« เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 01:24:21 PM »
ผมได้ส่งรถ(Sporter)ไปทำการตรวจ สมอ.เพื่อทำทะเบียนตามระเบียบครับ แต่พอไปรับรถกลับมาโทรมและช้ำมาก รถผมส่งไปเงียบกริบแต่กลับมาในสภาพคาร์บูสกปรกรอบรวน เสียงวาล์วดังแล้วยังมีเสียงดังมาจากชุดล่างอีกสันนิฐานว่าจะมาจากชุดเกียร์แถมน้ำมันในถังเป็น"แก๊สlโซฮอล์ 91"อีกด้วย ไม่ทราบว่ารถของพี่ๆที่ส่งไปตรวจ สมอ.เคยกลับมาในสภาพแบบผมกันบ้างไหม? เจอแบบนี้เครียดมากครับ
บันทึกการเข้า
คนรวยบรรลัยเมืองไทยมีแยะ คนดีตะโกนเลยโดนเป็นแพะ!
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 02:28:11 PM »
ผมได้ส่งรถ(Sporter)ไปทำการตรวจ สมอ.เพื่อทำทะเบียนตามระเบียบครับ แต่พอไปรับรถกลับมาโทรมและช้ำมาก รถผมส่งไปเงียบกริบแต่กลับมาในสภาพคาร์บูสกปรกรอบรวน เสียงวาล์วดังแล้วยังมีเสียงดังมาจากชุดล่างอีกสันนิฐานว่าจะมาจากชุดเกียร์แถมน้ำมันในถังเป็น"แก๊สlโซฮอล์ 91"อีกด้วย ไม่ทราบว่ารถของพี่ๆที่ส่งไปตรวจ สมอ.เคยกลับมาในสภาพแบบผมกันบ้างไหม? เจอแบบนี้เครียดมากครับ
เคยส่งไปตรวจหลายเดือนเหมือนกันกว่าจะเสร็จ แต่ไม่มีปัญหาเรื่องเครื่องดังนอกจากฝุ่นเขระมา  แล้วทำไมไม่ไปปรึกษาร้านหรือตัวแทนที่รับทำคับ ไปเล่าให้เขาฟังอย่าเกรงใจรถไม่ไช่คันล่ะบาทสองบาท แต่ถ้าไม่กล้าก็คงต้องทำใจคับ เหมือนการเล่นไพ่แล้วบังเอิญไปจั่วโจ้กเลยซวยไป surrender 
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 27, 2011, 04:10:35 PM โดย cops »
บันทึกการเข้า
แก่แต่สังขาร แต่สันดานยังวัยรุ่นอยู่
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 03:46:45 PM »
ผมได้ส่งรถ(Sporter)ไปทำการตรวจ สมอ.เพื่อทำทะเบียนตามระเบียบครับ แต่พอไปรับรถกลับมาโทรมและช้ำมาก รถผมส่งไปเงียบกริบแต่กลับมาในสภาพคาร์บูสกปรกรอบรวน เสียงวาล์วดังแล้วยังมีเสียงดังมาจากชุดล่างอีกสันนิฐานว่าจะมาจากชุดเกียร์แถมน้ำมันในถังเป็น"แก๊สlโซฮอล์ 91"อีกด้วย ไม่ทราบว่ารถของพี่ๆที่ส่งไปตรวจ สมอ.เคยกลับมาในสภาพแบบผมกันบ้างไหม? เจอแบบนี้เครียดมากครับ
เคยส่งไปตรวจหลายเดือนเหมือนกันกว่าจะเสร็จ แต่ไม่มีปัญหาเรื่องเครื่งดังนอกจากฝุ่นเขระกัง  แล้วทำไมไม่ไปปรึกษาร้านหรือตัวแทนที่รับทำคับ ไปเล่าให้เขาฟังอย่าเกรงใจรถไม่ไช่คันล่ะบาทสองบาท แต่ถ้าไม่กล้าก็คงต้องทำใจคับ เหมือนการเล่นไพ่แล้วบังเอิญไปจั่วโจ้กเลยซวยไป surrender 
