« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 05:20:16 PM »

ผมว่ามันอยู่ที่ส.ด. แต่ละคนมากกว่านะคิดต่างได้นะลองดูสิ worship
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 05:24:51 PM »
มองโลกในแง่ดีไม่ใช่เรื่องยาก
การใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันเราคงมองเห็นทั้งในสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีปะปนกันไปในทุกสิ่ง บางคนมองเห็นสิ่งที่ไม่ดี ก็อาจทำให้เรารู้สึกกังวล ทุกข์ใจ รู้สึกไม่สบายใจ แล้วเก็บมาใส่ไว้ใจในซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ แต่บางคนเลือกมองในสิ่งที่ดี ก็ทำให้รู้สึกยิ้มได้ มีความสุขกับแง่มุมดีๆ ที่เรามองเห็น โดยเฉพาะในที่ทำงานการมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งที่จำเป็นนะ ถ้าอยากอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เพราะชีวิตคนเราก็ไม่ได้ยืนยาวอะไร ถ้าคุณมีอายุอยู่ได้ถึง ๘๒ ปี ก็ประมาณ ๓๐, ๐๐๐ วันเท่านั้น ตอนนี้ท่านใช้ไปเท่าไหร่แล้วท่านคำนวณดูได้ แต่ถ้าถามว่าท่านเหลือเวลาอยู่อีกแค่ไหน ไม่มีใครรู้หรอก ดังนั้นเวลาที่เหลืออยู่ในแต่ละวัน ก็น่าจะทำให้เป็นวันที่มีความสุข โดยการมองโลกในแง่ดี ท่านก็ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาลองพิจารณาดูนะครับ
ดังนั้น หากคนเราสามารถคิดและมองในสิ่งที่ดีได้ ก็จะทำให้เรามีความสุข มีกำลังใจในการดำเนินชีวิต และสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเรามองโลกในแง่ดีได้นั้นต้องเริ่มจากการมองตัวเองในแง่ดีเสียก่อน โดย
1. มองเห็นความสามารถและเชื่อในคุณสมบัติที่ดี ความสามารถและความสำเร็จของตนเอง เชื่อมั่นในตัวเองว่าเราก็เป็นคนดีคนหนึ่ง และมีดีอยู่บ้างแน่นอน มิเช่นนั้นเราก็คงทำงานร่วมอยู่กับคนอื่นๆ ไม่ได้นานขนาดนี้หรอก 2. รู้จักและประเมินตนเองอย่างซื่อสัตย์และตามที่เป็นจริง มองเห็นทั้งข้อดีข้อเสียของตน และพร้อมที่จะปรับปรุงตัวในเรื่องที่ยังบกพร่องอยู่เสมอ และพัฒนาข้อดีให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป 3. พร้อมที่จะรับฟังความเห็นของผู้อื่นบ้าง แต่ไม่ถูกดึงความคิดให้แกว่งไปมาจนเกินไป ต้องพิจารณาด้วยสติและปัญญา 4. รู้จักมองหาแบบอย่างที่ดีโดยไม่เกิดความรู้สึกด้อยกว่า เห็นไหมเขามองโลกในแง่ดีแล้วดูเขามีความสุขนะ ทุกอย่างที่เป็นเรื่องแย่ๆ แต่เขากลับมองไปที่จุดดี ซึ่งจะช่วยลดความทุกข์ใจลงได้ 5. ตระหนักในผลการกระทำของตัวเองที่มีต่อคนอื่น ลองคิดดูว่าถ้าเพื่อนเราทำอย่างนี้ พูดอย่างนี้กับเราแล้วเราจะรู้สึกอย่างไร(เอาใจเขามาใส่ใจเรา) แล้วจะทำให้เราสร้างผลกระทบด้านลบต่อคนอื่นได้น้อยลง 6. ตั้งเป้าหมายของชีวิต และพยายามลงมือทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คนเราถ้ามีความหวัง มีความฝัน ชีวิตก็ดูมีค่า มีทิศทาง แม้สิ่งนั้นจะเป็นวิมานในอากาศ แต่ก็อาจจะทำให้เรามีความสุขได้ ถ้าคุณเกิดมามีพร้อมทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้หมด แล้วลองนึกดูสิว่าชีวิตมันดูไม่มีรสชาติใช่ไหม 7. เมื่อผิดพลาดหรือล้มเหลว ไม่ตำหนิต่อว่าตนเองเกินจริง แต่ลงมือหาหนทางเพื่อแก้ไข เพราะปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอฉะนั้นการมองโลกในแง่ดีไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำ แต่คุณพร้อมและตั้งใจที่มองโลกในแง่ดีหรือเปล่าซึ่งมีความมั่นใจว่าถ้าเรามองโลกในแง่ดีจะทำให้เราทำงานกับผู้อื่นอย่างมีความสุข ดังคำกลอนของท่านพุทธทาสที่ว่า

