Login
นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้วยครั  (อ่าน 10906 ครั้ง)

หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
รวบรวมวิธีกันน้ำแบบต่างๆ1




thumbsup  วิธีกั้นน้ำและเรียงถุงทรายต่างๆมีประโยชน์มากๆครับ  thumbsup


ตามลิงค์นี้เลยครับ

http://www.rajdumnern.com/simple/?t623.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2011, 03:57:30 AM โดย หมอ หลุยส์_ซด.๒๗ »
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูลและข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมครับ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้วยครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 04:03:56 AM »
รวบรวมวิธีกันน้ำแบบต่างๆ2




"วสท. หรือวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เสนอแบบเขื่อนกันน้ำที่แข็งแรงกว่า สร้างง่ายและเร็วกว่าเขื่อนกระสอบทราย เหมาะกับยุคกระสอบทรายราคาแพง
ใครชอบก็เอาไปประยุกต์ใช้กันได้ ทาง วสท.ไม่สงวนสิทธิ์"




คอกใส่ถุงน้ำ เป็นภาชนะที่ช่วยจัดทรงให้ถุงน้ำอยู่ตัวมากขึ้นซ้อนได้หลายชั้นขึ้นมีความแน่นในการเรียงถุงน้ำมากขึ้น

การสร้างคอกไม้ใส่ถุงน้ำนั้น พื้นไม้จะต้องเรียบติดพื้น ด้านหลังคอกจะต้องเรียบติดประตูบ้านหรือกำแพงบ้าน ซึ่งความกว้างของคอกนั้นจะต้องกว้างกว่าประตูบ้านหรือกำแพงบ้าน ส่วนความสูงนั้นก็ต้องคาดคะเนเอาดูว่าน้ำจะท่วมสูงขึ้นมากเท่าไหร่ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหนียวของถุงที่จะใส่ด้วยว่าจะซ้อนได้กี่ชั้น ซึ่งการซ้อนแต่ละชั้นนั้นจะมีไม้กระดานอัดรองอีกชั้นก็จะดี เพราะจะได้ช่วยกระจายน้ำหนักของถุงน้ำด้านบนด้วย ส่วนไม้คำยันด้านหน้าและด้านหลังนั้นจะมีก็ได้ไม่มีก็ได้เพราะว่าน้ำหนักของน้ำได้กดทับคอกไม้เอาไว้แล้ว

ส่วนแรงดันน้ำจากน้ำที่ท่วมนั้นจะไม่ทำให้ถุงน้ำลอยตัวเพราะน้ำที่ท่วมมาจะดันถุงน้ำจากด้านหน้าและด้านข้างเท่านั้น ซึ่งด้านใต้ถุงน้ำ ไม่มีน้ำสามารถเล็ดลอดเข้าไปได้เพราะพื้นถูกถุงน้ำกดทับกับพื้นอยู่แล้ว และด้านหลังคอกถุงน้ำก็แห้งน้ำ ไม่มีน้ำมาเป็นปัจจัยให้เป็นแรงหนุนเชื่อมต่อกับน้ำด้านหน้าได้ น้ำจากด้านหน้าจึงไม่สามารถยกถุงน้ำให้ลอยได้

สรุปคือ ถุงน้ำจะเป็นกำแพงน้ำรองรับการบีบอัดจากน้ำด้านหน้าและด้านข้างเท่านั้น เพื่อป้องกันน้ำท่วมไม่ให้ไหลเข้าไปในที่พักอาศัยหรือบริเวณที่ป้องกันน้ำท่วม

ข้อควรระวัง - พื้นที่ๆ มีน้ำเชี่ยวกราดรุนแรงมากๆ การใช้ถุงน้ำป้องกันน้ำท่วมอาจจะไม่ได้ประสิทธิผลเท่าที่ควร

ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ลองไปทำกันดูนะครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่บ้านของแต่ละท่านด้วยนะครับ ลองปรับเปลี่ยนวิธีการกันดูนะครับ...อนุญาติให้เผนแพร่เพื่อเป็นประโยชน์สาธารณะได้เลยครับ.

