« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 09:00:47 PM »
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 10:57:53 PM »
อินวอยส์ = เหมือนใบเสร็จรับเงินอ่ะพี่ พอซี้อของเค้าเค้าก็ออกมาให้แต่ในที่นี้มันเป็นใบเสร็จที่ได้จากผู้ที่นำเอารถเข้ามา ใช้เป็นหลักฐานว่าได้ถูกซื้อเอาเข้ามาไม่ได้ลักลอบเอาเข้ามา สรรพสารมิตร = เมื่อเราเอาของเข้ามาจากต่างประเทศ เราต้องเสียภาษีนำเข้า สำหรับรถแบบนี้เค้าก็เรียกสั้นๆว่า "สรรพสารมิตร" ใช้เป็นหลักฐานว่าได้เสียภาษีนำเข้าแล้วนะ ทะเบียน = เมื่อเรามีรถที่นำเข้ามาถูกต้องเสียภาษีนำเข้ามาแล้ว ถ้าไม่จดทะเบียนว่ากันจริงๆแล้วรถคันนั้นไม่มีสิทธิมาวิ่งในถนน เพราะการจดทะเบียนมันจะบอกว่ารถคันนั้นใช้งานอยู่ในถนน ถ้าเสียแค่สรรพสารมิตรแล้วเอามาจอดเป็นปฏิมากรรมลอยตัวอยู่ที่บ้านก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าวิ่งไปซื้อก๋วยเตี๋ยวก็ผิดแล้ว
ดังนั้นเมื่อมี อินวอยส์ก็รูปว่าพี่นำรถเข้ามาจากไหนราคาเท่าไหร่ แล้วก็เอาข้อมูลในอินวอยส์นี้แหละไปเสียภาษีนำเข้าหรือสรรพสารมิตรเจ้าหน้าที่ก็รู้ว่า อ้อรถคันนี้ราคาซื้อมาเท่านี้นะภาษีก็ว่ากันไปกี่เปอร์เซ็นต์ของราคาที่ซื้อมา เสร็จแล้วถ้าอยากเอารถไปวิ่งหล่อๆในถนนก็เอาหลักฐานการซื้อมาและการเสียภาษีสรรพสารมิตร ไปจดทะเบียนการใช้รถต่อไป ซึ่งจะจดได้หรือไม่ทางราชการท่านก็ต้องตรวจสอบก่อนว่ารถที่ท่านซื้อมานี้มันมีคุณภาพได้มาตราฐานตามกฎหมายที่จะนำไปวิ่งบนถนนหรือไม่ก็จะเรียกไอ้การตรวจนี้ว่า ส.ม.อ. นั้นแหละแล้วไอ้ที่ทำทะเบียนกันแพงๆก็ไอ้ ส.ม.อ. นี่แหละมันตรวจกันไม่ค่อยจะผ่าน จบข่าว
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 30, 2010, 11:00:48 PM โดย eVo97 »
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2010, 11:04:47 PM »
อินวอยส์ = เหมือนใบเสร็จรับเงินอ่ะพี่ พอซี้อของเค้าเค้าก็ออกมาให้แต่ในที่นี้มันเป็นใบเสร็จที่ได้จากผู้ที่นำเอารถเข้ามา ใช้เป็นหลักฐานว่าได้ถูกซื้อเอาเข้ามาไม่ได้ลักลอบเอาเข้ามา สรรพสารมิตร = เมื่อเราเอาของเข้ามาจากต่างประเทศ เราต้องเสียภาษีนำเข้า สำหรับรถแบบนี้เค้าก็เรียกสั้นๆว่า "สรรพสารมิตร" ใช้เป็นหลักฐานว่าได้เสียภาษีนำเข้าแล้วนะ ทะเบียน = เมื่อเรามีรถที่นำเข้ามาถูกต้องเสียภาษีนำเข้ามาแล้ว ถ้าไม่จดทะเบียนว่ากันจริงๆแล้วรถคันนั้นไม่มีสิทธิมาวิ่งในถนน เพราะการจดทะเบียนมันจะบอกว่ารถคันนั้นใช้งานอยู่ในถนน ถ้าเสียแค่สรรพสารมิตรแล้วเอามาจอดเป็นปฏิมากรรมลอยตัวอยู่ที่บ้านก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าวิ่งไปซื้อก๋วยเตี๋ยวก็ผิดแล้ว