สาธุ สาธุ สาธุ " ปล่อยว่างมันเสียทุกโขติณณา" สุดยอดครับพี่อู๋ thumbsup thumbsup worship pray
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 06:03:14 PM »
ถ้าจะมีอารมณ์เก็บกดมาระบายในเวปนะ ผมเห็นด้วยที่ควรจะเข้าไปเตลียกันเลย ตบแม่มให้หัวทิ่มไปเลย ขี่รถพันนี้ ........... nana แต่ถ้ามันป๊อดนัก nana ก็ลืมๆซะเหอะ คิดซะว่าเค้าคงหันมายิ้มกับพวกชอปเปอร์ด้วยกัน แต่ว่า บางคนหน้าตามันเป็นอุปสรรคในการผูกมิตรกับชาวโลกก็มีนะครับ headbang
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 06:07:14 PM »
ไม่ควรเหมารวมนะครับ เป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับขี่ HD ติดสติ๊กเกอร์ HDP หรือสติ๊กเกอร์กลุ่มต่างๆ มันคนละส่วนกันนะผมว่า
|
บันทึกการเข้า
Super PAT ชัยภูมิสวัสดีครับ ผมโอ้ทครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 06:27:51 PM »
ผมว่ามันอยู่ที่นิสัยคนมากกว่า อะไรยอมได้ก็ยอมดีกว่าเราชาว2ล้อด้วยกัน pray pray
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 06:36:46 PM »
ถ้าจะมีอารมณ์เก็บกดมาระบายในเวปนะ ผมเห็นด้วยที่ควรจะเข้าไปเตลียกันเลย ตบแม่มให้หัวทิ่มไปเลย ขี่รถพันนี้ ........... nana แต่ถ้ามันป๊อดนัก nana ก็ลืมๆซะเหอะ คิดซะว่าเค้าคงหันมายิ้มกับพวกชอปเปอร์ด้วยกัน แต่ว่า บางคนหน้าตามันเป็นอุปสรรคในการผูกมิตรกับชาวโลกก็มีนะครับ headbang
บางคนหน้าตามันเป็นอุปสรรคในการผูกมิตรกับชาวโลกก็มีนะครับ จริง!
|
บันทึกการเข้า
บางสิ่ง อาจมีค่าแค่ให้ "หยุด" หันกลับไปมอง... แต่ไม่มีค่าพอให้เดิน "ย้อน" กลับไป!
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 06:41:06 PM »
เขาอาจจะไม่ได้คิดอย่างที่คุณรู้สึกก็ได้นะครับ เปิดใจให้กว้าง ส่วนเรื่องการขับขี่ก็อยู่ที่บุคคลครับ ด้วยความเคารพ meditate
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 07:21:38 PM »
ตูพลาดกระทู้นี้ไปได้งัยว่ะ  ประเมินคุณค่าของการให้อภัยให้สูง thumbsup
|
บันทึกการเข้า
แก่แต่สังขาร แต่สันดานยังวัยรุ่นอยู่
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 07:25:26 PM »
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 07:36:29 PM »
มองโลกในแง่ดีไม่ใช่เรื่องยาก
การใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันเราคงมองเห็นทั้งในสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีปะปนกันไปในทุกสิ่ง บางคนมองเห็นสิ่งที่ไม่ดี ก็อาจทำให้เรารู้สึกกังวล ทุกข์ใจ รู้สึกไม่สบายใจ แล้วเก็บมาใส่ไว้ใจในซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ แต่บางคนเลือกมองในสิ่งที่ดี ก็ทำให้รู้สึกยิ้มได้ มีความสุขกับแง่มุมดีๆ ที่เรามองเห็น โดยเฉพาะในที่ทำงานการมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งที่จำเป็นนะ ถ้าอยากอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เพราะชีวิตคนเราก็ไม่ได้ยืนยาวอะไร ถ้าคุณมีอายุอยู่ได้ถึง ๘๒ ปี ก็ประมาณ ๓๐, ๐๐๐ วันเท่านั้น ตอนนี้ท่านใช้ไปเท่าไหร่แล้วท่านคำนวณดูได้ แต่ถ้าถามว่าท่านเหลือเวลาอยู่อีกแค่ไหน ไม่มีใครรู้หรอก ดังนั้นเวลาที่เหลืออยู่ในแต่ละวัน ก็น่าจะทำให้เป็นวันที่มีความสุข โดยการมองโลกในแง่ดี ท่านก็ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาลองพิจารณาดูนะครับ
ดังนั้น หากคนเราสามารถคิดและมองในสิ่งที่ดีได้ ก็จะทำให้เรามีความสุข มีกำลังใจในการดำเนินชีวิต และสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเรามองโลกในแง่ดีได้นั้นต้องเริ่มจากการมองตัวเองในแง่ดีเสียก่อน โดย
1. มองเห็นความสามารถและเชื่อในคุณสมบัติที่ดี ความสามารถและความสำเร็จของตนเอง เชื่อมั่นในตัวเองว่าเราก็เป็นคนดีคนหนึ่ง และมีดีอยู่บ้างแน่นอน มิเช่นนั้นเราก็คงทำงานร่วมอยู่กับคนอื่นๆ ไม่ได้นานขนาดนี้หรอก 2. รู้จักและประเมินตนเองอย่างซื่อสัตย์และตามที่เป็นจริง มองเห็นทั้งข้อดีข้อเสียของตน และพร้อมที่จะปรับปรุงตัวในเรื่องที่ยังบกพร่องอยู่เสมอ และพัฒนาข้อดีให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป 3. พร้อมที่จะรับฟังความเห็นของผู้อื่นบ้าง แต่ไม่ถูกดึงความคิดให้แกว่งไปมาจนเกินไป ต้องพิจารณาด้วยสติและปัญญา 4. รู้จักมองหาแบบอย่างที่ดีโดยไม่เกิดความรู้สึกด้อยกว่า เห็นไหมเขามองโลกในแง่ดีแล้วดูเขามีความสุขนะ ทุกอย่างที่เป็นเรื่องแย่ๆ แต่เขากลับมองไปที่จุดดี ซึ่งจะช่วยลดความทุกข์ใจลงได้ 5. ตระหนักในผลการกระทำของตัวเองที่มีต่อคนอื่น ลองคิดดูว่าถ้าเพื่อนเราทำอย่างนี้ พูดอย่างนี้กับเราแล้วเราจะรู้สึกอย่างไร(เอาใจเขามาใส่ใจเรา) แล้วจะทำให้เราสร้างผลกระทบด้านลบต่อคนอื่นได้น้อยลง 6. ตั้งเป้าหมายของชีวิต และพยายามลงมือทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คนเราถ้ามีความหวัง มีความฝัน ชีวิตก็ดูมีค่า มีทิศทาง แม้สิ่งนั้นจะเป็นวิมานในอากาศ แต่ก็อาจจะทำให้เรามีความสุขได้ ถ้าคุณเกิดมามีพร้อมทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้หมด แล้วลองนึกดูสิว่าชีวิตมันดูไม่มีรสชาติใช่ไหม 7. เมื่อผิดพลาดหรือล้มเหลว ไม่ตำหนิต่อว่าตนเองเกินจริง แต่ลงมือหาหนทางเพื่อแก้ไข เพราะปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอฉะนั้นการมองโลกในแง่ดีไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำ แต่คุณพร้อมและตั้งใจที่มองโลกในแง่ดีหรือเปล่าซึ่งมีความมั่นใจว่าถ้าเรามองโลกในแง่ดีจะทำให้เราทำงานกับผู้อื่นอย่างมีความสุข ดังคำกลอนของท่านพุทธทาสที่ว่า

ผมเห็นด้วยกับ..หลวงพี่อู่ครับ....สาธุ pray worship pray
|
บันทึกการเข้า
เป็นพระมีหน้าที่เทศน์...เป็นเปรตมีหน้าที่ขอ...คนสิ้นหวัง มีหน้าที่รอ...ไอ้พวกสอพลอ..มีหน้าที่..เลีย..
