ยาวโคตรๆครับแต่อยากให้ได้อ่านกัน !! สนุกมากครับ แต่กว่าจะอ่านจบ ตาแฉะแน่นอน ครับ !!ทความ : กระสุนที่มองไม่เห็น.....เค้าโครงจากเรื่องจริงที่เราไม่เคยรู้
ผู้โพสไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือ ดัดแปลงแก้ไขจากต้นฉบับแม้แต่นิดเดียว แต่ เพิ่มรูปภาพ ที่ขาดหายไปจาก ต้นฉบับ---
หากท่านชื่นชอบผมขอยกเครดิตทั้งหมดให้กับเจ้าของต้นฉบับและบันทึกเล่มนั้น
เรื่องราวของ "พลซุ่มยิง" หรือที่หลายๆคนเรียกกันว่า "Sniper"
การทำงานแบบฉายเดี่ยว หรือไปเป็นคู่.....ต้องมีเพื่อนรัก เพื่อนตาย
เรื่องราวต่อไปนี้มาจากสมุดบันทึก เปื้อนๆเล่มนึง ที่บันทึกไว้
และเป็นความลับมาจนปัจจุบัน
มันบันทึกเรื่องราวของ พลซุ่มยิง คนนึง จาก งานแรกที่ทำ
ประสบการณ์ที่สั่งสม....วันที่สูญเสีย...... จนวันสุดท้ายของชีวิต
เช้าตรู่วันนึง ปลายปี 47 เสียงฮ. บินเรี่ยยอดไม้ลงมาจอดยังฐานเล็กๆ
อันเป็นที่ตั้งของ ฐานเฉพาะกิจ ที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อันร้อนระอุ
ทศ กับ ต้อม 2 นายทหารจากกองทัพไทย ผู้ซึ่งเพิ่งจบหลักสูตร พลซุ่มยิง จากโรงเรียนจู่โจม
ถูกส่งเข้ามาในพื้นที่ เพื่อทำงานแทน คนเก่าที่กลับบ้านไปพัก
" เฮ่ออ มาถึงซะที ฮ. แม่มดังชิหายเลย หูกุจะหนวกละ" ทศหันไปพูดกะคู่ซี้
" เอาน่า มาถึงแล้ว เมิงไมได้นั่งอีกนานแหละ ฮ่า ฮ่า ไปรายงานตัว ก่อนเหอะ"
หลังจากรายงานตัว ทศ กับต้อม ก็แบกเป้เข้าเบิร์มของตัวเอง
"ไอ้ทศ....ผู้กองให้มาตามว่ะ" เสียงต้อมเรียก
" เออๆ เดี๋ยวกุไป" ทศวางเจ้า M-24 อาวุธคู่ใจไว้
"ทำไรวะ ช้าชิหาย" ต้อมถาม
" นั่งปั่น หัม มั่ง....เออ รีบไปเหอะ" ทศตอบกวนตีง เพื่อนไป
หลังทำความเคารพ ผู้กองก็ชี้แจงเป้าหมายในการปฏิบัติการวันนี้
รวมถึงแผนการ และการปฏิบัติการร่วมกับ ชุดจู่โจม ของฐานอื่นๆ
" ชุดซุ่มยิง รายงานตัวเวลา 0 นาฬิกา เข้าฝังตัวในพื้นที่ก่อนการปฏิบัติการ 3 ชม. "
เสียงของผู้กอง ทำให้ทั้งทศและต้อม ตื่นเต้นไม่น้อย เพราะนี่คือ "งานแรก" ในพื้นที่จริง
ที่ต้องยิงคนจริงๆ...
วัน ว. เวลา น. ทศกับต้อม ก็เข้าถึงที่หมาย พร้อมกับเริ่มงานของเขา
"เห็นไรเป่าวะ" ทศถามต้อง ซึ่งทำหน้าที่ นาวิเกเตอร์
" ยัง ว่ะ....ต้นไม้.....ต้นไม้...... ต้นไม้.....ก้อนหิน....."
" ไม่มีสิ่งผิดปกติ" เสียงต้อมบอกเพื่อน ตื่นเต้นเล็กน้อย
เขาทั้งสองเพิ่งรู้ว่าความกดดันที่มโถมเข้ามา เวลาทำงานจริง กับเรียนในโรงเรียน
ต่างกันลิบลับ
ในโรงเรียน มีเสียงครูด่า ตะคอก "เมิงทำอะไรโง่ๆยังงี้ แด่กหญ้าหรือเปล่า"
ที่นี่มีแต่ความเงียบ เสียงใดๆที่ผิดปกติ อาจจะหมายถึงชีวิตของพวกเขาทันที.....
"************************************************นป่า จาก มดแดง เข้าถึงพื้นที่ตามนัดหมาย" ต้อมกรอกเสียงลงในวิทยุ
" ************************************************นป่า รับทราบ เข้าถึงที่หมาย วัน ว. เวลา น." เสียงตอบมา
เวลาผ่านไปจนถึงเวลานัดหมาย......ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ....
" ทศ... มีความเคลื่อนไหว ทางซ้าย กลุ่มคนประมาณ 20 ทาง 370" *แก้ไข 1*
ทศ หันกล้องส่องกลางคืนไปยังทิศทางที่เพื่อนรักบอก...
สิ่งที่เค้าเห็นคือ คนถือปืนยาว นำหน้า และขบวนลูกหาบ....