ดังนั้นเมื่อมี อินวอยส์ก็รูปว่าพี่นำรถเข้ามาจากไหนราคาเท่าไหร่ แล้วก็เอาข้อมูลในอินวอยส์นี้แหละไปเสียภาษีนำเข้าหรือสรรพสารมิตรเจ้าหน้าที่ก็รู้ว่า อ้อรถคันนี้ราคาซื้อมาเท่านี้นะภาษีก็ว่ากันไปกี่เปอร์เซ็นต์ของราคาที่ซื้อมา เสร็จแล้วถ้าอยากเอารถไปวิ่งหล่อๆในถนนก็เอาหลักฐานการซื้อมาและการเสียภาษีสรรพสารมิตร ไปจดทะเบียนการใช้รถต่อไป ซึ่งจะจดได้หรือไม่ทางราชการท่านก็ต้องตรวจสอบก่อนว่ารถที่ท่านซื้อมานี้มันมีคุณภาพได้มาตราฐานตามกฎหมายที่จะนำไปวิ่งบนถนนหรือไม่ก็จะเรียกไอ้การตรวจนี้ว่า ส.ม.อ. นั้นแหละแล้วไอ้ที่ทำทะเบียนกันแพงๆก็ไอ้ ส.ม.อ. นี่แหละมันตรวจกันไม่ค่อยจะผ่าน จบข่าว
number1 number1 number1 number1
|
บันทึกการเข้า
อยากมี H-D
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2010, 04:18:13 AM »
สุดยอดเลยครับ กระจ่างแจ่มแจ้งเลย ต้องขอบคุณมากๆเลยครับ pray pray pray
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กันยายน 01, 2010, 10:24:48 AM »
อินวอยส์ = เหมือนใบเสร็จรับเงินอ่ะพี่ พอซี้อของเค้าเค้าก็ออกมาให้แต่ในที่นี้มันเป็นใบเสร็จที่ได้จากผู้ที่นำเอารถเข้ามา ใช้เป็นหลักฐานว่าได้ถูกซื้อเอาเข้ามาไม่ได้ลักลอบเอาเข้ามา สรรพสารมิตร = เมื่อเราเอาของเข้ามาจากต่างประเทศ เราต้องเสียภาษีนำเข้า สำหรับรถแบบนี้เค้าก็เรียกสั้นๆว่า "สรรพสารมิตร" ใช้เป็นหลักฐานว่าได้เสียภาษีนำเข้าแล้วนะ ทะเบียน = เมื่อเรามีรถที่นำเข้ามาถูกต้องเสียภาษีนำเข้ามาแล้ว ถ้าไม่จดทะเบียนว่ากันจริงๆแล้วรถคันนั้นไม่มีสิทธิมาวิ่งในถนน เพราะการจดทะเบียนมันจะบอกว่ารถคันนั้นใช้งานอยู่ในถนน ถ้าเสียแค่สรรพสารมิตรแล้วเอามาจอดเป็นปฏิมากรรมลอยตัวอยู่ที่บ้านก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าวิ่งไปซื้อก๋วยเตี๋ยวก็ผิดแล้ว
ดังนั้นเมื่อมี อินวอยส์ก็รูปว่าพี่นำรถเข้ามาจากไหนราคาเท่าไหร่ แล้วก็เอาข้อมูลในอินวอยส์นี้แหละไปเสียภาษีนำเข้าหรือสรรพสารมิตรเจ้าหน้าที่ก็รู้ว่า อ้อรถคันนี้ราคาซื้อมาเท่านี้นะภาษีก็ว่ากันไปกี่เปอร์เซ็นต์ของราคาที่ซื้อมา เสร็จแล้วถ้าอยากเอารถไปวิ่งหล่อๆในถนนก็เอาหลักฐานการซื้อมาและการเสียภาษีสรรพสารมิตร ไปจดทะเบียนการใช้รถต่อไป ซึ่งจะจดได้หรือไม่ทางราชการท่านก็ต้องตรวจสอบก่อนว่ารถที่ท่านซื้อมานี้มันมีคุณภาพได้มาตราฐานตามกฎหมายที่จะนำไปวิ่งบนถนนหรือไม่ก็จะเรียกไอ้การตรวจนี้ว่า ส.ม.อ. นั้นแหละแล้วไอ้ที่ทำทะเบียนกันแพงๆก็ไอ้ ส.ม.อ. นี่แหละมันตรวจกันไม่ค่อยจะผ่าน จบข่าว
ถูกใจคำพูดหลังมาก.....แพงจริงๆๆ number1
|
