เที่ยวละไมไปกับหลุยส์+ต่าย:ตอน Destination anywhere tripไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก^^

[Young Blood]

อิอิ ดูแล้วมีฟามสุขจังคัฟเพ่ๆ eyeopoping

[diamondpro55]

เท่ได้อีก  pissedoff

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

เตรียมพบกับการเดินทางสุดมันส์กับทริปไทย-ลาว-เวียดนามที่นี่..เร็วๆนี้     headbang

 

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

เดือนนี้เป็นช่วงแห่งการเตรียมความพร้อมทั้งรถทั้งคน....พี่ๆทั้งหลายเตรียมพร้อมกันรึยังครับ  number1


ตอนนี้กำลังไล่เช็คตามlistที่พี่สัจจะแนะนำ  thumbsup

การเตรียมพาหนะคู่ใจก่อนออกทริปกับหลวงตาโจ้

1.   ตรวจเช็คลมยาง ดอกยาง และอายุยางว่าเกิน 3 ปี แล้วหรือยัง ถ้าเกินก็ไปเปลี่ยนก่อนนะ กรณีดอกยางมีอยู่ก็จริง แต่อายุยางมันเกินแล้ว เนื้อยางแข็งไม่เกาะถนน

2.   ตรวจเช็ครอยร้าวบนชุดล้อแม็ก หรือวงล้อคดสำหรับล้อซี่ลวด (สำหรับ GS 1200 หน้าแปลนยึดล้อหลังจะมีรอยร้าวบ่อยเนื่องจากขันน๊อตล้อเกินค่าปอนด์ที่กำหนดในสเป็ค)

3.   ตรวจเช็คน้ำมันโช๊คอัพหน้าว่าเกินมีรั่วซึมที่ซีลหรือไม่ กรณีรุ่นที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันโช๊คได้ควรจะเปลี่ยนทุกๆ 2 ปี ส่วนโช๊คหลังรั่วก็เปลี่ยนเลย

4.   ตรวจสภาพรอยแตกร้าวของสายน้ำมันเบรคหน้า-หลัง สายน้ำมันคลัทช์ ช่วงบริเวณหัวย้ำสายจะมีการหักงอและรั่วซึม (กรณีที่เป็นสายสลิง ก็ตรวจสายสลิงกรอบแตกหรือไม่ และปรับตั้งระยะฟรีของสายคลัทช์)

5.   ตรวจสายคันเร่งฝืด สายสลิงแตก จะหยอดน้ำมัน หรือเปลี่ยนก็ดูเอา และปรับตั้งระยะฟรีสายคันเร่ง

6.   ตรวจระดับและสภาพน้ำมันเบรค น้ำมันคลัทช์ ควรเปลี่ยนทุกๆ 1-2 ปี ดูว่ามันเน่าเปลี่ยนสีแล้วหรือยัง

7.   ตรวจดูสภาพสายน้ำมันเบนซินว่ารั่วซึม กรอบแข็ง เก่าหมดสภาพแล้วหรือยัง

8.   ตรวจหลอดไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟเบรค สวิทช์ไฟต่างๆ ฯลฯ ว่ายังติดอยู่ พร้อมใช้งานหรือไม่

9.   ตรวจสายไฟว่ามีส่วนใดสัมผัสกับส่วนที่เคลื่อนไหว หรือสัมผัสส่วนที่มีความร้อน หรือถ้ามีก็มัดเก็บสายไฟให้เรียบร้อยจะได้ไม่ปวดหัวระหว่างทาง

10.   น้ำมันเครื่อง ไส้กรองน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร (น้ำมันไพมารี สำหรับ HD) (น้ำมันเฟืองท้าย สำหรับ GS) ตรวจระดับน้ำมัน และดูว่าถึงอายุเปลี่ยนถ่ายกันหรือยัง เปลี่ยนกันที่เท่าไรไปหาดูกันเองเด๋อ อย่าลืมดูรอยรั่วซึมตามจุดต่างๆแก้ไขกันไปเลยทีเดียว

11.    ตรวจเช็คสายพานว่าอายุ 40,000 กม หรือยังถ้าไม่รู้ซื้อรถจากคนอื่นมาก็ตรวจด้วยสายตาตัวเองว่ามีรอยฉีก บิ่น หรือถลอก ก็เปลี่ยนก่อนเถอะ
(สำหรับ GS ก็ตรวจเพลาท้ายลูกปืนกากบาทว่ามันฝืดแห้งจาระบี ลูกปืนแตก หลวมคลอน หรือน้ำเข้าหรือไม่ สภาพไม่ดีก็เปลี่ยน และตรวจยางหุ้มเพลาหน้า-หลัง ขาดหมดอายุหรือยัง ถ้าขาดก็เปลี่ยนไปเลย)

