« เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2012, 07:53:34 PM »
การนำเข้าลักษณะชิ้นส่วนเก่า
-ชำระภาษีศุลกากร (อากรขาเข้า) ในรูปของชิ้นส่วนเก่าในลักษณะของชิ้นส่วนของ
เครื่องยนต์ หรือซากรถจักรยานยนต์
-นำมาประกอบ หรือผลิตตัวรถจักรยานยนต์โดยใช้วัสดุภายในประเทศ โดยผู้
ประกอบอุตสาหกรรมตามมาตรา 4 (พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต)
-ยื่นแบบเพื่อชำระภาษี โดยใช้ราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม หรือ ตามราคาที่
อธิบดีประกาศกำหนด ตามมาตรา 8 (พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต)
-นำรถจักรยานยนต์ไปให้ ม.อ.ก. ตรวจเพื่อรับรองสภาพของรถจักรยายนต์
-นำหลักฐานการชำระภาษีสรรพสามิต และใบรับรองของ ม.อ.ก. ไปยื่นขนส่งเพื่อ
ขอจดทะเบียน
ราคาขาย ณ โรงงาน (โครงสร้างราคา)
ราคาชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ที่นำเข้า (ตามใบ Invoice)
ราคาวัสดุอุปกรณ์ในประเทศที่ใช้ในการประกอบหรือผลิตรถจักรยานยนต์
ค่าแรงงานที่ใช้ในการผลิต
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการผลิต (ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ)
กำไรจากการผลิตสินค้า
ราคาตามมูลค่า
ราคามูลค่า = ราคาขาย ณ โรงงาน + ภาษีสรรพสามิตที่พึงชำระ
(ภาษีสรรพสามิต + รายได้มหาดไทย)
ภาษีสรรพสามิตคำนวณได้จาก
ราคาขาย ณ โรงงาน x อัตราภาษี
1 - ( 1 - 1.1 x อัตราภาษี)
มาตรา 8
มาตรา 8 ......การเสียภาษีตามมูลค่านั้น ให้ถือมูลค่าตาม (1)(2)และ(3) โดยให้รวมภาษีสรรพสามิตที่พึงชำระด้วย ดังนี้
(1)ในกรณีสินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักรให้ถือตามราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม
ในกรณีไม่มีราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรม หรือราคาขาย ณ โรงงานอุตสาหกรรมมีหลายราคา ให้ถือตามราคาที่อธิบดีกำหนดตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี อธิบดีโดยอนุมัติรัฐมนตรีมีอำนาจประกาศมูลค่าของสินค้าที่ผลิตในราชอาณาจักร เพื่อถือเป็นเกณฑ์ในการคำนวณภาษี โดยกำหนดกำหนดจากราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรมในตลาดปกติได้
(2) ในกรณีบริการ ให้ถือตามรายรับของสถานบริการ
(3)ในกรณีสินค้าที่นำเข้า ให้ถือราคา ซี.ไอ.เอฟ. ของสินค้าบวกด้วยอากรขาเข้า ค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน และภาษี และค่าธรรมเนียมพิเศษ.........................
การจับกุมดำเนินคดีรถจักรยายนต์ที่ไม่เสียภาษี
ดำเนินคดีกับผู้ครอบครองตาม ม.161(1) หรือ ม.162(1)
ประเมินมูลค่าสินค้าเพื่อใช้ในการคำนวณค่าปรับ โดยเจ้าพนักงานผู้เปรียบเทียบตามมาตรา 132
เมื่อคดีสิ้นสุด ให้ชำระภาษีตาม ม.163
มาตรา 132
มาตรา 132 ในกรณีที่ต้องประเมินมูลค่าของสินค้าเพื่อประโยชน์ในการกำหนดค่าปรับ ให้ถือมูลค่าของสินค้าชนิดเดียวกันซึ่งได้เสียภาษีโดยถูกต้องแล้วในเวลาหรือใกล้เวลาที่กระทำความผิดนั้น ถ้าไม่มีสินค้าชนิดเดียวกัน ให้ถือมูลค่าของสินค้าที่มีลักษณะใกล้เคียงกันตามที่ซื้อขายกันในเวลาดังกล่าว
เส้นทางการนำเข้ารถจักรยานยนต์ที่ใช้แล้ว
เส้นทางตามกฎหมาย ด่านศุลกากร (อากรขาเข้า+ภาษีสรรพสามิต+VAT)
ออกนอกเส้นทาง แจ้งการนำเข้าเป็นชิ้นส่วน (อากรขาเข้า+VAT)
เสียภาษีสรรพสามิต(ผลิต) ถูกประเมินราคาตาม ม.8
ถูกจับกุมตาม ม.161 (ราคาประเมิน ม.132)
เสียภาษีตาม ม.163
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2012, 08:21:37 PM »
ส่วนตัวเห็นใจผู้ซื๊อมากกว่าเพราะต้องซื๊อรถแพงขึ้นและผู้ค้าด้วย แต่ผลประโยชน์มันมหาศาล และหลายค่ายที่เริ่มผลิตขายในเมืองไทยเพราะได้เปรียบเรื่องภาษี FTA และเค้าก็พยามมาตลอดจนสำเร็จผลงานชาวต่างชาติครับ