ตามแผนคือ ************************************************นป่า จะไม่ทำการโจมตี จนกว่า มดแดงจะลั่นกระสุนนัดแรก
ไม่มีการติดต่อทางวิทยุ กระสุนนัดแรกคือสัญญาณจู่โจม....
"เป้าหมาย หัวขบวน ระยะ 80 " เสียงต้อมบอกเพื่อน
" จับเป้าได้แล้ว"... ทศตอบ
"ยิงเมื่อพร้อม" เสียงต้อมบอกเพื่อน
"ปัง!!" เสียงปืนทำลายความเงียบขึ้น หัวขบวนที่ตกเป็นเป้าหงายทั้งยืน ร่วงไปในกอหญ้า
ทศขึ้นกระนนัดต่อไปอย่างรวดเร็ว
ขบวนลูกหาบดังกล่าว เมื่อรู้ตัวว่าถูกซุ่มยิง ก็กระจายเข้าด้านข้าง เพื่อเตรียมตอบโต้ทันที
" เป้าหมาย...ท้ายขบวน ... ยิงเมื่อพร้อม" เสียงต้อมบอกมาอีก
"ปัง!!" แม่นเหมือนจับวาง เจ้าคนท้ายขบวนที่ฉากออกด้านข้าง ถูกกระสุน 7.62
ร้อยเข้าขมับอย่างแม่นยำ
"ปังงงง ปังงงง ปังงง" ประกายไปและเสียงปืน ระเบิดขึ้นจากแนวป่าด้านข้างทั้ง 2
************************************************นป่าที่ฝังตัวตามเวลานัดนั่นเอง
เสียงการปะทะยิงสวนกันสนั่นป่า แต่ครั้งนี้ เป็นการได้เปรียบมากของนักรบไทย
เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่ดีกว่า ************************************************นป่า อยู่ที่เนินดินทั้ง 2 ข้าง ยิงกดลงด้านล่าง
ส่วนมดแดงที่เป็นชุดซุ่มยิง ก็ปิดกั้นทางด้านหน้า
ทันใดนั้น เสียงที่แปลกกว่าปืนทั่วไปก็ดังขึ้น
" วี้ดดดดดดดด!!!!! บรึ้มมมมมม!!!" จรวดหัวปลี พุ่งเข้าใส่เนินดินที่************************************************ นป่าฝังตัวอยู่
"ทศ แนวควัน อาวุธหนัก ยิงเมื่อพร้อม" เสียงต้อมชี้เป้าทันที
" ปัง!!" M-24 ส่งลูกตะกั่วร้อนๆ เข้าที่อกเจ้าของ RPG ทันที
การปะทะเงียบเสียงลง หลังจกการต่อสู้ประมาณ 5 นาที
แต่เวลาของทศ ผ่านไปเหมือนนานนับวัน
วินาทีที่เหนี่ยวกระสุนเข้าสู่ร่างของผู้ที่เรียกว่า ข้าศึก....
ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยแค้นเคือง ... ไม่เคยเห็นหน้า.... มันเหมือนนานชั่วกัป ชั่วกัลป์...
มือของทศ เย็นเยือกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
"ทศ.....ทศ.....ไอ้เชี่ยทศ" เสียงต้อมดังขึ้น
"เฮ้ย ไปได้แล้ว... เมิงจะรอพวกมันมาประเคน ฉันท์เช้าเหรอ" ต้อมดึงที่คอเสื้อเพื่อเรียกสติเพื่อน
"อืม" สมองของทศ อื้ออึงไปหมด...เค้าเพิ่งเคยเห็นเลือดที่พุ่งออกมาจากหัวคน เวลากระสุนกระทบ จะจะตา
" กุรู้ เมิงคิดอะไร... แต่ถ้าเมิงปล่อยพวกนั้นไป พวกนั้นก็จะไปทำร้ายประชาชน ทำร้ายพี่น้องของเราอีกเยอะ... เมิงทำถูกแล้ว อย่าคิดมาก" ต้อมบอกเพื่อนอย่ารู้ใจว่าเพื่อนคิดอะไรอยู่
"อืม " ทศยังอึ้งๆ กับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป
" เฮ้ย กลับฐาน เดี๋ยวคืนนี้ลงไปเอาเหล้าล้างตัวกันในเมืองป่ะ" ต้อมบอก
ทั้งคู่ก็ถอนตัวจากพื้นที่เงียบๆ
กระสุน สาม นัด ที่ทศปล่อยไป วันนั้น 3 ชีวิต ต้องหายไปตลอดกาล
" ป่ะ แด่กเหล้ากัน" ต้อมเดินมาเรียกเพื่อนที่เบิร์ม
" อืม เลี้ยงกุด้วย พสร. กุยังไม่ได้"
" เงินเพิ่มพิเศษ พิษสุราเรื้อรังอ่ะเหรอ" ต้อมหันไปบอกขำๆ
(จริงๆมันคือเงินเพิ่มพิเศษสู้รบ)
"นั่นล่ะ กุยังไม่ได้ เลี้ยงกุด้วย" ทศยักคิ้วข้างนึง หยอกเพื่อน
"เออ ป่ะๆ อย่าแดกแพงล่ะ เงินกุก็ยังไม่ออก" ต้อมบ่นๆ
"อย่ามาตลก ลูกท่านอย่างเมิงอ่ะนะ ไม่มีตังค์ " ทศบอกอย่างรู้ทัน
ก็ไอ้ต้อมมันเป็นถึงลูกชายนายทหารระดับผู้ใหญ่คนนึงในกองทัพ
"เออ ไปเหอะ"