12.   ผ้าเบรคหน้า-หลังก็ดูกันเอง ดูบางก็เปลี่ยนไป

13.    ตรวจเช็คแบตเตอรี่ว่ามีอาการสตารท์ออกตัวช้า เก็บไฟไม่อยู่ เพราะว่าวิ่งระยะทางไกลทั้งสั่น ทั้งสะเทือน ความร้อน ทำให้แผ่นธาตุเสื่อมเร็ว อายุแบตเตอรี่ ประมาณ 2 ปี ก็เปลี่ยนได้แล้ว
   
14.   สำหรับ GS ตรวจเช็คระยะห่างของวาวล์ไอดี และไอเสีย ทุกๆ 10,000 กม และสายพานไดชารท์ เปลี่ยนทุกๆ 6 ปี หรือ 40,000 กม

15.   หัวเทียนเปลี่ยนทุกๆ 20,000 กม จ้า สำหรับหัวฉีด ถ้าคารบูก็ถอดดูเอานะเพราะจูนหนาบางไม่เหมือนกันแต่ละคันแต่ไม่ควรเกิน 20,000 กม

16.   ไส้กรองเบนซิน สำหรับคารบู 20,000 กม สำหรับหัวฉีดมันเป็นกรองหยาบอยู่ในถังดูยากหน่อยนะ ถังน้ำมันสะอาดก็ 40,000 กม เลยก็ได้ อยู่ที่ความสะอาดของน้ำมันปั๊มที่เติม ส่วนไส้กรองอากาศถ้าดำก็เปลี่ยน กรองเปลือยก็ล้าง

17.   ตรวจเช็คลูกปืนล้อหน้า-หลัง ว่าแตก ฝืด เป็นสนิม ก็จัดการเปลี่ยนไป

18.   ตรวจเช็คลูกปืนคอหลวมก็ปรับตั้งกันไป

19.   ถ้าเป็นไปได้ก็ PDI รถไปเลย ถ้าไม่ไหวก็ตรวจเช็คแรงขันน็อตตามสเปค โดยเฉพาะจุดที่สำคัญๆ ที่พอจะทำด้วยตัวเอง ยิ่งรถ HD ควรทำอย่างยิ่ง มันชอบคลายเป็นประจำ ควรใส่น้ำยากันคลายในจุดที่จำเป็นต้องใส่ด้วย (ควรเช็คสเปคปอนด์ของน็อต ก่อนขันน็อต ทุกตัวเพราะน็อตขาด เกลียวรูด เบ้าแตกร้าว ละงานเข้ายาวเลย)

20.    ตรวจเช็คสปริงขาตั้งมีอาการล้าหรือไม่

21.    ตรวจอัดจาระบีในจุดที่มีให้อัด

22.    ปรับตั้งไฟหน้า สำหรับท่านที่ไม่ค่อยขับขี่ในเวลากลางคืน

23.    สำหรับรถหัวฉีดควรเช็คโค๊ดว่ารถท่านมีปกติหรือไม่ มีเซ็นเซอร์อะไรเสียหรือเปล่า

24.    เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วควรทดลองขับขี่รถหลังจากที่เข้าตรวจเช็ค ลองฟังเสียงต่างๆ ดูว่ามีผิดปกติหรือไม่ เพื่อความแน่ใจว่ารถเราสภาพพร้อมเดินทาง ให้คุณหาทางออกทริปใกล้ๆดูก่อน มีปัญหาอย่างไรจะได้แก้ไขกันทันเวลา

หมายเหตุ การเตรียมรถก่อนเดินทางเป็นเพียงข้อมูลหยาบๆ ส่วนรายละเอียดเชิงลึกต้องเปิดคู่มือแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อกันไป หรือส่งทางพี่ป็อก PHD RCA ให้มืออาชีพเค้าตรวจเช็คก่อนเดินทาง ส่วน GS ก็เข้าศูนย์บริการตรวจเช็คก่อนเดินทางครับ

[TIK MonSTeRdOg]

ข้อมูลแน่นจริง ๆ เดินทางปลอดภัยนะคราฟทุกท่านแล้วจารอชมภาพสวย ๆ งาม ๆ nana

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ข้อมูลแน่นจริง ๆ เดินทางปลอดภัยนะคราฟทุกท่านแล้วจารอชมภาพสวย ๆ งาม ๆ nana