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2012, 07:03:07 PM โดย kit-octopus »
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2012, 08:25:24 PM »
พวกคุณลองอ่านการให้สัมภาษ์ของนายคนดูแล้วคิดตามนะว่ารู้สึกอย่างไร นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า เห็นด้วยกับมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ออกกฎหมายห้ามรถจดประกอบนำเข้าโครงรถยนต์และรถจักรยานยนต์มือสองจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันมีการสำแดงการนำเข้าเป็นชิ้นส่วนรถยนต์มือสอง แต่ในความเป็นจริงกลับนำมาประกอบและขายในราคาต่ำกว่าผู้ประกอบการในประเทศ ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตกว่าหมื่นล้านบาทต่อปี นายศุภรัตน์ กล่าวว่า มติ ครม.ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับผู้จำหน่ายรถยนต์รายย่อย เพราะส่วนใหญ่นำเข้าถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว มีเฉพาะบางรายที่ลักลอบซึ่งอาจจะต้องหายไป จะเป็นการสร้างความยุติธรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่จะลงทุนในประเทศ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2012, 09:06:13 PM »
เอาใจช่วยพวกเราๆครับ pissedoff
|
บันทึกการเข้า
หัวใจสองล้อ รักพ่อหลวง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2012, 08:08:27 AM »
หวัดดีคับพี่กิต ผมก็ขี่รถ สพม.อยู่คับ กะว่าจะหารถทะเบียนเปลี่ยนปลายปีซะหน่อย ตังค์ไม่พออีกแหละ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2012, 03:22:47 PM »
การพัฒนาฝีมือแรงงานในกลุ่มนี้จะเติบโตไปอย่างช้าๆ และตามหลังกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วผู้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีตลอดไป เพราะกฏหมายเอาใจนายทุนแบบนี้ครับ มาเลเซียผลิตรถแบรนด์ตังเองได้แล้วส่งขายทั่วโลก เกาหลีใต้ก็ด้วย อินเดียอีกหนึ่ง แบรนด์ไทยเรามีครับ แต่เกิดยากมาก กว่าจะมีวันนี้้หนื่อยครับ แถมคนไทยไม่สนับสนุนอีก การนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในฝีมือและคุณภาพอุตสาหกรรมในทางอ้อมได้ครับผมเชื่ออย่างนี้ครับพี่เศร้าครับ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2012, 07:44:47 AM »
การพัฒนาฝีมือแรงงานในกลุ่มนี้จะเติบโตไปอย่างช้าๆ และตามหลังกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วผู้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีตลอดไป เพราะกฏหมายเอาใจนายทุนแบบนี้ครับ มาเลเซียผลิตรถแบรนด์ตังเองได้แล้วส่งขายทั่วโลก เกาหลีใต้ก็ด้วย อินเดียอีกหนึ่ง แบรนด์ไทยเรามีครับ แต่เกิดยากมาก กว่าจะมีวันนี้้หนื่อยครับ แถมคนไทยไม่สนับสนุนอีก การนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในฝีมือและคุณภาพอุตสาหกรรมในทางอ้อมได้ครับผมเชื่ออย่างนี้ครับพี่เศร้าครับ
จริงอย่างที่ว่า นักการเมืองแม่งเอื้อประโยชน์แต่กับพวกมันเองและก็กระเป๋าตังค์มันเอง ประเทศชาติจะเจริญได้อย่างไรหล่ะคับพี่น้อง...
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2012, 07:56:29 AM »
sadangel sadangel sadangel
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2012, 12:36:04 PM »
หวัดดีคับพี่กิต ผมก็ขี่รถ สพม.อยู่คับ กะว่าจะหารถทะเบียนเปลี่ยนปลายปีซะหน่อย ตังค์ไม่พออีกแหละ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 30, 2012, 12:37:18 PM »
หวัดดีคับพี่กิต ผมก็ขี่รถ สพม.อยู่คับ กะว่าจะหารถทะเบียนเปลี่ยนปลายปีซะหน่อย ตังค์ไม่พออีกแหละ
รีบๆนะ กฏฟมายออกเมื่อไหร่ อดหรือไม่ก็แพงมาก รีบๆคับเพื่อน
|
บันทึกการเข้า
|