Login

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Indian Motorcycle

หน้า: 1 ... 11 12 [13]
181



:: Indian Girls :: Jasmine Cain


Credit: jasminecain.net




182



2010 INDIAN Chief Bomber LE


Credit: motorcyclebrand.blogspot.com




186



__________________________________________________________________________________


                          

                                _____________________________________      _____________________________________      _____________________________________

                                     INDIAN® CHIEF® CLASSIC                             INDIAN® CHIEF® VINTAGE                             INDIAN® CHIEFTAIN™
                                     Thunder Black                                                  Indian Motorcycle® Red                                    Springfield Blue
                                                                     
                                _____________________________________      _____________________________________      _____________________________________

                                     - Power                                                           - Signature Storage Capability                            - Advanced Technology
                                     - Classic, Heritage Styling                                  - Iconic Styling                                                  - Comfort & Protection
                                     - Premium Materials and Finish                          - Genuine Leather                                             - Progressive Styling
                                _____________________________________      _____________________________________      _____________________________________

                                     THB MSRP                                                           THB MSRP                                                           THB MSRP
                                     STARTING AT ฿1,475,000                                STARTING AT ฿1,585,000                                STARTING AT ฿1,695,000
__________________________________________________________________________________



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-2722-0990
หรือติดต่อฝ่ายขาย | 0-8522-5520-2 ต้น สราวุธ | 0-8411-3284-0 บอล เนติ์ธนัฐ |

187


'อินเดียน' กลับมาเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมเผยโฉม 3 โมเดลใหม่ปี 2014






'อินเดียน' (Indian) หนึ่งในแบรนด์มอเตอร์ไซค์ที่เก่าแก่ระดับตำนาน ซึ่งเป็นที่รู้จักและนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้หลงใหลสองล้อทั่วโลก โดยเริ่มก่อตั้งและผลิตรถมอเตอร์ไซค์ครั้งแรกในปี 1901 ที่เมืองสปริงฟิลด์ ในรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายหลังจาก Polaris Industries  บริษัทผู้ผลิตและพัฒนา Snowmobiles และ ATV รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เข้าซื้อกิจการเมื่อปี 2011 พร้อมกับการเปิดตัวขุมพลังใหม่ "Thunder Stroke 111" ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการปลุกชีพให้กับแบรนด์ดังระดับตำนานอีกครั้ง และในปีนี้ ‘อินเดียน’ ตำนานแห่งรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกของโลกพร้อมแล้วที่จะกลับมาโลดแล่นบนท้องถนน ด้วยการประกาศเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในสายการผลิตปี 2014 เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์ 3 รุ่น ในกลุ่ม Indian Chief ได้แก่ Indian Chief Classic, Indian Chief Vintage และ Indian Chieftain ท่ามกลางฝูงชนนับพันชีวิต ที่งาน "Sturgis Motorcycle Rally ครั้งที่ 73" งานชุมนุมมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นบริเวณ Sturgis Motorcycle Museum & Hall of Fame มลรัฐเซ้าท์ ดาโกต้า (South Dakota) ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา







2014 INDIAN CHIEF CLASSIC

Indian Chief Classic สุดยอดครุยเซอร์ที่ทรงพลังและสมบูรณ์แบบที่สุด โดยคงความเป็นเอกลักษณ์ของ 'อินเดียน' ในอดีต แต่ห่อหุ้มไว้ด้วยความล้ำหน้าทางด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดดเด่นด้วยบังโคลนแบบคลุมล้อ พร้อมตกแต่งด้วยเบาะหนังแท้ และแผงคอนโซลขนาดใหญ่แบบติดตั้งเข้ากับตัวถังน้ำมันเชื้อเพลิงทรงหยดน้ำ (Tear-drop) รวมไปถึงการนำสัญลักษณ์เครื่องหมายการค้ารูป "หัวหน้าเผ่า" (War Bonnet) ติดตั้งไว้บนบังโคลนหน้าของตัวรถ นอกจากนี้ Indian Chief Classic รุ่นปี 2014 ยังมาพร้อมด้วยชิ้นส่วนโครเมียมมันวับและชุดอุปกรณ์มาตรฐานคุณภาพสูง อาทิ ระบบการสตาร์ทเครื่องแบบไม่ใช้กุญแจ, ระบบเบรก ABS, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ Cruise Control, คันเร่งไฟฟ้า, ท่อไอเสีย True Dual, ซี่ล้อแบบโครเมียมอย่างดี, ฝาครอบคาลิปเปอร์, เฟรมหล่อจากอะลูมิเนียมพร้อมช่องรับอากาศเข้า และอื่น ๆ อีกหลากหลายรายการ