เดี๋ยวจะพยายามจัดภาพสวยๆงามๆมาให้ครับพี่ติ๊กถ้าผมไม่หูยานซะก่อน5555

[ปวเรศ]

ข้อมูลแน่นจริง ๆ เดินทางปลอดภัยนะคราฟทุกท่านแล้วจารอชมภาพสวย ๆ งาม ๆ nana

เดี๋ยวจะพยายามจัดภาพสวยๆงามๆมาให้ครับพี่ติ๊กถ้าผมไม่หูยานซะก่อน5555

รอติดตามชมผลงานอยู่นะครับหมอ...ถ้ากลัวหูยาน ต้องฝึกแอบถ่ายครับ...555 nana

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ทริป3ช่า..เอ๊ย3ชาติไปกินปลาถึงเวียดนาม  headbang
Thai-Laos-Veitnam Trip 30April-5May54





มาตามคำเรียกร้องแล้วจ้าาาาา......แต่คงต้องค่อยเป็นค่อยไปนะคร๊าบ
เพราะว่ารูปเยอะมากกกกกก+เนตเต่ามากกกก สงสัยงานนี้จะยาวจริงๆ  frustrated

ครับหลังจากทริปหลวงพระบางจบลงไปได้ไม่ทันไร  ทริปเวียดนามก็ถูกจัดเตรียมขึ้นมาอย่างทันท่วงที
คงเนื่องมาจากความสนุก ความมันส์จากทริปหลวงพระบางยังคงครุกรุ่นอยู่ทำให้หัวใจน้อยๆของเหล่า
riderที่น่ารักกระเหี้ยนกระหือรืออยากออกเที่ยวกันอีก  boogie  กระแสตอบรับมาดีท่านชายโจ้ก็ตอบสนองให้
แล้วใครล่ะจะปฏิเสธลงถ้าไม่คอขาดบาดตายหรือติดธุระสำคัญอันใดไม่มีใครคิดจะไม่ไปแน่นอน
ทริปนี้เรายังคงใช้บริการของtransasiarouteเช่นเดิมเพื่อให้การเดินทางทุกอย่างคล่องตัวและ
ลื่นไหล  หน้าที่ของเราคือ"ขี่อย่างเดียว" แล้วเห็นบอกกันมาว่าเวียดนามนี่ไม่ใช่เข้าประเทศเค้ากัน
ได้ง่ายๆ  หลายคนไปแบบดุ่ยๆต้องจอดมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้ที่ด่านแล้วเดินเข้าไปแทนให้เซ็งอารมณ์ก็มีมาแล้ว
เพราะเค้าไม่ให้มอเตอร์ไซค์ขนาดเกิน125cc.เข้า  ต้องให้ผู้ชำนาญการมาช่วยอำนวยความสะดวกนิดหน่อย
ไม่งั้นไม่ได้ไปหาน้องElly transแน่นองๆ อิอิ  flirty

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ว่าแล้วมาดูโปรแกรมกันดีกว่าว่าเราต้องไปไหนกันบ้าง

มุกดาหาร – สะหวันเขต – เว้ - ดานัง – ฮอยอัน- ปากเซ – ช่องเม็ก-อุบลฯ(วิ่งวงกลม)
Big Bike Caravan to Lao and Vietnam
    30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2554

วันที่ 30/3/54       ภูมิลำเนา - มุกดาหาร - สะหวันเขต           
17.00 น.   พร้อมกันที่โรงแรมพลอยพาเลช  จ.มุกดาหาร
17.30  น.      รับประทานอาหารค่ำที่โรงแรมพลอยพาเลช  จ.มุกดาหาร
18.30 น.      ออกเดินทางไปที่สะพานมิตรภาพ 2 พร้อมทำเอกสารการแดนระหว่าง 2 ประเทศจากนั้นออกเดินทางต่อประมาณ 10 กม.
19.30 น.      ถึงที่พักโรงแรมดาวสะหวัน รีสอร์ท แอนด์ สปา  ระดับ5 ดาว
วันที่ 1/4/54         สะหวันเขต - ลาวบาว – ดองฮา - เว้         (380   กม.)
08.00 น.    ออกเดินทางสู่ชายแดนลาว-เวียดนามที่บ้านแดนสวรรค์เป็นถนนลาดยางระยะทางประมาณ 250 กม.
12.00 น.   รับประทานอาหารเที่ยงที่เมืองพิน
14.00 น.   เดินทางถึงชายแดน ผ่านขั้นตอนการข้ามแดนเข้าและออกของ 2 ประเทศ
15.30 น.   ออกเดินทางเข้าสู่เมืองดงฮา (DONG HA)  ระยะทางประมาณ  85 กม.พร้อมเดินทางต่อไปยังเส้นแบ่งระหว่างเวียดนามเหนือและใต้ที่มีการปะทะกันในสงครามเวียดนามที่เข้มข้นจุดหนึ่งแวะให้ถ่ายรูป เวลาพอสมควร  ออกเดินทางเที่ยวชม วินท์ม๊อกเป็นอุโมงค์ที่ชาวเวียดนามขุดไว้หลบสงครามและสู้รบ ความยาวของอุโมงค์หลายกิโลเมตรใช้เวลาเที่ยวชมอุโมงค์ประมาณ 1 ชม.  ดูว่าคนเวียตนามชนะสงครามได้อย่างไร   
18.30 น.    เข้าที่พักพร้อมรับประทานอาหารค่ำ โรงแรมระดับ 4 ดาว

