สวัสดีครับท่านผู้อ่านและพี่น้องผองเพื่อนชาว HDP ทุกคน นานแล้วไม่ได้เขียน article วันนี้ไม่สบายเปื่อยอยู่กับบ้านเลยมีเวลาว่าง มานั่งเขียนเรื่องเบรคเรื่องนี้ เราทำความรู้จักกับระบบที่สำคัญในการหยุดรถ นั้นคือระบบเบรคและประวัติความเป็นมากันครับ
เป็นที่รู้ๆกันว่า เริ่มแรกเลยนั้น รถเกิดจากรถที่ใส่หม้อต้มน้ำแล้วเอาไอน้ำมาปั่นแทนแรงสัตว์และแรงคน แน่นอน เมื่อมันเคลื่อนที่ได้ก็ต้องหาทางหยุดมัน
กระทาชายนาย Nicolas Joseph CUGNOT (1725 - 1804) ได้สร้างรถยนตร์คันแรกขึ้นมาด้วยระบบไอน้ำ หน้าตาเค้านะครับ เก็กท่าหล่อเชียว

picture credit -
http://ww3.ac-creteil.fr ตามประวัติที่กระผมได้มาคนๆนี้ ได้สร้างรถจากแรงไอน้ำ กล่าวว่า รถต้นแบบของเค้านั้น สามารถบรรทุกได้ถึง 2.5 ตัน และวิ่งได้ไว ถึง 7.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หน้าตารถ >

และรถต้นแบบคันที่ 2 ได้หลุดออกนอกเส้นทาง ไปชนเปรี้ยงเข้ากับกำแพงหิน เลยเป็น ปรากฎการครั้งแรกของ
การชนของรถยนตร์ครั้งแรกในโลก
เบรคนั้น ดรัมเบรคได้ถูกคิดค้นขึ้นมาใช้งาน ในปี คศ. 1902 มีหลายเจ้าที่ต่างคนต่างคิด
ไม่ว่าจะเป็นนายLouis Renault ผู้สร้าง Drum brake
รึว่า นายFrederick William Lanchester ที่เป็นคนสร้าง DiscBrake อย่างไรก็ตาม
ในสมัยนั้น ดรัมเบรคดูเหมือนว่าจะใช้งานได้ดีกว่าและเป็นที่แพร่หลายกว่า
นาย Ransom Eli Olds เจ้าขอบริษัทรถ OldsMobil ได้เทสการใช้งานอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกที่ New York City แถวๆ Riverside Drive เป็นถนนลูกรังอีกตะหาก
และนาย Olds ก็ได้เข้าแข่งรายการ Blue ribbons แล้วชนะ 2 ใน 9 รางวัล ของรายการดังกล่าว คนเลยเอาดรัมเบรกไปใช้อย่างแพร่หลาย
ทีนี้เรามาดู หน้าตา ดรัมเบรค