โดยในส่วนของเครื่องยนต์นั้น Indian Chief Classic รุ่นปี 2014 ได้มีการใช้ขุมพลังใหม่ Thunder Stroke 111 ที่มีขนาดความจุ 111 ลูกบาศก์นิ้ว (1,811 ซีซี) และให้แรงบิดที่ 119 ฟุต-ปอนด์ ซึ่งได้รับการออกแบบและผลิตขึ้นภายใต้ความเฉียบแหลมทางวิศวกรรมและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย ขณะเดียวกันก็ยังคงรูปแบบดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ 'อินเดียน' เอาไว้ นอกจากนี้ 'อินเดียน' ยังได้เสริมความมั่นใจในด้านประสิทธิภาพ โดยการทดสอบการวิ่งรวมระยะทางกว่า 2 ล้านไมล์ ทั้งบนถนนจริงและในห้องทดสอบ ด้วยประสบการณ์ทางด้านวิศวกรรมอันเหนือชั้นกว่า 60 ปี ของ Polaris Industries








2014 INDIAN CHIEF VINTAGE

Indian Chief Vintage เป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบ Soft Bagger ที่นำเอาสไตล์การออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ 'อินเดียน' มาผสมผสานเข้ากับอุปกรณ์เสริมหล่อที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความใส่ใจและประณีตในทุกรายละเอียด มาพร้อมด้วยเบาะหนังและกระเป๋าหนังด้านข้างสำหรับใส่สัมภาระ ซึ่งสามารถถอดประกอบได้อย่างง่ายดาย ปลายบังโคลนแต่งโครเมียม พร้อมติดสัญลักษณ์ "Vintage" ที่ทำจากโครเมียมไว้บริเวณบังโคลนหน้า รวมไปถึงแผ่นกันลมด้านหน้าแบบถอดได้ ทั้งนี้ Indian Chief Vintage ยังมาพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงานเช่นเดียวกับ Indian Chief Classic ด้วยดีไซน์อันโดดเด่นที่มีเฉพาะใน 'อินเดียน' เท่านั้น อาทิ บังโคลนแบบคลุมล้อ, ล้อซี่ลวด, ยางขอบขาว, แผงคอนโซลแบบติดตั้งเข้ากับตัวถังน้ำมัน ซึ่งมาในชุดสีโครเมียมทั้งหมด ให้ภาพลักษณ์ของความงามแบบคลาสสิก รวมไปถึงการใช้เครื่องยนต์ Thunder Stroke 111 เช่นเดียวกันอีกด้วย







2014 INDIAN CHIEFTAIN

รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ในสายการผลิตของ 'อินเดียน' ซึ่งยังคงรูปแบบความเป็นเอกลักษณ์ของ Indian Chief ไว้ โดยมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้ทันสมัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Indian Chieftain จะมาพร้อมด้วยลูกเล่นใหม่ที่ไม่เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์ Indian รุ่นก่อน ๆ โดยจะมีโคมไฟติดมาพร้อมกับแฟริ่งด้วย และแผงกันลมที่ติดตั้งกับตะเกียบหน้า โดยในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐาน Indian Chieftain ก็มาพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระแบบ Hard Baggers ที่สามารถล็อกเปิด-ปิดได้ด้วยรีโมทและตัวล็อกที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย พร้อมเร้าใจไปกับคุณภาพเสียงระดับสุดยอด ที่มีการเชื่อมโยงด้วยระบบ Bluetooth สำหรับรองรับการเชื่อมต่อกับ Smartphone และระบบแสดงผลแรงดันลมยางอีกด้วย







ทั้งนี้ Indian Motorcycle กำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนเพื่อจำหน่ายในอีกหลายประเทศทั่วโลก โดยในส่วนของตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยนั้น จะมีการนำเข้ารถมอเตอร์ไซค์ Indian Chief 2014 ทุกรุ่น เพื่อเปิดให้สั่งจองและทดลองขับขี่ในช่วงปลายปีนี้ ท่านที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ www.facebook.com/IndianMotorcycleThailand สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2320-0033