วันที่ 2/4/54         เว้ – ดานัง - ฮอยอัน            (140 กม.)
08.00 น.   นำรถจอดที่โรงแรมหลังจากนั้นนำคณะขึ้นรถบัส  ระยะทางไม่ไกล 2 – 3 กม.  เพื่อไปเที่ยวชมพระราชวังต้องห้าม  (IMPERIAL PALACE) (บริเวณนี้ไม่มีสถานที่จอดรถจึงต้องนั่งรถบัส)สร้างขึ้นตามแบบแผนความเชื่อแบบจีน เข้าได้เฉพาะจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์เท่านั้น หลังจากนั้นไปเที่ยวชมวัดเจดีย์เทียนมู (THIEN MU PAGODA) ซึ่งประดิษฐานองค์พระพุทธรูปนิกายเซนซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาสักการะมากมายในแต่ละวัน และชมความสวยงามของลวดลายกระเบื้องมุงหลังคาภายในวัด กลับโรงแรมที่พักโดยลงเรือที่วัดเทียนมู่ ล่องเรือตามรอยนักกวีตามแม่
น้ำหอม ชมวิถีริมสองฝากฝั่งของลำน้ำ อิ่มเอมบรรยากาศ ซึ่งปัจจุบันยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติตลอดจนวิถีชีวิตของชาวหว่านถึงโรงแรมนำรถออกโรงแรมเดินทางไปเมืองมรดกโลกฮอยอัน


12.30 น.   แวะรับประทานอาหารกลางวันที่อ่าวลังโคห่างจากตัวเมืองเว้ประมาณ 80 กม.รับประทานอาหารกลางวันเดินทางต่อสู่เมืองฮอยอัน หลังอาหารพาท่านเดินเที่ยวชมเมืองเก่าโฮยอันซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำทูโบน อายุร่วม 300 ปี ที่อดีตเคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญจะมีชาวจีนและชาวญี่ปุ่นมาทำการค้าขายในอดีต และเป็นเมืองที่ให้กำเนิดและฉากหลังอันสวยงามแก่นิยายรักโรแมนติกเรื่อง “ ฮอยอันฉันรักเธอ ”  ท่านจะได้อิ่มเอมกับบรรยากาศ และ เดินซื้อของที่ระลึกมากมายปล่อยเดินซื้อของตามอัธยาศัย ท่านจะอิ่มเอิบกับบรรยากาศย้อนยุค
เย็น   รับประทานอาหารค่ำ  พร้อมเข้าพักโรงแรม ระดับ 4 ดาว

วันที่ 3 /4 /54         ฮอยอัน – กันตุม               ( 250 กม. )
08.00 น.   ออกเดินทางสู่เมืองกันตุมเป็นจังหวัดที่ติดชายแดนลาว
12.00 น.   รับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย   ออกเดินทางเที่ยวชมโบสถ์ไม้เก่าแก่ของศาสนาคริสต์และบ้านชนเผ่า
17.00 น.   เข้าที่พักโรงแรม ระดับ 3 ดาวปล่อยท่านอิสระ
19.00 น.   รับประทานอาหารเย็น