ผมโทรไปหาร้านที่ทำด้วยแล้วครับ เค้าบอกว่าอย่างงี๊ครับ ไม่ได้ทำอะไรกับรถผมเลย สิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นมาน่าจะมาจากกระบวนการตรวจ สมอ.ผมก็ถามว่าแล้วกระบวนการตรวจเป็นยังไงบ้าง ก็ได้คำตอบประมาณนี้่ 1.ถอดคาร์บูของเราออกแล้วเปลี่ยนคาร์บูที่เซ็ทค่าไว้ใส่ 2.ถอดท่่อเราออกแล้วใส่ท่อเงียบๆ 3.เร่งรถเราไว้ที่ความเร็ว 80km./hr.ในครั้งแรก แล้วครั้งที่สองเร่งรถเราไว้ที่ความเร็ว 110km./hr.ซึ่งทั้งสองครั้งเร่งทิ้งไว้ 1ชม.ขึ้นไป ผมเลยข้องใจว่า มันจะตรวจค่าตามมาตรฐานหรือจะทำให้รถพังวะ? ทั้งๆที่ก่อนไปตรวจรถผมเงียบกริบเครื่องแน่นแถมเปลี่ยนของเหลวทุกอย่างไปด้วย(รถปี05ด้วยไม่ใช่ปีลึก) ไม่ควรจะยับเยินกลับมาถึงขนาดนี้ เมื่อได้คำตอบอย่างงี๊มาผมคงต้องทำใจ ไม่อยากจะคิดว่ารถเราโดนใส่หอม,ตะไคร้,มะนาว มันจะเสียความรู้สึกกันไปใหญ่ 
|
บันทึกการเข้า
คนรวยบรรลัยเมืองไทยมีแยะ คนดีตะโกนเลยโดนเป็นแพะ!
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 04:08:51 PM »
ผมตรวจมาสองคัน ไม่เคยมีปัญหาครับ มีแต่ความสกปรก คาบน้ำมัน
|
บันทึกการเข้า
ฮาเล่ย์ฝั่งธนฯ คนบางแค... number1 
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 04:23:50 PM »
ผมตรวจมาสองคัน ไม่เคยมีปัญหาครับ มีแต่ความสกปรก คาบน้ำมัน
สงสัยผมจะจั่วได้ไผ่โจ๊กเกอร์อย่างที่พี่เค้าบอกจริงๆ 555+ jawdrop
|
บันทึกการเข้า
คนรวยบรรลัยเมืองไทยมีแยะ คนดีตะโกนเลยโดนเป็นแพะ!
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 08:01:19 PM »
ไม่ทราบว่าก่อนไปตรวจ จดเลขใมล์ไว้รึเปล่าครับ เกรงว่าจะมีมือดีแอบเอารถไปซิ่งมาก่อนน่ะครับ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 09:12:55 PM »
 ผมเคยไปตรวจเอง (ตอนนั้นปี2546) ทำเอง เจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจอธิบายขั้นตอนการตรวจ คือให้ทางเจ้าของไปปรับจูนเองและแนะนำให้ใส่ท่อcatalytic เพื่อลดค่าhydrocabon และค่าcabondioxid.ในระหว่างขื้นแท่นทดสอบตั้งแต่เกียร์1-5และจะนำค่าที่วัดได้แต่ละเกียร์มาเฉลี่ยให้ได้ค่าตามมาตราฐาน EURO4 ตอนนี้ได้ข่าวว่าปรับมาตราฐานเป็นEURO5แล้วทำให้อยากกว่่่าเดิม แต่ที่ผมสงสัยก็คือคนที่ตรวจมีหน้่าที่อะไรถึงต้องมาถอดคาบูและถอดท่อโดยไม่ได้รับอนุญาติเพราะขบวนการเตรียมรถเพื่อตรวจสอบนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าของรถครับผมไม่ทราบว่าปัจุบันเขาเตรียมให้เราเองหรือครับหรือเจ้าหน้าที่คนนั้นได้รับคำสั้งมาให้ปร้บจูนจากร้านค้าหรือDEALERผู้ที่ทำงานด้านจดทะเบียนหรือป่าว ambulance