ข้อมูลโดย... Indian Motorcycle Thailand

188
News Talk / Re: เปิดตำนาน Indian Motorcycle
« เมื่อ: กันยายน 02, 2013, 11:19:56 AM »


ภาพถ่าย Indian Motorcycle สไตล์อาร์ต ๆ ผลงานโดย Hermann Köpf


Credit: hermannkoepf.com

189
News Talk / Re: เปิดตำนาน Indian Motorcycle
« เมื่อ: สิงหาคม 30, 2013, 11:32:28 AM »


นักปฏิวัติชาวเม็กซิกัน 'ปันโช วิลล่า' (Pancho Villa) โพสต์ท่าถ่ายรูปกับรถมอเตอร์ไซค์อินเดียน เมื่อปี ค.ศ.1914


Credit : allartnews.com


190
News Talk / Re: เปิดตำนาน Indian Motorcycle
« เมื่อ: สิงหาคม 29, 2013, 06:38:46 PM »


ติดตามอัพเดทข้อมูลและรูปสวย ๆ ของ Indian Motorcycle ได้ที่กระทู้นี้
หรืออีกหนึ่งช่องทางที่ www.facebook.com/IndianMotorcycleThailand



ประเดิมภาพแรกด้วยสาวงามกับ Indian แจ่ม ๆ สีฟ้า-ขาว  ::)





191
News Talk / Re: เปิดตำนาน Indian Motorcycle
« เมื่อ: สิงหาคม 14, 2013, 03:36:59 PM »



1930
ในยุคที่ Art Deco เป็นที่นิยม มีการตกแต่งมอเตอร์ไซค์ Indian (อินเดียน) ให้สวยงามยิ่งขึ้นด้วยสีสันที่จัดจ้านของสี Deco มีการออกแบบสีรถแบบทูโทน รวมไปถึงการใช้เทคนิค Pinstriping และการติดป้ายโลโก้กับตัวถังเพื่อเพิ่มลวดลายให้กับตัวรถ





1932
Indian (อินเดียน) เปิดตัว Indian Motoplane และ Pony Scout ซึ่งเป็นรถรุ่นเล็ก 2 โมเดลใหม่





1937
Ed Kretz เจ้าของฉายา “Iron Man” ขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจ Indian Sport Scout วิ่งครบรอบสนามในการคว้าชัยรายการ Inaugural Daytona 200 ในปี 1937 ซึ่งเป็นปีเดียวกันที่บริษัทอินเดียนเปิดตัวมอเตอร์ไซค์คาร์บูเรเตอร์คู่รุ่นแรก





1939
ในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้น Indian (อินเดียน) หันไปมุ่งเน้นการจัดเตรียมรถให้กับกระทรวงสงครามสหรัฐฯ (ต่อมาเปลี่ยนเป็นกระทรวงกลาโหม) อีกครั้ง ควบคู่ไปกับการจัดเตรียมมอเตอร์ไซค์ Indian Chief พร้อม sidecar จำนวน 5,000 คัน ตามคำสั่งซื้อของรัฐบาลฝรั่งเศส





1940
Indian (อินเดียน) บุกเบิกการใช้ระบบกันสะเทือนหลังแบบ "Plunger" (ต้นแบบโช้คในยุคปัจจุบัน) พร้อมกับการเปิดตัวเครื่องหมายการค้ารูปแบบใหม่อย่างบังโคลนแบบคลุมเต็มล้อ (หรือ Valences) ขณะที่มอเตอร์ไซค์ Indian (อินเดียน) ส่วนใหญ่ที่ถูกผลิตขึ้นในช่วงสงครามก็ยังคงเป็นรถที่ใช้ในทางการทหารและตำรวจ





1941
Indian (อินเดียน) เริ่มผลิตมอเตอร์ไซค์ทางการทหารที่ขับเคลื่อนด้วยระบบเพลาที่พัฒนาก้าวหน้ายิ่งขึ้น พร้อมด้วยระบบเกียร์ 4 สปีด





1943
Indian (อินเดียน) ได้รับรางวัล Army-Navy Production Award (หรือ Army-Navy "E" Award) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบเป็นเกียรติให้กับบริษัทที่มีความสามารถในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อใช้ในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เป็นเลิศ!