วันที่ 4/4/54              กันตุม – อัตปือ - ปากเซ             ( 270 กม. )
08.00 น.   คาราวานออกเดินทางสู่ชายแดนเวียดนามและลาวตอนใต้ที่บ้านโบอี จังหวัดกันตุม Kun Tum – ชายแดนลาว
ที่บ้านภูเกลือหลังผ่านขั้นตอนการข้ามแดนออกเดินทางต่อผ่านเมืองอัตตาปือ เป็นเมืองที่มีความสำคัญใน
เส้นทางการขนอาวุธของลุงโฮจิมินท์
12.00 น.      แวะรับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย   หลังจากนั้นเดินทางไปที่เมืองปากเซ  ระหว่างทางแวะเที่ยวน้ำตกถ้ามีเวลาที่เมืองปากช่อง  ซึ่งตั้งอยู่ที่ราบสูง
โบราเวนมีระดับความสูงประมาณ 1,000 เมตร  ทำให้อากาศเย็นสบายเพื่อเที่ยวชมน้ำตกตาดฟาน , น้ำตกตาดเยือง ,
น้ำตกผาส้วม  พร้อมชมวิถีชีวิตของชนเผ่าของลาวตอนใต้  น้ำตกแต่ละที่ มีความสวยงามที่แตกต่างกันและไร่ชา
กาแฟที่มีชื่อเสียงของลาว
17.00 น.      ถึงเมืองปากเซนำคณะเข้าที่พักโรงแรม ระดับ 4 ดาว
18.00 น.      รับประทานอาหารค่ำและผักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 5/4/54      ปากเซ – ช่องเม็ก                     ( 45 กม. )
08.00 น.    หลังทานอาหารเช้าแล้วออกเดินทางไปเที่ยวตลาดเช้า
10.00 น.   ออกเดินทางสู่ชายแดนช่องเม็กพร้อมตรวจเอกสารการข้าม

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

การเดินทางคราวนี้ในช่วงวันแรกเราแบ่งกันเป็น2กลุ่มครับ

สายอ่อน  nana -เดินทางกันสบายๆโดยไปก่อนล่วงหน้า1วัน โปรแกรมตามนี้ครับ
กำหนดการของกลุ่มแรก ออกก่อน 1 วัน - วันที่ 29 เมย 2011
เราจะจอดพักทุกๆประมาณ 130-150 km

วันที่ 29 เมย 2011
08:30   จุด A - ปั๊ม ปตท ที่อยู่ติดกับปั๊ม Shell บางปะอิน (เลยปั๊มเชลไป) ....
           จุดนี้ใครว่างมากันก่อนเลยครับ มากินข้าวเช้ากัน
09:30   ล้อหมุน

11:00   จุด B - จุดพักรถริมเขื่อนลำตะคอง (ที่มีรูปปั้นพลเอกชาติชายขี่ช๊อปเปอร์)
11:30   ล้อหมุน

12:00  จุด C (GPS: N14.98630 E102.05226)
          ปั๊ม PTT By Pass โคราช แวะรับพี่อ๊อดและคุณแม็คระยอง

13:30  จุด D (GPS: N15.43665 E102.27915)
          ถึงบ้านนายเอกพันโล อำเภอคง เตรียมเหล้ายาปลาปิ้งล้มวัวไว้รอเลี้ยง
          ทานอาหารเที่ยงกันที่นี่ และพักผ่อนสบายๆ
15:30  ล้อหมุน


17:30  จุด E - (GPS: N16.42927 E102.83651) โรงแรมเดอะกลาเซีย The Glacier Hotel
          http://glacier-hotel.com/home.html   Tel. 0-4333-4999
          คืนนี้เราพักกันที่นี่
          พักผ่อนตามอัธยาศัย กลางคืนมีโปรแกรมแบขำๆ แบบออมแรงไว้ไปกันต่อที่เวียตนาม

วันถัดมา 30 เม. ย. ขี่ขึ้นภูพาน เล่นโค้งป้งงูสักรอบ กลางวันไปกินโพนยางคำ ....ไกลกว่ากันอีก 60 km
รวมระยะทาง 314 km จากขอนแก่นถึงมุกดาหาร
09:30 ล้อหมุนออกจากโรงแรม
12:00 แวะถ่ายรูป โค้งปิ้งงู ภูพาน
13:00 แวะทานข้าว สกลนคร
17:00 ถึงโรงแรมพลอยพาเลช มุกดาหาร
17:30 ทานข้าวเย็น
18:00 ข้ามด่านสะวันนะเขต ไปฝั่งลาว


กลุ่มที่2สายแข็ง(แต่เห็นโปรแกรมกลุ่มแรกแล้วแอบอยากเป็นสายอ่อนโว้ยยยยยย)  frustrated
-กลุ่มนี้พวกบักอึ้ดถึกควายทุยหน่อย+พวกคนมีเวรมีกรรมมีภาระเลยต้องตามไปสมทบกับกลุ่มแรกทีหลัง
 ซึ่งนั่นก็คือผมเองT_T 