บันทึกการเข้า
หน้าใหญ่ หลังใหญ่ สปริงเกอร์ / สปริงเก้ ก็เด้งได้
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กันยายน 01, 2010, 10:39:22 AM »
เป็นไปได้ไหมครับ ถ้าเราจะเดินเรื่องเองโดยที่ไม่ต้องผ่านบริษัททีรับจดทะเบียน
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กันยายน 01, 2010, 12:57:12 PM »
มันเป็นวัฒนธรรมของชาติเรา เข้าตามตรอกออกตามประตู ทะเลอทะล่าเข้าไปเค้าก็ไม่ให้เข้าอ่ะครับ แล้วอีกอย่างในรายละเอียดเนี่ยมันมีเรื่องอีกเยอะ มาตราฐานอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง ไม่ใช่พวกเค้าคงยิงร่วงหมดคอตกกลับบ้านเผลอๆหมดโอกาสทำให้ถูกไปเลยเพราะมันเคยตรวจแล้วไม่ผ่าน เคยได้ยินมาว่าจริงๆแล้ว HD เนี่ยไม่ผ่านอยู่แล้วต่อให้ออกห้างก็ไม่ผ่านมาตราฐานเรื่องความยาวของรถ มันยาวเกิน กม. กำหนด เท็จจริงไม่รู้นะครับผมก็จ้างเค้าทำเหมียนกัล pray
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กันยายน 01, 2010, 01:04:38 PM »
เป็นไปได้ไหมครับ ถ้าเราจะเดินเรื่องเองโดยที่ไม่ต้องผ่านบริษัททีรับจดทะเบียน
เคยมีคนวัดดวงไปทำมาแล้ว....เลือดตาแทบกระเด็น....เสียค่าไช่จ่ายไปมากกว่าให้ผู้ที่รับทำมากกว่าซ่ะอีก  สรุปแล้วไม่คุ้ม ให้นายหน้าเดินจัดทำดีกว่าไม่เหนื่อยปล่าว หรือถ้ามีญาติเป็น รมต.คมนาคมหรืออธิบดีกรมการขนส่งทางบก อาจจะเสียไม่แพงคับ 555 headbang number1
|
บันทึกการเข้า
แก่แต่สังขาร แต่สันดานยังวัยรุ่นอยู่
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กันยายน 01, 2010, 02:10:55 PM »
เห็นภาพชัดเจนครับ number1
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กันยายน 01, 2010, 09:20:07 PM »
เพื่อความกระจ่าง เกี่ยวกับเอกสาร มีขั้นตอนดังนี้ครับ
อินวอยซ์ หรือใบส่งสินค้า หรือใบกำกับสินค้า หากรถของคุณเป็นรถใช้แล้ว เช่นรถมือสองนำเข้ามาจากญี่ปุ่น โดยปกติผู้นำเข้าจะแยกเป็นชิ้นๆ นำเข้ามาในรูปของอะไหล่เช่นเคริ่องยนต์ เฟรม อุปกรณ์ตกแต่ง ฯลฯ เพื่อประโยชน์ด้านภาษี เพราะจะเสียภาษีนำเข้าน้อย รายการของอะไหล่ก็จะถูกระบุในเอกสารอินวอยซ์ว่ามีรายการใดบ้าง เพื่อใช้สำหรับเสียภาษีศุลกากรเมือ่สินค้ามาถึงเมืองไทย ดังนั้น การมีเอกสารอินวอยซ์ จึงเป็นเพียงหลักฐานว่าได้นำเข้าอะไหล่ตามรายการที่ระบุและเสียภาษีศุลกากรถูกต้องแล้ว ฮาเล่ย์ ของคุณยังไม่อยู่ในสภาพเป็นรถที่จะนำไปขับขี่ได้ เพราะขั้นตอนนี้มันเป็นเพียงรูปของอะไหล่เป็นชิ้นๆ หากโดนจับ มีสิทธิถูกยึดได้ครับ