1945
บริษัทถูกขายและถูกรวมเข้ากับ Torque Engineering Company ก่อนที่ส่วนการผลิตของบริษัทจะขึ้นอยู่กับ Atlas Corporation ขณะที่ฝ่ายกระจายสินค้ากลายเป็น The Indian Sales Corporation ในเวลาต่อมา



1948
Floyd Emde ขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจ Indian 648 Scout สร้างสถิติคว้าชัยชนะในการแข่งขันรายการ Daytona 200 ซึ่งจัดขึ้นบนหาด/ถนนใหม่เป็นครั้งแรก





1951
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อินเดียนพยายามต่อสู้ดิ้นรน เพื่อกลับเข้าสู่ตลาดที่ขายให้กับพลเรือนอีกครั้ง โดยการนำเอา Indian Chief ที่ตกรุ่นไปแล้ว กลับมาเปิดตัวใหม่ในเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 80 ลบ.นิ้ว อันทรงพลัง แต่ยอดขายก็ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง จนต้องยุติสายการผลิตลงในปี 1953





1967
เฮอร์เบิร์ท เจมส์ “เบิร์ท” มันโร (Herbert James "Burt" Munro) นักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ชาวนิวซีแลนด์ ผู้ใช้ชีวิตหลังเกษียณในการพัฒนารถมอเตอร์ไซด์อินเดียน เพื่อตามความฝันในการเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ทั้งนี้ “เบิร์ท” ก็ได้ขี่รถอินเดียน Scout ปี 1920 ที่ปรับแต่งใหม่ด้วยตนเอง เข้าแข่งขันงาน Speed Week ที่เมืองซอลท์เลค รัฐยูทาห์ในอเมริกา สร้างสถิติความเร็วรุ่นความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,000 ซีซี กระทั่ง 40 ปีผ่านไป ก็ยังไม่มีใครสามารถทำลายสถิติของเขาลงได้





1998
ความซับซ้อนของสิทธิในเครื่องหมายการค้า ขัดขวางความพยายามที่จะฟื้นฟูแบรนด์ Indian (อินเดียน) หลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งบริษัทคู่แข่งทั้งหลายก่อนนี้ ได้รวมตัวกันและกลายเป็น Indian Motorcycle Company ในเวลาต่อมา





1999
Indian Motorcycle Company เริ่มเปิดสายการผลิตมอเตอร์ไซค์ Indian (อินเดียน) อีกครั้ง แต่การดำเนินงานยังไม่ประสบความสำเร็จ



2003
ปีของการผลิตรถโมเดลสุดท้ายของ Indian Motorcycle Company ในยุคนี้



2004
หลังการพยายามดิ้นรนเพื่อฟื้นฟู Chris-Craft Boat Company สุดท้าย Stephen Julius และ Steve Heese ก็หันความสนใจมาที่ Indian (อินเดียน) จนกระทั่งพวกเขาได้ครอบครองสิทธิเครื่องหมายการค้าและทรัพย์สินทางปัญญาของ Indian (อินเดียน) ในที่สุด





2008
Indian (อินเดียน) เปิดสายการผลิตมอเตอร์ไซค์อีกครั้ง โดยเริ่มจากสายการประกอบ Indian Chief รุ่นปี 2009 ที่ Kings Mountain ในรัฐนอร์ธ แคโรไลน่า





2011
Polaris Industries บริษัทผู้ผลิตและพัฒนา Snowmobiles และ ATV รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ได้เพิ่ม Indian (อินเดียน) แบรนด์มอเตอร์ไซค์ระดับตำนานเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท โดย Polaris นับเป็นบริษัทที่มีเสถียรภาพมั่นคงอยู่แล้วจากรถมอเตอร์ไซค์ Victory ทั้งนี้ Indian (อินเดียน) จะดำเนินงานอย่างเป็นเอกเทศ โดยจะผลิตรถขึ้นภายใต้ความเฉียบแหลมทางวิศวกรรมและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของ Polaris ขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นแบรนด์ระดับสูงและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงความภาคภูมิใจในความร่ำรวยของมรดกทางวัฒนธรรมของอเมริกา





2012
ปีสุดท้ายของการผลิต Indian Chief โดยสายการผลิตใน Kings Mountain





2013
Indian Motorcycle ยุคใหม่จะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ประเดิมด้วยการเปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ "Indian Thunder Stroke 111" ที่ Daytona Bike Week เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา





ข้อมูลโดย... Indian Motorcycle Thailand



ติดตามความข่าวสารเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์อินเดียนได้ที่
www.facebook.com/IndianMotorcycleThailand