เจอกันที่ปั๊มปตท. ม.กรุงเทพครับ6.00นะครับ  ทานข้าวเช้ากันซะหน่อยล้อหมุน7.00นะ
สายแข็งผู้ร่วมขบวนการมี  ผม หมอต่าย น้องโอ๊ค ท่านชายโจ้ พี่jj. พี่ปอง ที่
เหลือเค้าไปสนุกสนานเฮฮาปาจิงโกะกันหมอแว้วววT_T  (ขอร้องไห้อีกที ฮือๆๆๆๆ)  lonely

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ทริปนี้เราก็ช่วยกันร่วมมือร่วมใจทำโลโก้   ออกแบบเสื้อ  ทำสติ๊กเกอร์กันอีกเช่นเคย

(ใครทำไม่เป็นก็ช่วยออกความคิดเห็นจนได้แบบที่ลงตัวและถูกใจ)  thumbsup










ยิ่งใหญ่มากครับทริปนี้   ขนาดพี่เคนยังขอมาเป็นนายแบบเสื้อทริปให้โดยไม่คิดค่าตัวซักบาท ซักกีบ ซักดองเลย555  jawdrop

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

อันนี้เอาข้อมูลมาให้อ่านเกี่ยวกับเวียดนามครับเดี๋ยวไม่งั้นกระทู้ผมจะไม่มีสาระเอาซะเลย555




ประเทศเวียดนาม
• อาณาเขต เวียดนามมีพื้นที่ประมาณ 327,500 ตารางกิโลเมตร ความยาวจากเหนือจรดใต้ 1,650 กิโลเมตร ขนานไปตามแนวยาวของคาบสมุทรอินโดจีน นอกจากนี้ยังมีไหล่เขาและหมู่เกาะต่างๆ อีกนับพันเกาะเรียงรายตั้งแต่อ่าวตังเกี๋ยไปจนถึงอ่าวไทย
ทิศเหนือ ติดกับ ประเทศจีน
ทิศใต้ ติดกับทะเลจีนใต้
ทิศตะวันออก ติดกับ อ่าวตังเกี๋ยและทะเลจีนใต้
ทิศตะวันตก ติดกับอ่าวไทย ประเทศกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
• ลักษณะภูมิอากาศ เนื่องจากแผ่นดินของเวียดนามมีความยาวมาก ทำให้ลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยอาจแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้
• ภาคเหนือ ภูมิประเทศเวียดนามประกอบด้วยภูเขาสูงมากมาย โดยเฉพาะเทือกเขาฟานสีปัน สูงถึง 3,143 เมตร สูงที่สุดในอินโดจีน มีแม่น้ำสายสำคัญคือ แม่น้ำกุง ซึ่งไหลไปบรรจบกับแม่น้ำแดงเป็นดินดอนสามเหลี่ยมที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูกและยังเป็นที่ตั้งของเมืองฮานอยอัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเวียตนาม มีที่ราบลุ่ม Cao Bang และ Vinh Yen ตลอดจนเกาะแก่งกว่า 3,000 เกาะ อ่าวฮาลอง และเนื่องจากพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตอากาศหนาว ซึ่งได้รับอิทธิพลกระแสลมแรงพัดจากขั้วโลก ทำให้มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็น
• ภูมิอากาศในเขตภาคเหนือแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู
1.ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-เมษายน) มีฝนตกปรอยๆ และความชื้นสูง อุณหภูมิประมาณ 17 องศา – 23 องศา
2.ฤดูร้อน (พฤษภาคม-สิงหาคม) อากาศร้อนและมีฝน อุณหภูมิประมาณ 30 – 39 องศา เดือนที่ร้อนที่สุดคือเดือนมิถุนายน
3.ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) อุณหภูมิ 23 – 28 องศา
4.ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) อากาศจะหนาวเย็นที่สุดในรอบปี คือ ประมาณ 7 – 20 องศา แต่ในบางครั้งอาจลดลงถึง 0 องศา เดือนที่อากาศหนาวที่สุดคือ มกราคม
• ภาคกลาง ภาคกลางของเวียตนามยังมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่มากมาย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงซึ่งเต็มไปด้วยหินภูเขาไฟ หาดทราย เนินทราย และทะเลสาบ
• ภูมิอากาศในเขตภาคภาคกลาง 2 ฤดู
1.ฤดูฝน (พฤษภาคม-ตุลาคม) เดือนที่อากาศร้อนที่สุดคือ มิถุนายน-กรกฎาคม อุณหภูมิเกือบ 40 องศา
2.ฤดูแล้ง (ตุลาคม-เมษายน) เดือนที่อากาศเย็นที่สุด คือ มกราคม อุณหภูมิเกือบ 20 องศา
• ภาคใต้ แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของเวียตนามเป็นที่ราบสูง แต่ก็มีที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง หรือชื่อที่รู้จักคือ กู๋ลอง (Cuu Long) อันเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งเพาะปลูกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเวียตนาม และเป็นที่ตั้งของกรุงโฮจิมินห์ซิตี้ หรือ ไซ่ง่อน ภูมิอากาศค่อนข้างร้อน อุณหภูมิประมาณ 27 องศา มี 2 ฤดู คือ
1.ฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน) เดือนที่ร้อนที่สุดคือ เดือนเมษายน อุณหภูมิประมาณ 39 องศา
2.ฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน-เมษายน) เดือนที่อากาศเย็นที่สุดคือ มกราคม อุณหภูมิประมาณ 26 องศา