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 07:53:01 PM »
คิดว่าตราบใดที่เขายังไม่ใช้วาจา แค่กิริยา อย่างเดียวตีความได้หลายอย่าง แล้วแต่มุมมองแต่ละคน สงสัย เคลียร์ จบ. ไม่เกียวกับสมาชิก HDP และ ยี่ห้อรถ สังคมไบค์เกอร์ มีแต่มิตรภาพ ไม่แบ่งชั้น นอกเหนือจากนั้นไม่ทราบครับ
สังคมจะเป็นตัวตัดสินพฤติกรรมครับ
คิดลบ...เครียด...เพื่อนน้อย...อายุสั้น คิดบวก..ปลอดโปร่ง...เพื่อนเยอะ...อายุยืน
...ด้วยความนับถือ...
|
บันทึกการเข้า
...Born to be wild...
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 08:32:10 PM »
มองโลกในแง่ดีไม่ใช่เรื่องยาก
การใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันเราคงมองเห็นทั้งในสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีปะปนกันไปในทุกสิ่ง บางคนมองเห็นสิ่งที่ไม่ดี ก็อาจทำให้เรารู้สึกกังวล ทุกข์ใจ รู้สึกไม่สบายใจ แล้วเก็บมาใส่ไว้ใจในซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ แต่บางคนเลือกมองในสิ่งที่ดี ก็ทำให้รู้สึกยิ้มได้ มีความสุขกับแง่มุมดีๆ ที่เรามองเห็น โดยเฉพาะในที่ทำงานการมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งที่จำเป็นนะ ถ้าอยากอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เพราะชีวิตคนเราก็ไม่ได้ยืนยาวอะไร ถ้าคุณมีอายุอยู่ได้ถึง ๘๒ ปี ก็ประมาณ ๓๐, ๐๐๐ วันเท่านั้น ตอนนี้ท่านใช้ไปเท่าไหร่แล้วท่านคำนวณดูได้ แต่ถ้าถามว่าท่านเหลือเวลาอยู่อีกแค่ไหน ไม่มีใครรู้หรอก ดังนั้นเวลาที่เหลืออยู่ในแต่ละวัน ก็น่าจะทำให้เป็นวันที่มีความสุข โดยการมองโลกในแง่ดี ท่านก็ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมาลองพิจารณาดูนะครับ
ดังนั้น หากคนเราสามารถคิดและมองในสิ่งที่ดีได้ ก็จะทำให้เรามีความสุข มีกำลังใจในการดำเนินชีวิต และสิ่งสำคัญที่ทำให้คนเรามองโลกในแง่ดีได้นั้นต้องเริ่มจากการมองตัวเองในแง่ดีเสียก่อน โดย
1. มองเห็นความสามารถและเชื่อในคุณสมบัติที่ดี ความสามารถและความสำเร็จของตนเอง เชื่อมั่นในตัวเองว่าเราก็เป็นคนดีคนหนึ่ง และมีดีอยู่บ้างแน่นอน มิเช่นนั้นเราก็คงทำงานร่วมอยู่กับคนอื่นๆ ไม่ได้นานขนาดนี้หรอก 2. รู้จักและประเมินตนเองอย่างซื่อสัตย์และตามที่เป็นจริง มองเห็นทั้งข้อดีข้อเสียของตน และพร้อมที่จะปรับปรุงตัวในเรื่องที่ยังบกพร่องอยู่เสมอ และพัฒนาข้อดีให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป 3. พร้อมที่จะรับฟังความเห็นของผู้อื่นบ้าง แต่ไม่ถูกดึงความคิดให้แกว่งไปมาจนเกินไป ต้องพิจารณาด้วยสติและปัญญา 4. รู้จักมองหาแบบอย่างที่ดีโดยไม่เกิดความรู้สึกด้อยกว่า เห็นไหมเขามองโลกในแง่ดีแล้วดูเขามีความสุขนะ ทุกอย่างที่เป็นเรื่องแย่ๆ แต่เขากลับมองไปที่จุดดี ซึ่งจะช่วยลดความทุกข์ใจลงได้ 5. ตระหนักในผลการกระทำของตัวเองที่มีต่อคนอื่น ลองคิดดูว่าถ้าเพื่อนเราทำอย่างนี้ พูดอย่างนี้กับเราแล้วเราจะรู้สึกอย่างไร(เอาใจเขามาใส่ใจเรา) แล้วจะทำให้เราสร้างผลกระทบด้านลบต่อคนอื่นได้น้อยลง 6. ตั้งเป้าหมายของชีวิต และพยายามลงมือทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คนเราถ้ามีความหวัง มีความฝัน ชีวิตก็ดูมีค่า มีทิศทาง แม้สิ่งนั้นจะเป็นวิมานในอากาศ แต่ก็อาจจะทำให้เรามีความสุขได้ ถ้าคุณเกิดมามีพร้อมทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ได้หมด แล้วลองนึกดูสิว่าชีวิตมันดูไม่มีรสชาติใช่ไหม 7. เมื่อผิดพลาดหรือล้มเหลว ไม่ตำหนิต่อว่าตนเองเกินจริง แต่ลงมือหาหนทางเพื่อแก้ไข เพราะปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอฉะนั้นการมองโลกในแง่ดีไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำ แต่คุณพร้อมและตั้งใจที่มองโลกในแง่ดีหรือเปล่าซึ่งมีความมั่นใจว่าถ้าเรามองโลกในแง่ดีจะทำให้เราทำงานกับผู้อื่นอย่างมีความสุข ดังคำกลอนของท่านพุทธทาสที่ว่า

ผมเห็นด้วยกับ..หลวงพี่อู่ครับ....สาธุ pray worship pray
ขออนุโมทนาสาธุด้วยคนครับ กับบทความที่พี่อู๋นำมาเสนอด้วยครับ อ่านแล้ว อิ่มบุญจัง  pray
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 08:46:16 PM »
ทุกวงการก็มักจะมีทั้งคนดี และ คนไม่ดี จิงไหมครับ อย่างบ้างทริปผมขี่ H-D อยู่ดีๆ กำลังเพลินๆเลย ก็เจอพวกรถญี่ปุ่น ปาดหน้า หรือ แซงแบบใกล้ๆ บางครั้งมาขิ่งข้างๆแล้วออกแนวจะมาท้าประลองความเร็ว (ในใจก็คิดนะว่า จะบ้าอะป่าวไม่ได้ แหกตาดูบ้างเลยว่านี้รถ H-D นะไม่ใช้รถซิ่งวิ่งแค่ 120-140 กิโลเมตร/ชั่วโมง กูก็จะกระเด็นหลุดจากรถอยู่แล้ว รถพวกมันแม่งวิ่งกันได้จะ 300 อยู่ละจะมาท้ากูทำไมเนี่ย ) เรื่องพวกนี้ผมเจอออกจะบ่อยๆ แต่ก็เข้าใจและก็ไม่ได้เหมาว่า คนที่ขี่รถญี่ปุ่น จะเป็นแบบนี้ซะทุกคนนะครับ..............แยกแยะหน่อยครับ
ถ้าคุณไม่ชอบที่ว่าพวก H-D เป็นแบบนี้คุณก็ไม่ต้องมาขี่ H-D หรอกเดี่ยวตัวคุณก็จะเสียไปด้วย
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 16, 2009, 08:48:49 PM โดย ลูก.....ห..มี...............น้อย »
บันทึกการเข้า
ใครใคร่ขี่ขี่ ใครใคร่จอดจอด แต่ผมจะขี่
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 08:59:59 PM »
การให้ที่ยิ่งใหญ่ที่พระพุทธเจ้าท่าตรัสไว้ก็คือการให้อภัย...ท่านให้ลองปฏิบัติดูก่อน เช่นความโกรธมีกับใครแล้ว เหมือนมีไฟมาเผาทั้งกายและใจมันร้อนรุ่ม จิตใจเศร้าหมอง แต่ถ้าให้อภัยก็เหมือนเอาน้ำมาดับที่ใจ..น้ำในที่นี้ ก็คือความเมตตาเพราะฉนั้นความโกรธต้องดับด้วยความเมตตา
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2009, 09:03:02 PM »
คนที่เป็นแบบนั้นก็มีเยอะนะคับ แต่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าจะมีเพื่อนเยอะอะป่าว(เพื่อนที่จริงใจ)อะนะ
lkl.jpg (106.17 KB, 334x500 - ดู 718 ครั้ง.)
|
บันทึกการเข้า
|