192
News Talk / เปิดตำนาน Indian Motorcycle
« เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2013, 02:52:52 PM »





"อินเดียน" (Indian) นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์มอเตอร์ไซค์ที่เก่าแก่ระดับตำนาน ซึ่งเป็นที่รู้จักและนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้หลงใหลสองล้อทั่วโลก โดยเริ่มก่อตั้งและผลิตรถมอเตอร์ไซค์ครั้งแรกในปี 1901 ที่เมืองสปริงฟิลด์ ในรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อบริษัท Hendee Manufacturing ต่อมาเปลี่ยนเป็นบริษัท Indian Motocycle Manufacturing ในปี 1928 ก่อนจะล้มละลายในปี 1953 กระทั่ง Polaris Industries  เข้าซื้อกิจการในปี 2011 พร้อมกับการเปิดตัวขุมพลังใหม่ "Thunder Stroke 111" ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปีต่อมา ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการปลุกชีพให้กับแบรนด์ดังระดับตำนานอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี ล่าสุด อินเดียนได้ออกมาแถลงเตรียมเปิดผ้าคลุมรถใหม่ "2014 Indian Chief" ในงาน Sturgis Motorcycle Rally ครั้งที่ 73 ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ แต่ก่อนที่จะไปยลโฉมรถใหม่ซึ่งเราจะตามติดเก็บข้อมูลเด็ดมาเล่าสู่กันฟังในโอกาสหน้า คุณรู้หรือไม่ว่าเรื่องราวก่อนที่อินเดียนจะกลายมาเป็นตำนานก็น่าสนใจไม่น้อย ส่วนจะเป็นมาอย่างไร ไปดูกัน!






1901
บริษัท Hendee Manufacturing เริ่มออกแบบมอเตอร์ไซค์อินเดียนคันแรก ก่อนจะสามารถสร้างรถต้นแบบพร้อมรถรุ่นผลิตเพื่อการจำหน่ายอีก 2 คัน จนสำเร็จ และนำออกทดสอบเป็นครั้งแรกในปีเดียวกัน





1902
มอเตอร์ไซค์อินเดียนรุ่นแรกซึ่งมาพร้อมรูปลักษณ์ที่เพรียวลมและนวัตกรรมขับเคลื่อนด้วยโซ่ถูกนำออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการครั้งแรก





1903
"Oscar Hedstrom" ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าวิศวกรผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์อินเดียนทำการบันทึกสถิติรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก โดยรถคันดังกล่าวสามารถทำความเร็วได้ถึง 56 ไมล์/ชั่วโมง



1904
ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์อินเดียนเปิดตัวสีใหม่ Crimson Steed of Steel (สีแดงสดแบบอินเดียน) ในสายการผลิตรถของบริษัท และในปีเดียวกันมอเตอร์ไซค์อินเดียนยังสามารถคว้ารางวัลเหรียญทองสาขาความเป็นเลิศด้านครื่องกลจากงาน St. Louis Exposition มาครองได้เป็นผลสำเร็จอีกด้วย





1906
อินเดียนเปิดตัวเครื่องยนต์ V-Twin รุ่นแรกในสายการผลิตหลังจากทำการพัฒนาและทดสอบนานหลายปี กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 100 ปี รูปแบบ V-Twin ก็ยังคงเป็นที่นิยมในการออกแบบเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ Cruiser



1906
สองนักบิดอินเดียน George Holden และ Luis Mueller ทำสถิติใหม่โดยใช้เวลาเพียง 31 วัน ในการขี่มอเตอร์ไซค์จากซานดิเอโก้ถึงนิวยอร์กอย่างไร้อุปสรรคตลอดการเดินทาง ซึ่งเร็วกว่าสถิติเดิมที่เคยบันทึกไว้ถึง 18 วัน





1907
อินเดียน V-Twin สร้างสถิติชนะเลิศในการแข่งขันรายการ English 1000-Mile Reliability Trial ครั้งที่ 1 ส่งผลให้ชื่อ “อินเดียน” ได้รับความน่าเชื่อถือนับแต่นั้นมา จากนั้นในปีเดียวกันกรมตำรวจนิวยอร์กได้ตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์ดังกล่าวจำนวน 2 คัน สำหรับใช้ในการติดตามม้าที่หนีออกจากคอก