ขอมูลทั่วไปประเทศเวียตนาม
• เมืองหลวง คือ ฮานอย ตั้งอยู่ทางภาคเหนือ เป็นเมืองศูนย์กลางด้านการค้าและอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ยังมีเมืองสำคัญต่างๆ ดังนี้
1.โฮจิมินห์ซิตี้ (ไซ่ง่อน) ตั้งอยู่ทางภาคใต้ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางทางการค้าด้วย
2.ไฮฟอง เป็นเมืองท่าอยู่ทางชายฝั่งตอนเหนือใกล้เมืองฮานอย
3.ดานัง เป็นเมืองท่าและเป็นเมืองด้านการท่องเที่ยว ติดทะเลจีนใต้อยู่ทางภาคกลางของเวียตนาม
4.เว้ เป็นเมืองประวัติศาสตร์ใกล้เมืองดานัง
• พื้นที่ เวียตนามมีพื้นที่ 327,500 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 81.4 ล้านคน
• ศาสนา ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ นับถือศาสนาคริสต์ ประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ และที่เหนือนับถือศาสนาอื่นๆ อีก 3 เปอร์เซ็นต์
• ภาษา ภาษาทางการคือ ภาษาเวียตนาม ภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ คือ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และจีน
• สกุลเงิน สกุลเงินของเวียตนามคือ ดอง อัตราแลกเปลี่ยน 420-460 ดอง ต่อ 1 บาท
• ระบบการปกครอง เวียตนามปกครองแบบระบอบคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นการปกครองโดยกองกำลังของรัฐ มีการแบ่งเขตการปกครอง แบ่งออกเป็น 59 จังหวัด และ 5 เทศบาลนคร
• วัฒนธรรม
   เวียตนามมีการผสมผสานด้านวัฒนธรรม จากหลายชนชาติ เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 432 เวียตนามได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลจากจักรพรรดิจีนนานกว่าพันปี ดังนั้น สิ่งก่อสร้าง อาหารการกิน จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับวัฒนธรรมของจีนมาก และยังมีความหลากหลายของผู้คนของชาวเขาหลากหลายชนเผ่าทางภาคเหนือของเวียตนาม และเมื่อสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครอง เวียตนามก็ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมฝรั่งเศสด้วย ได้แก่ ตึกที่อยู่อาศัยที่ดูทันสมัย เป็นตึกสีเหลืองสไตล์โคโลเนียลที่มีให้พบเห็นมากมาย ดังนั้นวัฒนธรรมต่างๆ ของเวียตนามจึงมีการผสมผสานกันเป็นอย่างมาก ทั้งด้านที่อยู่อาศัย เทศกาล อาหาร เป็นต้น
• เทศกาลเต็ด (Tet)
   โดยปกติแล้ว ชาวเวียตนามจะเฉลิมฉลองเทศกาลต่างๆ อย่างน้อย 3-7 วัน ติดต่อกัน โดยมีเทศกาลทางศาสนาที่สำคัญที่สุด คือ “เต็ดเหวียนดาน” (Tet Nguyen Dan) มีความหมายว่าเทศกาลแห่งรุ่งอรุณแรกของปี ที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า เทศกาลเต็ด เทสกาลจะเริ่มต้นขึ้น 1 สัปดาห์ก่อนจะมีวันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติ คือ ระหว่างปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในวันขึ้น 15 ค่ำ ของวันที่ดวงอาทิตย์อยู่ไกลเส้นศูนย์สูตรมากที่สุดในฤดูหนาว กับวันที่กลางวันยาวเท่ากับกลางคืน ในฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลนี้เป็นการเฉลิมฉลองในภาพรวมทั้งหมดของความเชื่อในเทพเจ้า ลัทธิเต๋า ขงจื๊อ และศาสนาพุทธ รวมถึงการเคารพบรรพบุรุษ
• เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง
   สำหรับเทศกาลฤดูใบไม้ร่วง นับตามจันทรคติตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ชาวบ้านจัดประกวด “ขนมบันตรังทู” หรือ ขนมเปี๊ยะโก๋ญวน ทีมีรูปร่างกลม มีไส้ถั่วและไส้ผลไม้ พร้อมทั้งจัดขบวนแห่เชิดมังกร เพื่อแสดงความเคารพต่อพระจันทร์ ซึ่งในบางหมู่บ้านอาจประดับโคมไฟพร้อมทั้งจัดงานขับร้องเพลงพื้นบ้าน
• เวลาทำการของขององค์กรรัฐและเอกชน
1.หน่วยงานราชการ สำนักงาน และองค์กรให้บริการสาธารณสุข 8.00 – 16.30 น. ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ พิพิธภัณฑ์จะเปิดให้บริการวันเสาร์อีกครึ่งวัน
2.ร้านค้าเอกชนทั่วไปให้บริการระหว่าง 6.00 – 18.30 น.
3.ธนาคารพาณิชย์ ให้บริการตั้งแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 8.00 – 16.00 น. (หยุดพักเวลา 12.00 – 13.00 น.)
4.สำนักงานไปรษณีย์โทรเลข ให้บริการ ตั้งแต่ 7.00 – 20.00 น.
5.โรงงานอุตสาหกรรม ทำงานวันจันทร์ – วันศุกร์ และวันเสาร์อีกครึ่งวัน โดยเวลาทำงานรวมไม่เกิน 48 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ หากเกินจากนี้ต้องจ่ายค่าล่วงเวลา สำหรับวันหยุดประจำสัปดาห์ต้องจ่ายค่าจ้างเพิ่ม 2 เท่า และวันหยุดนักขัตฤกษ์จ่ายเพิ่ม 3 เท่า