ขั้นตอนต่อไปก็คือ การประกอบเป็นคันรถ เมือ่ผู้ขายประกอบรถเสร็จแล้วก็นำมาขายให้คุณ การขายรถที่ประกอบแล้วนั้น ตามกฏหมายจะต้องเสียภาษีสรรพสามิตด้วย เพราะจัดเป็นสินค้าประเภทฟุ่มเฟือย ภาษีสรรพสามิตจัดเก็บกับสินค้าจำพวก สุรา เบียร์ เครื่องดื่มให้กำลังงาน รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ ฯลฯ เอกสารสรรพสามิต จึงเป็นหลักฐานว่า คุณได้ซือ้สินค้าคือรถมอเตอร์ไซด์ ฮาเลย์ และผู้ขายได้ชำระภาษีสรรพสามิตแล้ว (โดยหลักการแล้วผู้ขายจะต้องเป็นผู้ดำเนินการนะครับ ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ซื้อ) ขั้นตอนนี้ ถือว่าสินค้าเป็นรูปของตัวรถแล้ว ไม่ใช่อยู่ในสภาพของอะไหล่เหมือนอินวอยซ์ คุณอาจจะนำรถไปขับขี่ได้ .......แต่ ผิดกฏหมายในแง่ยังไม่มีทะเบียนครับ หากโดนจับตำรวจไม่มีสิทธิยึดรถได้ แต่ต้องเสียค่าปรับเนื่องจากไม่มีทะเบียน
ต่อไปคือขั้นตอนการทำทะเบียน คุณจะต้องนำรถไปตรวจสภาพกับ สมอ. เพื่อ ตรวจเช็คมลพิษจากท่อไอเสียและสภาพรถด้านอื่นๆ ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ปัจจุบันใช้มาตรฐาน ยูโร 3 รถเก่าจะผ่านยากมาก เมื่อผ่าน สมอ. แล้วก็นำหลักฐานไปขอทะเบียนได้เลย การขอทะเบียนไม่ยุ่งยากครับ ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง จากประสบการณ์ ขั้นตอนของ สมอ. ยากที่สุด
ขี่รถมีทะเบียนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่โดนจับนะครับ หากผิดกฏจราจร ขอให้มีความสุขและขับขี่ปลอดภัย
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 02, 2010, 08:19:37 PM »
เพื่อความกระจ่าง เกี่ยวกับเอกสาร มีขั้นตอนดังนี้ครับ
อินวอยซ์ หรือใบส่งสินค้า หรือใบกำกับสินค้า หากรถของคุณเป็นรถใช้แล้ว เช่นรถมือสองนำเข้ามาจากญี่ปุ่น โดยปกติผู้นำเข้าจะแยกเป็นชิ้นๆ นำเข้ามาในรูปของอะไหล่เช่นเคริ่องยนต์ เฟรม อุปกรณ์ตกแต่ง ฯลฯ เพื่อประโยชน์ด้านภาษี เพราะจะเสียภาษีนำเข้าน้อย รายการของอะไหล่ก็จะถูกระบุในเอกสารอินวอยซ์ว่ามีรายการใดบ้าง เพื่อใช้สำหรับเสียภาษีศุลกากรเมือ่สินค้ามาถึงเมืองไทย ดังนั้น การมีเอกสารอินวอยซ์ จึงเป็นเพียงหลักฐานว่าได้นำเข้าอะไหล่ตามรายการที่ระบุและเสียภาษีศุลกากรถูกต้องแล้ว ฮาเล่ย์ ของคุณยังไม่อยู่ในสภาพเป็นรถที่จะนำไปขับขี่ได้ เพราะขั้นตอนนี้มันเป็นเพียงรูปของอะไหล่เป็นชิ้นๆ หากโดนจับ มีสิทธิถูกยึดได้ครับ