1907
มอเตอร์ไซค์อินเดียนได้รับเลือกให้เข้าประจำการในหน่วยตำรวจมอเตอร์ไซค์หน่วยแรกของกรมตำรวจนิวยอร์ก



1908
เริ่มมีการวางถังน้ำมันรูปแบบใหม่ "loop frame" ให้กับมอเตอร์ไซค์อินเดียน โดยการติดตั้งเข้ากับเฟรมแนวนอนด้านหน้าของตัวรถ ก่อนที่ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายอื่น ๆ จะยึดเป็นแบบอย่าง จนกลายเป็นสูตรสำเร็จในการออกแบบตำแหน่งถังน้ำมันของรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบันนี้





1911
นักบิด Indian (อินเดียน) กวาดทุกสถิติความเร็วและระยะทางของอเมริกา และยังสามารถกวาด 3 อันดับแรกในการแข่งขันรายการ Isle of Man Mountain Course Race ครั้งที่ 1 มาครองได้เป็นผลสำเร็จอีกด้วย





1913
Indian (อินเดียน) เริ่มใช้ระบบแขนแบบ Swingarm และระบบกันสะเทือนหลังแบบ Leaf-Spring กับรถมอเตอร์ไซค์ในสายการผลิตเป็นครั้งแรก





1914
Indian (อินเดียน) มีพนักงานที่ทำงานในสายการผลิตกว่า 3,000 คน กับแนวประกอบชิ้นส่วนรถที่ยาวถึง 7 ไมล์ ในโรงงานอินเดียนที่เมืองสปริงฟิลด์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งมีพื้นที่ถึง 1 ล้านตารางฟุต และในปีเดียวกันนี้ Indian (อินเดียน) ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ชุดไฟแสงสว่างและชุดสตาร์ทเครื่องยนต์ทำงานด้วยระบบไฟฟ้าคันแรกของโลก ขณะที่นักบิดอินเดียนนาม Cannonball Baker สามารถสร้างสถิติความเร็วใหม่ในการขี่มอเตอร์ไซค์ Indian V-Twin ข้ามฝั่งประเทศได้สำเร็จอีกด้วย





1916
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กิจกรรมแข่งรถของ Indian (อินเดียน) ต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว เนื่องจากบริษัทต้องจัดส่งรถสำหรับใช้ทางการทหารจำนวน 41,000 คัน ให้กับกองทัพสหรัฐฯ พร้อมกับการเปิดตัว "Powerplus" เครื่องยนต์ใหม่แบบ Side-Valve ขนาด 61 ลบ.นิ้ว ในปีเดียวกัน





1918
รถแข่ง Indian (อินเดียน) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ Powerplus ในแบบ Overhead Cam ที่มีถึง 4 วาล์วต่อสูบ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 ไมล์ / ชั่วโมง





1920
เริ่มมีการใช้โครงสร้างแบบ Semi-Monocoque ในเครื่องยนต์, ระบบส่งกำลัง และชุดเฟรม กับมอเตอร์ไซค์ Indian (อินเดียน) ในสายการผลิตเป็นครั้งแรก พร้อมกับการเปิดตัวรถใหม่ "Indian Scout" อย่างเป็นทางการ




1920
เริ่มต้นการปฏิวัติด้วย Indian Scout รุ่นปี 1920 ตามด้วย Indian Chief ที่ทำความเร็วได้ถึง 95 ไมล์ / ชั่วโมง, Indian Big Chief อันทรงพลัง, รถรุ่นเล็กอย่าง Indian Prince และ Indian Four ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ





1922
Indian (อินเดียน) กลายเป็นบริษัทแรกในอเมริกาที่ใช้วัสดุอะลูมิเนียมในการทำชุดไพรเมรี่ ซึ่งไม่ทำให้น้ำมันเครื่องซึมออก (Leak Proof) โดยบริษัทยังคงเป็นผู้นำในการแข่งขันด้านการป้องกันน้ำมันเครื่องซึมออกจากฝาต่อมาอีก 10 ปี



1923
มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทโดยการลบตัว "r" ออกจากคำว่า "motorcycle" จนกลายเป็น Indian Motocycle Company



1923
Indian (อินเดียน) เปิดตัวรถใหม่ Big Chief V-Twin ขนาด 74 ลบ.นิ้ว





1927
เปิดตัว Indian Ace รุ่น 4 สูบ





1928
Indian (อินเดียน) 101 Scout กลายเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ถูกเลือกในการแสดงมอเตอร์ไซค์ผาดโผน "Wall of Death" (มอเตอร์ไซค์ไต่ถัง)





