้ตอนขี่ 48ด้วยหรือป่าวครับ? ขี่ไปก็ดมน้ำมันไป อิอิ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1118 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 12:07:43 PM »
 รูปวัน meeting ครับ
ขอเอาอีกสัก หลายๆรูป ครับ
ของหนึ่งนี่ น่าจะเป็นคันที่สี่ ใช่มะ ใช่มะ
วันนั้นจริงๆถ้าตากล้องไม่ได้แยกไปธุระที่ปัตตานี คงจะมีหลายๆรูปมาลงครับพี่อ๋อ ... รอบหน้าค่อยแก้ตัวเอาแบบหลายๆรูปเลยนะครับ อิอิ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1119 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 01:50:38 PM »
จริงๆ แล้วเรื่องคราบน้ำมันบนถัง ผมมีวิธีง่ายๆ ครับ
เวลาล้างรถ ถ้ามีเวลาพอ หลังเช็ดแห้งควรลงน้ำยาเคลือบสีรถทุกครั้ง หรืออย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งก็จะดีครับ
น้ำยาเคลือบสีมีประโยชน์หลายอย่างครับ 1 ทำให้สีรถดูสดขึ้น 2 ปกป้องสีจากเคมีต่างๆ รถผมเองเวลาเติมน้ำมันก็เจอปัญหานี้บ่อยครับ แต่ใช้น้ำและผ้าสะอาดเช็ดก็กับมาดูสดใสเหมื่อนเดิมครับ
ผมคิดว่าลองหาน้ำยาเคลือบมาทำความสะอาดดูก่อนครับ วิธีการก็ง่ายๆ ถ้ารถไม่สกปรกก็ไม่ต้องล้างครับ ให้เอาผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดก่อน จากนั้นเช็ดให้แห้ง แล้วเอาน้ำยาเคลือบมาลงหมุนเป็นวงกลมให้เป็นก้นหอย รอประมาณ 5 - 10 นาที พอเห็นเป็นคราบฝุ่นก็เช็ดให้สะอาด คิดว่าช่วยได้ครับ ส่วนเพื่อนๆที่มีรถสีดำด้านในกรณีนี้น้ำยาเคลือบสีใช้ไม่ได้นะครับ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1120 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 02:50:02 PM »
สีดำด้าน ต้องใช้น้ำยาเช็ดกระจกอย่างเดียวครับ (แต่ที่ Power มีน้ำยาเช็ดสีดำด้านโดยเฉพาะด้วย) ... ซื้อมาเดือนกว่าๆล้างไปแค่ครั้งเดียวเองครับ วันก่อนไปทริปกับเพื่อนๆ พี่อนันต์เอานิ้วมาปาดที่ถังน้ำมัน ฝุ่นหนาเตอะเลยครับ อิอิ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1121 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 04:30:15 PM »
ถ้ารถไม่สกปรกมาก ไม่มีความจำเป็นต้องล้างครับ แต่ถ้าจะล้าง ผมแนะนำตัวช่วยอีกตัวครับ เครื่องเป่าลมครับ ราคามีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึง 2,000 - 3,000 บาท
ผมเองใช้ของยี่ห้อ Bosch ราคาไม่เกิน 2,000 บาท เหตุผลที่เลือก Bosch เพราะมีข้อดีคือ ตกไม่แตก และไฟไม่ดูด มันมีระบบ safety ในตัวมันเองครับ เครื่องเป่าลมจะช่วยให้เรา save เวลาในการเช็ดแห้ง แถมบางส่วนบนรถที่เราเช็ดไม่ถึง เครื่องเป่าลมสามารถช่วยได้ (ผมว่าหลายๆ ท่านที่ล้างรถเอง ชอบที่จะล้าง แต่ไม่ชอบตอนเช็ดแห้ง) เครื่องเป่าที่ว่านี้เป็นแบบถือนะครับ สะดวกในการใช้งาน
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1122 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 07:53:36 PM »
ถ้ารถไม่สกปรกมาก ไม่มีความจำเป็นต้องล้างครับ แต่ถ้าจะล้าง ผมแนะนำตัวช่วยอีกตัวครับ เครื่องเป่าลมครับ ราคามีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึง 2,000 - 3,000 บาท ลย ผมเองใช้ของยี่ห้อ Bosch ราคาไม่เกิน 2,000 บาท เหตุผลที่เลือก Bosch เพราะมีข้อดีคือ ตกไม่แตก และไฟไม่ดูด มันมีระบบ safety ในตัวมันเองครับ เครื่องเป่าลมจะช่วยให้เรา save เวลาในการเช็ดแห้ง แถมบางส่วนบนรถที่เราเช็ดไม่ถึง เครื่องเป่าลมสามารถช่วยได้ (ผมว่าหลายๆ ท่านที่ล้างรถเอง ชอบที่จะล้าง แต่ไม่ชอบตอนเช็ดแห้ง) เครื่องเป่าที่ว่านี้เป็นแบบถือนะครับ สะดวกในการใช้งาน
ผมใช้ของ Maktec MT400 มันมีหัวต่อขนาดเล็กด้วยสำหรับเป่าครีบฮาเล่ย์พอดีเลย เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งอยู่ในเครือของ Makita สามารถปรับรอบแรงเป่าได้ครับราคาพันต้นๆเอง ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงยังไงก็ลองดูหลายๆยี่ห้อก็ได้ครับ number1
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1123 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 08:30:16 PM »