เครดิต : คุณ Anupong รักและเทิดทูนในหลวง







ถุงดำใส่น้ำกั้นน้ำได้ ยามไม่มีทราย

ถุงน้ำ ทดสอบกับน้ำตกซึ่งมีแรงดันน้ำเชี่ยวพอประมาณ วางแถวเดียวก็ช่วยเบี่ยงแบนทิศทางน้ำได้ดี แนบสนิทกับพื้นผิวไม่มีน้ำเล็ดลอดออกมาระหว่างช่องได้เลย

วิธีทำ...นำถุงดำที่ได้มาตราฐาน ISO หรือถุงที่มีความเหนียวใส่ซ้อนกัน 2 ถุง แล้วเติมน้ำลงไปให้เต็ม แล้วใช้สายรัดสายไฟรัดปิดปากถุงให้แน่น วางเรียงเป็นแถวซ้อนกัน ซึ่งหากมีไม้กระดานอัดมากั้นระหว่างแถวก็จะทำให้มีความแข็งแรงคงทนมากขึ้น.

- ในรูปภาพถุงดำที่ใช้ทดสอบยี่ห้อ TESCO ขนาด 24 x 28 ซึ่งมีความบางมาก อาจรั่วง่าย ทำให้น้ำไม่ตั้งทรงตามถุง แต่ก็พอจะใช้กั้นน้ำได้ แต่ไม่ขอแนะนำ.

แนะนำให้หาถุงดำที่ผ่านมาตราฐาน ISO หรือถุงพลาสติกชนิดที่มีความหนาเป็นพิเศษก็ได้หรืออาจจะใส่ซ้อนลงไปในกระสอบอีกชั้นก็ได้เพื่อความแข็งแรงอยู่ทรงมากขึ้น..







อันนี้ใช้แผ่นpolycarbonate






หาทรายไม่ได้ใช้แผ่นพลาสติกแล้วยิงซิลิโคนแทนเคยใช้กับน้ำท่วมมา2ปีแล้วเวิร์คมากแผ่นพลาสติกหาซื้อจากร้านทำกันสาดให้เขาตัดให้ตามขนาดที่ต้องการของหาได้ง่ายกว่าทรายนะ

เครดิต : คุณ Gritsada Suptuaychone













กันน้ำ โดยใช้แผ่นสมาร์ทบอร์ด

ใช้แผ่นสมาร์ทบอร์ด...ผมใช้ 4 มม แนะนำให้ใช้ 6 มม ครับ
หนากว่านี้มันจะทำงานยาก
สาระอยู่ที่ ยัดถุงก็อปแก็ปไว้ด้านล่างฝั่งชิดผนังหรือวงกบ
และตลอดความยาวช่องประตู
ส่วนอีกฝั่งซีลด้วยซิลิโคนทั้งด้านล่างและด้านข้า

ไอเดียของคุณ George Enlightened
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 27, 2011, 04:12:23 AM โดย หมอ หลุยส์_ซด.๒๗ »
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูลและข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมครับ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้วยครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 04:14:48 AM »





ถ้ายังกลัวว่ากันไม่อยู่ก็เอายันต์ไปช่วยนะครับ5555555555   nana
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


kob_the_kop

  • EXILE
  • กระทู้: 6,357
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้ว
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 10:38:47 AM »
...เยี่ยมครับหมอ...จัดเต็มสำหรับเพื่อนๆชาว HDP. มีประโยชน์มากๆครับ...ว่าแต่แถวบ้านหมอแปะยันต์ยังคับ...อิ อิ อิ... ;D nana :-* flirty

หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้ว
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 12:00:10 PM »



............... น้ำท่วม มอเตอร์ไซค์ ไม่พัง ไม่ต้องกลัว .............      
เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ ต้องลุยน้ำ หรือ โดนน้ำท่วม มิดทั้งคัน ไม่ต้องตกใจครับ

สิ่งที่ควรทำ คือ

* ห้ามติดเครื่อง ให้นำรถออกมาอยู่ในที่แห้ง หรือ ที่ที่ระดับน้ำ สูงไม่ถึงเครื่องยนต์