picture credit -
http://www.aa1car.comอธิบายการทำงาน การทำงานของดรัมเบรคเมื่อมีแรงกระทำต่อชุดลูกสูบ จะไปถ่างให้ผ้าเบรคไปถูกับวงล้อเหล็ก เพื่อให้เกิดความฝืด เมื่อไม่มีแรง ชุดสปริงดีดกลับก็จะดึงชุดเบรคกลับเข้าที่
ข้อดี ข้อเสีย
"ดรัมเบรค
ข้อดี
1. ราคาถูก
2. สามารถหยุดรถได้นิ่มนวลกว่าดิสก์เบรค
3. ดรัมเบรคกินผ้าเบรคและจานเบรคน้อยกว่าดิสก์เบรค
4. ในขนาดที่เท่ากันดรัมเบรครับน้ำหนักบรรทุกได้มากกว่าดิสก์เบรค
5. ในขนาดที่เท่ากันดรัมเบรคมีพื้นที่สัมผัสจานเบรคมากกว่าดิสก์เบรค
6. มีเสียงดังในขณะทำงานน้อยกว่าดิสก์เบรค
ข้อเสีย
1. การจับตัวของผ้าเบรคช้ากว่าดิสก์เบรค
2. การระบายความร้อนสะสม ฝุ่น น้ำได้ไม่ดี สามารถเกิดเบรคไหม้ในกรณีแช่เบรคได้ง่ายกว่าดิสก์เบรค
3. การซ่อมบำรุง เปลี่ยนผ้าเบรคยุ่งยาก
เพราะเมื่อถอดผ้าเบรคออกมาแล้วเอาอันใหม่ใส่เข้าไปต้องทำการปรับตั้งผ้าเบรค
(ถ้าเบรคหลังส่วนใหญ่พ่วงเบรคมือเข้าไปอีก ต้องตั้งเบรคมือด้วย) ไล่ลมเบรค (อันนี้อย่างเหนื่อย)
เหตุผลหลักๆที่ดิสก์เบรคได้รับความนิยมมากว่าดรัมเบรคก็ไอ้ 3 ข้อนั่นแหละ ข้อสำคัญซะด้วย
เดี๋ยวยังไงรอพี่เอ๋อีกทีล่ะกัน"
เครดิต qoute จากคุณ Arado Kung ในเวป
http://vip.212cafe.com/view.php?user=scania&id=695 ทีนี้เรามาต่อด้วย DiscBrake กัน
อย่างที่อ่านข้างต้น นายFrederick William Lanchester เป็นคนสร้าง หน้าตาแบบนี้เด้อครับ

picture credit -
http://invention.hroyy.com แต่กลับไม่ค่อยแพร่หลายเท่าไหร่ ในปี คศ 1902
หน้าตาของทุกวันนี้เป็นไง หน้าตาเมือ 100ปีก่อนก็แบบนั้นเพียงแต่ปรับปรุงคุณภาพและลักษณะแตกต่างออกไปเท่านั้นเอง
ดูรูปกันสักนิด

picture credit -
http://invention.hroyy.comข้อดี ข้อเสีย
ดิสก์เบรค
ข้อดี
1. การจับตัวของผ้าเบรคไวกว่าดรัมเบรค เพราะผ้าเบรคมันอยู่ชิดกับจานเบรคมากกว่าดิสก์เบรค
2. การระบายความร้อนสะสม ฝุ่น น้ำได้ดี โอกาสที่เบรคจะไหม้เวลาแช่เบรคยากกว่าดรัมเบรค (แต่ก็ไหม้ได้นะ
อย่านึกว่าดิสเบรคจะไม่ไหม้)
3. การซ่อมบำรุง เปลี่ยนผ้าเบรคทำได้ง่าย ถอดผ้าเบรคเก่าออกเอาอันใหม่ใส่ จบงาน
แทบจะไม่ต้องปรับตั้งอะไรทั้งนั้น
ข้อเสีย
1. ราคาแพง ต้นทุนสูง
2. ดิสก์เบรคกินผ้าเบรคและจานเบรคมากกว่าดรัมเบรค
3. การหยุดรถนิ่มนวลสู้ดรัมเบรคไม่ได้
4. ในขนาดที่เท่ากันดิสก์เบรครับน้ำหนักบรรทุกได้น้อยกว่าดรัมเบรค
5. ในขนาดที่เท่ากันดิสก์เบรคมีพื้นที่สัมผัสจานเบรคน้อยกว่าดรัมเบรค
5. มีเสียงดังในการทำงานมากกว่าดรัมเบรค
เครดิต qoute จากคุณ Arado Kung ในเวป
http://vip.212cafe.com/view.php?user=scania&id=695 ต่อไป เราจะมาพูดถึงในเรื่องปัจจุบันกันบ้าง
เมื่อมีเบรคใช้ ก็ต้องดูแลมันหน่อย เบรคมีอาการเสียอย่างไรบ้าง
Warping คืออาการเบรคหายไปเฉยๆ กดเบรค ตายละหว่า เบรคไม่มี เค้าบอกมาว่า เกิดจากการที่เบรคมันร้อนครับ ส่วนใหญ่จะเกิดกับจานเบรคที่ไม่มีรูระบายลมลดความร้อนที่ดีพอ และ ผ้าเบรคที่ไม่เหมาะสมกับอุณหภูมิที่ใช้งานอยู่ บางทีดุมล้อรถก็มีส่วน เช่นพวกลูกปืนแตก ฝืดเกินไปความร้อนถ่ายเทไปที่จาน ทำให้เบรคหายได้เช่นกัน
ดูที่จานของเราหน้าตาแบบนี้ครับ