ถ้ารถไม่สกปรกมาก ไม่มีความจำเป็นต้องล้างครับ แต่ถ้าจะล้าง ผมแนะนำตัวช่วยอีกตัวครับ เครื่องเป่าลมครับ ราคามีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึง 2,000 - 3,000 บาท ลย ผมเองใช้ของยี่ห้อ Bosch ราคาไม่เกิน 2,000 บาท เหตุผลที่เลือก Bosch เพราะมีข้อดีคือ ตกไม่แตก และไฟไม่ดูด มันมีระบบ safety ในตัวมันเองครับ เครื่องเป่าลมจะช่วยให้เรา save เวลาในการเช็ดแห้ง แถมบางส่วนบนรถที่เราเช็ดไม่ถึง เครื่องเป่าลมสามารถช่วยได้ (ผมว่าหลายๆ ท่านที่ล้างรถเอง ชอบที่จะล้าง แต่ไม่ชอบตอนเช็ดแห้ง) เครื่องเป่าที่ว่านี้เป็นแบบถือนะครับ สะดวกในการใช้งาน
ผมใช้ของ Maktec MT400 มันมีหัวต่อขนาดเล็กด้วยสำหรับเป่าครีบฮาเล่ย์พอดีเลย เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งอยู่ในเครือของ Makita สามารถปรับรอบแรงเป่าได้ครับราคาพันต้นๆเอง ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงยังไงก็ลองดูหลายๆยี่ห้อก็ได้ครับ number1
ขอขอบคุณทั้งน้อง bat และน้องเดียร์มากนะครับ สำหรับเครื่องเป่าลมทั้งยี่ห้อ Bosch และ Maktec MT400 ... แล้วทั้งสองยี่ห้อซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ? หรือว่าต้องสั่งทาง net? ยังไงพี่คิดว่าคงต้องมีไว้ใช้สักเครื่อง เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำให้พี่มีความสุขหลังจากการล้างรถอย่างแน่นอนเลย ส่วนอีกคำถามก็คือ เครื่องเป่าลมเป็นอันเดียวกับเครื่องสูบลมยางหรือป่าวครับ? ใช้แทนกันได้หรือป่าว? เพราะตอนนี้กำลังคิดหาซื้อเครื่องสูบลมไว้สักเครื่องเหมือนกัน เพราะคงไม่ค่อยมีเวลาไปสูบที่ปั๊ม รวมทั้งถ้าไปสูบที่ปั๊มตอนนั้นเครื่องยนต์คงร้อนมากๆ อิอิ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1124 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 07, 2012, 08:48:28 PM »
ถ้ารถไม่สกปรกมาก ไม่มีความจำเป็นต้องล้างครับ แต่ถ้าจะล้าง ผมแนะนำตัวช่วยอีกตัวครับ เครื่องเป่าลมครับ ราคามีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึง 2,000 - 3,000 บาท ลย ผมเองใช้ของยี่ห้อ Bosch ราคาไม่เกิน 2,000 บาท เหตุผลที่เลือก Bosch เพราะมีข้อดีคือ ตกไม่แตก และไฟไม่ดูด มันมีระบบ safety ในตัวมันเองครับ เครื่องเป่าลมจะช่วยให้เรา save เวลาในการเช็ดแห้ง แถมบางส่วนบนรถที่เราเช็ดไม่ถึง เครื่องเป่าลมสามารถช่วยได้ (ผมว่าหลายๆ ท่านที่ล้างรถเอง ชอบที่จะล้าง แต่ไม่ชอบตอนเช็ดแห้ง) เครื่องเป่าที่ว่านี้เป็นแบบถือนะครับ สะดวกในการใช้งาน
ผมใช้ของ Maktec MT400 มันมีหัวต่อขนาดเล็กด้วยสำหรับเป่าครีบฮาเล่ย์พอดีเลย เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งอยู่ในเครือของ Makita สามารถปรับรอบแรงเป่าได้ครับราคาพันต้นๆเอง ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงยังไงก็ลองดูหลายๆยี่ห้อก็ได้ครับ number1
ขอขอบคุณทั้งน้อง bat และน้องเดียร์มากนะครับ สำหรับเครื่องเป่าลมทั้งยี่ห้อ Bosch และ Maktec MT400 ... แล้วทั้งสองยี่ห้อซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ? หรือว่าต้องสั่งทาง net? ยังไงพี่คิดว่าคงต้องมีไว้ใช้สักเครื่อง เพราะจะเป็นสิ่งที่ทำให้พี่มีความสุขหลังจากการล้างรถอย่างแน่นอนเลย ส่วนอีกคำถามก็คือ เครื่องเป่าลมเป็นอันเดียวกับเครื่องสูบลมยางหรือป่าวครับ? ใช้แทนกันได้หรือป่าว? เพราะตอนนี้กำลังคิดหาซื้อเครื่องสูบลมไว้สักเครื่องเหมือนกัน เพราะคงไม่ค่อยมีเวลาไปสูบที่ปั๊ม รวมทั้งถ้าไปสูบที่ปั๊มตอนนั้นเครื่องยนต์คงร้อนมากๆ อิอิ
ผมซื้อในหาดใหญ่นี่เองครับ ส่วนที่สูบลมผมมีทั้งแบบไฟฟ้าใช้ต่อกับไฟ12โวลล์ในรถยนต์และแบบสูบมือครับ สูบมือแนะนำใช้ของจักรยานเสือภูเขาครับมันทนกับแรงดันสูงได้ครับและสูบได้เร็วด้วยครับหาซื้อได้ตามร้านจักรยานเสือภูเขาทั่วไป >> http://www.pandarider.com/Panda/Product_StopNGo.htm
|
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 73 74 [ 75] 76 77 ... 363
|