ภาพที่เรามักพบเห็นกันบ่อยๆก็คือ รถมอเตอร์ำไซค์ เปียกโชก และ สตาร์ทไม่ติด

สรุป ปัญหาจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง

1. น้ำเข้า หม้อกรองอากาศ / ท่อไอดี

อันนี้ อันตรายที่สุด เพราะอาจทำให้ชิ้นส่วนภายในชำรุดรุนแรงจนถึงขั้น พัง

ดังนั้น หากเครื่องดับ ขณะจมน้ำ *อย่าพยายามฝืนสตาร์ทเครื่อง*

แต่ ถ้าไม่ได้จมน้ำ ไม่เป็นไร ยังสตาร์ทเครื่องได้ครับ แต่

ให้ ถอดท่อยางหม้อกรองอากาศออกก่อน เพราะอาจมีน้ำในหม้อกรองอากาศ




2. น้ำซึมเข้าระบบไฟฟ้าจุดระเบิด ทำให้ ไม่มีไฟสปาร์คที่หัวเทียน ติดเครื่องไม่ได้

อุปกรณ์ ที่จะเป็น ปัญหาได้แก่ ปลั๊กหัวเทียน - สวิทช์กุญแจ - สวิทช์ RUN-OFF

พวกนี้ ให้ถอด หัวเทียน+ ปลั๊กหัวเทียน ออกมาเป่า หรือเช็ดให้แห้ง ไม่จำเป็น

ต้อง ฉีด สิ่งใดๆทั้งนั้นครับ ก่อนใส่คืนลงไปให้ตรวจดูว่า ไฟแรงสูงสปาร์คที่หัวเทียน หรือยัง

โดย เสียบหัวเทียนเข้าในปลั๊กหัวเทียน แล้ววางตัวหัวเทียนให้สัมผัส ตัวเครื่องยนต์

แล้วลองดู ถ้าไฟสปาร์คที่เขี้ยวหัวเทียน ก็เรียบร้อยใช้ได้แล้วครับ

แต่ ถ้ายังให้ลองถอด ปลั๊กสายไฟ ของชุดสวิทช์ RUN-OFF ที่สวิทช์แฮนด์ขวา

ออกมาตรวจดู ถ้าถอดแล้วสตาร์ทดู มีไฟที่หัวเทียน แสดงว่า สวิทช์ RUN-OFF มีน้ำเข้า

ให้ตรวจแบบเดียวกันนี้กับ ปลั๊กสายไฟ ของสวิทช์กุญแจด้วย น้ำอาจซึมเข้าไปใน

ปลั๊กสายไฟ หรือ รูกุญแจ เป็นสาเหตุ ที่ทำให้ไฟไม่สปาร์ค ที่หัวเทียนด้วยครับ




3. เรื่องน้ำเข้าใน ห้องเกียร์+คลัทช์  ไม่ต้องกลัวครับ สามารถขับขี่ได้ทั้งวัน

พอรอดออกมาจากภาวะน้ำท่วม ค่อยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องก็ได้ ไม่ร้ายแรงครับ




4. เรื่องน้ำเข้า โคมไฟหน้า/ท้าย ให้เปิดให้น้ำออก มาแค่นั้นพอ

อย่าเอามือไปโดนผิวหลอดไฟละกัน หลอดอาจจะขาดเพราะไขมันบนมือเรา

................................................................................................

นอกนั้นไม่มี อะไรร้ายแรงให้ต้องกลัว เช่น

ท่อไอเสียจมน้ำ ขณะลุยน้ำ เพียงแต่

*อย่าเร่งแล้วเบาดับละกัน ให้เลี้ยงคันเร่งไว้ ก็ไปได้ตลอดทาง

สิ่งสำคัญ ขอให้ใช้ปลั๊กหัวเทียนของแท้ สภาพดี น้ำจะไม่เข้าหัวเทียน

...........

ส่งท้าย เลียเบรก หน้า/หลัง บ่อยๆ ป้องกัน เบรกลื่นด้วยนะครับ

เครดิต   nasay

http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V11239565/V11239565.html
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้ว
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 12:10:19 PM »


ตอนนี้เราไปดูกันบ้างว่า  ถ้ารถจมน้ำเข้าให้  ไม่ว่าจะจำใจ  จงใจ ไม่ตั้งใจนั้น  เราควรจะทำอย่างไร?