Credit picture -
http://www.stoptech.comจานเป็นรอย อันนี้เกิดจากผ้าเบรคหมดสถานเดียวครับ เป้นรอยแล้วจะให้ความฝืดในการจับหน้าเบรคลดลง ประสิทธิภาพก็ลดลงตามไปด้วย

Credit picture -
http://www.juratek.comจานแตก อันนี้น่ากลัวแฮะ เค้าบอกว่า จานแตกในส่วนใหญ่จะเป็นรอยแตกเล็กๆ บริเวณที่เจาะรูระบายความร้อน ซ่อมไม่ได้ เปลี่ยนสถานเดียว ออ เค้าเตือนมาด้วยนะครับ ว่า จานที่มาโรงงานแล้วไม่มีรู อย่าไปเจาะเชียว จานจะแตกเอาได้ง่ายๆ

อาจเกิดจากแบบนี้ด้วยครับ

Credit picture -
http://www.juratek.comการเจียร์หน้าจาน การที่เราจะเอะอะเจียร์นั้นต้องดูว่า มันจำเป็นจริงๆในการเจียร์เอาเนื้อจานออก เพราะมันจะทำให้จานบางลงและ อาจถึงกับแตกร้าวได้ง่ายๆ

Credit picture -
http://www.aa1car.comจานเบรค มี 2แบบ คือ แบบลอยตัว กับ ติดกับที่ แบบลอยตัวจะดีกว่าตรงที่สามารถเอาพวกฝุ่นผง สิ่งที่สกปรกออกในทุกครั้งที่มันทำงาน โดยมันจะขยับตัวได้เล็กน้อย ทุกครั้งเวลาเบรค ทำให้เศษต่างๆหลุดออกไปได้ง่ายดาย ทำให้รถไม่เกิดความฝืดเพิ่มในระบบเบรค
ชุดลูกสูบ จะมีอาการคือ ลูกสูบไม่คืนตัว อันนี้ต้องเช็คที่ลูกยางและ seal ต่างๆครับ
ผ้าเบรค จะมีความฝืดพิเศษ มีหลายสูตร หลายรูปแบบในการใช้งาน บางชนิดจะมีตัวเตือนเมื่อผ้าเบรคจะหมด เป็นเสียงดังแหลม
อันนี้แถมให้คอ HDP ไปดู ยั่วน้ำลายเล่นๆ
http://www.harleycustom.co.uk/L2-Technoplus_parts_and_accessories_for_harley_davidson_motorcycles_-_Harley_Brake_Calipers-12-177.html




วันนี้ เวลาหมดแล้วครับ ไว้โอกาศจะมารับใช้ท่านผู้อ่านและพี่น้องผองเพื่อนชาว HDP ในโอกาศต่อไป
รอติดตามชม Brake 102 นะครับ ไปหาข้อมูลก่อน
Scope ในตอนหน้าจะมี
1. การเลือกชุดเบรค สัมพันธ์กับรถ
2. การเลือกจานเบรคที่เหมาะสม
3. การเลือกผ้าเบรคดีๆ เลือกยังไง
4. ท่อดีๆ เลือกแบบไหน
5 น้ำมัน ....เบรค
6. DIY ได้เปล่า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