ขั้นตอนต่อไปก็คือ การประกอบเป็นคันรถ เมือ่ผู้ขายประกอบรถเสร็จแล้วก็นำมาขายให้คุณ การขายรถที่ประกอบแล้วนั้น ตามกฏหมายจะต้องเสียภาษีสรรพสามิตด้วย เพราะจัดเป็นสินค้าประเภทฟุ่มเฟือย ภาษีสรรพสามิตจัดเก็บกับสินค้าจำพวก สุรา เบียร์ เครื่องดื่มให้กำลังงาน รถยนต์ มอเตอร์ไซด์ ฯลฯ เอกสารสรรพสามิต จึงเป็นหลักฐานว่า คุณได้ซือ้สินค้าคือรถมอเตอร์ไซด์ ฮาเลย์ และผู้ขายได้ชำระภาษีสรรพสามิตแล้ว (โดยหลักการแล้วผู้ขายจะต้องเป็นผู้ดำเนินการนะครับ ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ซื้อ) ขั้นตอนนี้ ถือว่าสินค้าเป็นรูปของตัวรถแล้ว ไม่ใช่อยู่ในสภาพของอะไหล่เหมือนอินวอยซ์ คุณอาจจะนำรถไปขับขี่ได้ .......แต่ ผิดกฏหมายในแง่ยังไม่มีทะเบียนครับ หากโดนจับตำรวจไม่มีสิทธิยึดรถได้ แต่ต้องเสียค่าปรับเนื่องจากไม่มีทะเบียน
ต่อไปคือขั้นตอนการทำทะเบียน คุณจะต้องนำรถไปตรวจสภาพกับ สมอ. เพื่อ ตรวจเช็คมลพิษจากท่อไอเสียและสภาพรถด้านอื่นๆ ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ปัจจุบันใช้มาตรฐาน ยูโร 3 รถเก่าจะผ่านยากมาก เมื่อผ่าน สมอ. แล้วก็นำหลักฐานไปขอทะเบียนได้เลย การขอทะเบียนไม่ยุ่งยากครับ ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง จากประสบการณ์ ขั้นตอนของ สมอ. ยากที่สุด
ขี่รถมีทะเบียนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่โดนจับนะครับ หากผิดกฏจราจร ขอให้มีความสุขและขับขี่ปลอดภัย
pray ขอเพิ่มเติม เล็กน้อยนะครับ การเสีย สรรพสามิต ของ การนำเข้ารถยนต์ มอเตอร์ไซด์ ที่เป็นอินวอยช์(การนำเข้าเป็นชิ้นส่วนอะไหล่) ก็คือการเสียภาษี ขอประกอบชิ้นส่วนอะไหล่ ขึ้นมาเป็นคันรถนั้นเองครับ และการตรวจ สมอ. ปัจจุบันใช้มาตรฐาน ยูโร 6 แล้วครับ ผ่านยากสุดๆครับ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 03:38:35 PM »
ดี heart จังอาทิตย์หน้าก็จะได้เล่มทะเบียนแล้ว 555 ถึงเวลาต้องเสียตังค์อีกแหล่ะ surrender  bored
|
บันทึกการเข้า
แก่แต่สังขาร แต่สันดานยังวัยรุ่นอยู่
|
บันทึกการเข้า
ฮาเล่ย์ฝั่งธนฯ คนบางแค... number1 
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กันยายน 03, 2010, 10:22:41 PM »
ได้ทบทวนอีกครั้ง ความรู้จะได้แน่นขึ้นครับ ได้ยินมาว่า สรรพสามิต 3 หมื่น ทะเบียน 6 หมื่น ราคานี้ สูงไปต่ำไป เป็นธรรมมั้ย รบกวนผู้รู้อีกทีครับ ขอบคุณครับ
|
บันทึกการเข้า
...Become A Biker from inside.
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กันยายน 04, 2010, 01:02:10 AM »
ได้ทบทวนอีกครั้ง ความรู้จะได้แน่นขึ้นครับ ได้ยินมาว่า สรรพสามิต 3 หมื่น ทะเบียน 6 หมื่น ราคานี้ สูงไปต่ำไป เป็นธรรมมั้ย รบกวนผู้รู้อีกทีครับ ขอบคุณครับ
ล่าสุดของผมกำลังตรวจอยู่เลย สรรพสารมิตร 35,000 ทะเบียน 60,000 เลือดตาแทบกระเด็ด เดี๋ยวได้มาจะขี่ให้กระจายระบายความแค้น แพงนักต้องซัดให้คุ้ม
|
บันทึกการเข้า
|