เครดิตเวปhttp://www.oceansmile.com  pray

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

การเดินทางของผมเริ่มต้นในเช้าสดใสของวันเสาร์ที่30เมย.54  นัดเจอกับท่านชายมารูโจ้ที่ปตท.ม.กรุงเทพครับ  flirty

โชคดีที่ตอนกลางคืนได้นอนเพราะไม่ต้องอยู่เวรเพราะงานนี้เราจะยิงยาวครับจากกทม.-มุกดาหาร เกือบ700กม.เห็นจะได้

เอาสู้โว้ยยยยยยยยยย.....แต่แอบง่วงนิดๆจังเลย งึมๆๆๆ 




ผู้ร่วมก๊วนมีเท่านี้แหละครับ  ส่วนพี่ท่านอื่นไปสบายกันหมดแล้วตามโปรแกรมพวกสายอ่อน  nana

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

งานนี้เป็นทริปแรกครับหลังจากแต่งเจ้าBumble Bee Versysออกมาเพื่อลุยไปเวียดนามโดยเฉพาะยังขาดของแต่งหล่ออีกหลายอย่าง

แต่เอาก็เอาวะไม่มีเวลาแล้ว   งานนี้สลับกันขับกับน้องชายผม(น้องโอ๊ค)....ตอนนี้ดูตรูดมันไปก่อนครับ55555 







ส่วนตัวนี้แน่นอนเจ้าดำดุลูกรักยังได้go interเหมือนเดิม....(เราจะต้องดังเหมือนพี่บี้ เดอะสตาร์นะลูก)5555  nana

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

หลังกลับจากหลวงพระบางคราวที่แล้วตรูดระบมกันเป็นแถวเพราะเราไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เอาฮาเลย์ไปขี่บนดวงจันทร์  frustrated

ก้นช้ำกันไปตามๆกัน  มาถึงทริปนี้เปลี่ยนรถกันเป็นแถว  ทริปฮาเลย์แต่มีBMWมากกว่า60%ซะงั้น 

แต่มิเป็นไรยังไงก็2ล้อเหมือนกันถึงจุดหมายเหมือนกันแม้จะสบายตรูดต่างกัน(ถ้าเห็นฮาเลย์เดินขาถ่างกรุณาอย่าเข้าใจผิดนะจ๊ะ    )



พี่jj.ครับจัดคันนี้เพื่อมาเวียดนามโดยเฉพาะ 






ป้าปองยังรักเดียวใจเดียวกะเจ้าcross bone(เปลี่ยนไม่ได้เพราะเมียให้ใช้รถเบาะเดี่ยวเท่านั้น  chainsaw  ambulance )