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 09:19:59 PM »
กลับมาเหมือนโดนรุมโทรม แถมเอารถมาคืนตอนมืด ๆ จะได้ตรวจจับไม่ได้ thumbsdown ก่อนไปเช็คให้ละเอียด ถ่ายรูป ทุกมุม ขากลับมา ให้กลับก่อนบ่าย 3 จะได้ตรวจให้ดีก่อนรับคับ surrender
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 27, 2011, 09:26:01 PM »
ไอ้เรื่องท่อเงียบเหมือนกันน่าสงสัยตอนนั้นผมถามเจ้าหน้าที่ policeที่ทำการตรวจสอบเขาบอกว่าไม่สนใจเรื่องเสียงเพราะไม่มีในหัวข้อตรวจสอบสนใจแต่ค่ามลพิษครับหรือว่าปัจจุบันเพื่อมหัวข้อเรืองนี้ผมว่าไอ้เรื่องเสียงเป็นหน้าที่ของการตรวจสภาพรถของกรมข่นส่งนะครับถ้าหากข้อมูลผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยครับ pray
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2011, 11:30:34 AM »
ผมเคยไปตรวจเอง (ตอนนั้นปี2546) ทำเอง เจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจอธิบายขั้นตอนการตรวจ คือให้ทางเจ้าของไปปรับจูนเองและแนะนำให้ใส่ท่อcatalytic เพื่อลดค่าhydrocabon และค่าcabondioxid.ในระหว่างขื้นแท่นทดสอบตั้งแต่เกียร์1-5และจะนำค่าที่วัดได้แต่ละเกียร์มาเฉลี่ยให้ได้ค่าตามมาตราฐาน EURO4 ตอนนี้ได้ข่าวว่าปรับมาตราฐานเป็นEURO5แล้วทำให้อยากกว่่่าเดิม แต่ที่ผมสงสัยก็คือคนที่ตรวจมีหน้่าที่อะไรถึงต้องมาถอดคาบูและถอดท่อโดยไม่ได้รับอนุญาติเพราะขบวนการเตรียมรถเพื่อตรวจสอบนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าของรถครับผมไม่ทราบว่าปัจุบันเขาเตรียมให้เราเองหรือครับหรือเจ้าหน้าที่คนนั้นได้รับคำสั้งมาให้ปร้บจูนจากร้านค้าหรือDEALERผู้ที่ทำงานด้านจดทะเบียนหรือป่าว ambulance
ผมว่าผู้ดำเนินการที่รับทำ เขาก็ต้องจัดการทำรถให้ได้ค่าตามที่ กม.กำหนด ไม่งั้นรถก็คงไม่ผ่านการตรวจ  number1
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 28, 2011, 11:44:04 AM โดย cops »
บันทึกการเข้า
แก่แต่สังขาร แต่สันดานยังวัยรุ่นอยู่
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2011, 11:35:32 AM »
ไอ้เรื่องท่อเงียบเหมือนกันน่าสงสัยตอนนั้นผมถามเจ้าหน้าที่ policeที่ทำการตรวจสอบเขาบอกว่าไม่สนใจเรื่องเสียงเพราะไม่มีในหัวข้อตรวจสอบสนใจแต่ค่ามลพิษครับหรือว่าปัจจุบันเพื่อมหัวข้อเรืองนี้ผมว่าไอ้เรื่องเสียงเป็นหน้าที่ของการตรวจสภาพรถของกรมข่นส่งนะครับถ้าหากข้อมูลผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยครับ pray