ข้อมูลโดย... Indian Motorcycle Thailand



ติดตามความข่าวสารเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์อินเดียนได้ที่
www.facebook.com/IndianMotorcycleThailand


193
News Talk / Indian เปิดตัวเครื่องยนต์ใหม่ "Thunder Stroke 111 Engine"
« เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2013, 09:40:34 AM »

Indian Motorcycle สร้างเซอร์ไพรซ์ เปิดผ้าคลุมขุมพลังใหม่ เผยเตรียมใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรกกับมอเตอร์ไซค์ปี 2014
ภายใต้การดูแลของ Polaris Industries

สำหรับเครื่องยนต์ตัวใหม่ล่าสุดนี้มีชื่อเรียกว่า “Thunder Stroke 111” นับเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดตัวล่าสุดในรอบ 70 ปี
ของบิ๊กไบค์ค่ายดัง Indian Motorcycle ที่เพิ่งเข็นออกมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายในงาน Daytona Beach Bike Weak เมื่อไม่นานมานี้

นับเป็นเรื่องน่าทึ่งที่ Thunder Stroke 111 สามารถถือกำเนิดขึ้นได้ภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี หลังจากที่ Polaris Industries เข้าซื้อกิจการ Indian แสดงให้เห็น
ถึงความมุ่งมั่นทุ่มเททั้งในเรื่องความหลงใหล ระยะเวลา และทรัพยากร ที่ Polaris ใส่ลงไปในการออกแบบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ขณะเดียวกันการออกแบบใหม่ทั้งหมดครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนที่เหนือชั้นของ Polaris ในการศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมไปถึงการศึกษาเอกสารบันทึกไมล์ของมอเตอร์ไซค์โบราณ และการเจาะลึกถึงข้อมูลจำนวนมากของโมเดลรถที่เป็นตำนานของ Indian โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้เครื่องยนต์ใหม่ถอดด้ามที่มีรูปลักษณ์และสมรรถนะที่โดดเด่นที่สุดใน
ประวัติศาสตร์ 112 ปี ของแบรนด์เก่า

สำหรับเครื่องยนต์ Thunder Stroke 111 ถูกสร้างขึ้นที่ Polaris Industries Engine Assembly Plant ในเมือง ออสซีโอล่า (Osceola) รัฐวิสคอนซิน ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบ มาจากเครื่องยนต์ V-Twin ที่เป็นขุมพลังของ Indian Chief ปี 1948 มาพร้อมภาพลักษณ์สไตล์วินเทจ ขณะเดียวกันก็มีความทันสมัยอยู่เต็มเปี่ยม



Thunder Stroke 111

ความจุเครื่องยนต์:  111 ลูกบาศก์นิ้ว (1,811 ซีซี)

แรงบิด:  มากกว่า 115 ฟุต-ปอนด์

รูปแบบ: V-Twin ทำมุม 49 องศา, ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน, อากาศเข้าด้านซ้าย, ระบบท่อไอเสียออกด้านล่าง, ก้านกระทุ้งแบบคู่ขนาน

แครงก์เคส:  ระบบหล่อลื่นแบบกึ่งอ่างแห้ง (semi-dry-sump) ปริมาณความจุสูง พร้อมหม้อน้ำมันขนาดใหญ่

ระบบจุดระเบิด: 3 เพลาลูกเบี้ยว, ก้านกระทุ้ง, 2 วาล์ว/สูบ ทำงานด้วยวาล์วไฮดรอลิค

ระบบจ่ายเชื้อเพลิง: หัวฉีดอิเล็คทรอนิกส์แบบ Electronic Sequential Port Fuel Injection (ESPFI), ระบบควบคุมการเปิด-ปิดลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า

อัตราส่วนกำลังอัด:  9.5:1

ระบบส่งกำลัง: เกียร์ 6 สปีด แบบ overdrive constant meshเฟืองฮีลิกซ์

คลัทช์:  คลัทช์แบบเปียกหลายแผ่นซ้อนกัน, ปะเก็นอะลูมิเนียม, รับแรงบิดสูง

 


หน้า: 1 ... 11 12 [13]
Powered by SMF 2.0.10 | SMF © 2006–2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF || ©2005-2015 HD-Playground. All rights reserved. By Cycle Culture Ltd.Part. T: 02-320-0033