มีในข้อกฎหมายตาม พรบ.จราจรทางบกอยู่คับ ห้ามนำรถที่มีเสียงอืออึ่งมาใช้ในทางสาธารณะ เรื่องเสียงดังห้ามเกิน 80 เดซิเบล ตามด่านโหดๆจะมีเครื่องวัดเสียงอยู่ ถ้าดังเกินที่ กม.กำหนดก็ต้องเสียค่าปรับคับ แต่ไม่แน่ใจว่าปรับเท่าไร  police ส่วนเรื่องควันดำ ตรวจค่ามลพิษน่าจะเป็นของกรมการขนส่งทางบกคับ 
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 28, 2011, 11:47:35 AM โดย cops »
บันทึกการเข้า
แก่แต่สังขาร แต่สันดานยังวัยรุ่นอยู่
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2011, 11:49:22 AM »
ขอบคุณพี่ๆทุกคนและทุกๆข้อมูลครับ ผมเริ่มทำใจแล้วหล่ะ ส่วนพี่ที่ถามเรื่องเลขไมล์ รถผมไปตรวจอีท่าไหนมาไม่รู้เลขไมล์เพิ่มขึ้นมาอีก 1,300km. ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้าตรวจ สมอ.ด้วยการวิ่งไปกลับ บางกอก-เบตง หรือป่าว 555+ แต่อยากจะถามอีกอย่างนึงครับ ผมควรรื้อชุดเกียร์ที่มันมีเสียงดังแปลกๆออกมาดูดีมั๊ย ถ้ารื้อแล้วจะบานมั๊ย แล้วถ้ามีสิ่งผิดปกติซ่อมแล้วจะเหมือนเดิมรึเปล่าครับ
|
บันทึกการเข้า
คนรวยบรรลัยเมืองไทยมีแยะ คนดีตะโกนเลยโดนเป็นแพะ!
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2011, 11:51:25 AM »
ขอบคุณพี่ๆทุกคนและทุกๆข้อมูลครับ ผมเริ่มทำใจแล้วหล่ะ ส่วนพี่ที่ถามเรื่องเลขไมล์ รถผมไปตรวจอีท่าไหนมาไม่รู้เลขไมล์เพิ่มขึ้นมาอีก 1,300km. ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้าตรวจ สมอ.ด้วยการวิ่งไปกลับ บางกอก-เบตง หรือป่าว 555+ แต่อยากจะถามอีกอย่างนึงครับ ผมควรรื้อชุดเกียร์ที่มันมีเสียงดังแปลกๆออกมาดูดีมั๊ย ถ้ารื้อแล้วจะบานมั๊ย แล้วถ้ามีสิ่งผิดปกติซ่อมแล้วจะเหมือนเดิมรึเปล่าครับ
อย่าลืมดูด้วยนะคับ รถส่งมาผิดคันด้วยรึปล่าว 555 headbang number1
|
บันทึกการเข้า
แก่แต่สังขาร แต่สันดานยังวัยรุ่นอยู่
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2011, 12:42:21 PM »
ไม่ทราบว่าก่อนไปตรวจ จดเลขใมล์ไว้รึเปล่าครับ เกรงว่าจะมีมือดีแอบเอารถไปซิ่งมาก่อนน่ะครับ
ผมทำตามนี้เลยครับ แต่ก็มีรอยขีดข่วนกลับมาบ้างนิดหน่อยพร้อมกับเลขไมล์ที่เพิ่มขึ้นประมาณ40ไมล์เกือบ65กิโล ไม่รู้พี่เค้าเอาไปลองที่ไหน surrender
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 28, 2011, 01:21:05 PM »
ต้องทำใจคับ ไว้ใจร้านที่ไปทำทะเบียนให้ กิมมิ่งคันล้านกว่าเค้าก็ตรวจมาตรฐานเดียวกัน คับ
|
บันทึกการเข้า
|