         อันที่จริงแล้วผมไม่อยากจะเอามาบอกนักนัก? ด้วยว่าไม่อยากให้ใครเที่ยวได้เอารถยนต์ไปหล่นตูมตามลงในน้ำลึก? และไม่ได้อยากเห็นใครมีปัญหาเมื่อรถจอดอยู่กับที่แล้วน้ำไม่รักดีบ่าเข้าไปท่วมรถ? แต่อ่านข่าวที่เดี๋ยวนี้ชัก ไม่ค่อยอยากอ่านเท่าไร? ด้วยว่ามีแต่เรื่องน่ากลุ้มใจไปหมดไม่ว่าบ้านเราหรือบ้านเมือง? ก็ยังได้พบข่าวน้ำท่วมประปราย? เลยจับเอาอาการแก้ไขหลังน้ำท่วมรถขึ้นมาเล่าสู่กันฟังเสียตรงนี้ล่ะครับ

-แรกทีเดียว อย่าพยายามรีบร้อนติดเครื่องยนต์รถที่เพิ่งเอาขึ้นจากน้ำหรือน้ำลดลงไปจากการท่วมมิดเครื่องยนต์เป็นอันขาด? เพราะน้ำที่อัดอยู่ในเครื่องยนต์อาจจะทำให้ก้านสูบกับก้านกระทุ้งวาล์วในกรณีที่เป้นรถโบราณเช่นโฟล์กสวาเกน? เต่าทองนั้น? คดงอได้เลยทีเดียว?

-อย่าพ่วงไฟเพื่อติดเครื่องยนต์รถที่ไหม่กว่ารุ่นปี ค.ศ. 1989? หรือ พ.ศ. 2532? ขึ้นมา? ด้วยว่านั้นจะเปิดโอกาสให้แอลเทอร์เนอเตอร์ซึ่งมักจะเรียกกันง่าย ๆ ว่า ไดชาร์จ? และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นานาประดามีในรถไหม้เสียหายได้
 
-ก่อนที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่? หรือเอาแบทเตอรี่ไปอัดไฟให้เต็มอีกทีแล้วเอามาใช้? หรือพูดให้ชัดก็ได้ว่า? ต่อขั้วแบตเตอรี่เข้ากับรถอีกครั้งหลังจากพ้นน้ำแล้วนี่? ปลดฟิวส์ของระบบถุงลมนิรภัยเพื่อไม่ให้ทำงานขึ้นมาได้ในระยะแรกนี้ก่อน? ด้วยว่าถ้าวงจรไฟฟ้าในระบบถุงลมนิรภัยเกิดลงดินหรือชอร์ตกันได้แล้วล่ะก็? ถุงลมระเบิดตูมแบบว่าทำงานให้ใช้ได้ขึ้นมาเฉย ๆ เสียของไปเปล่าๆ หลายหมื่นทีเดียวนะครับ
 
-ปกติเมื่อรู้ว่ารถจะจมน้ำ? เราก็ควรถอดสายไฟยกแบตเตอรี่ขึ้นที่สูงบนบ้านบนเรือนก่อน? ถ้าทำไม่ทันแบตเตอรี่จมน้ำอยู่ก็จะหมดไฟไปก่อนที่จะเข้าทำให้เกิดกระแสลัดวงจรทที่เสียหายเพราะน้ำได้? แต่เมื่อน้ำแห้งแล้ววงจรอาจจะลงดินอยู่? มีกระแสเข้าไปเมื่อไรลัดวงจรเมื่อนั้น? จึงควรรีบถอดสายแบตเตอรี่ออกทันทีที่รถพ้นน้ำ? ถ้าไม่ได้เอาแบตเตอรี่ออกไปเสียก่อน? โดยเฉพาะรถที่ตกน้ำลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจนั่น
 
-ทีนี้? เมื่อปล่อยให้วงจรอุปกรณ์หลายอย่างแห้งแล้ว? ก็ปลดฟิวส์ของวงจรที่มั่นใจได้ออกเสียก่อน? เช่นวงจรถุงลมนิรภัยเป็นต้น
 
-ตรวจรถยนต์ที่เพิ่งพ้นน้ำของคุณให้ถี่ถ้วน? ถ้าพบน้ำในที่เขี่ยบุหรี่? ก็เชื่อเอาไว้ก่อนว่า? น้ำคงเข้าไปถึงระบบไฟฟ้าบนหน้าปัด? เช่น? มาตรมัดต่าง ๆ และสวิตช์ได้??? และดดยที่วงจรเหล่านี้มักจะทำเป้นแผงจึงสามารถทำความสะอาดและแห้งเอามาใช้ได้ใหม่อีก? แต่ตามที่ปรากฏกันมาก็คือคุณมักจะพบปัญหาของวงจรในการใช้งานต่อไปภายหน้า? และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จมน้ำหรือเปียกน้ำนี้? อายุการใช้งานหลังจากนั้นจะค่อนไปทางข้างสั้น
 
-อย่าไปหวังอะไรให้มากนักเลยครับ? นอกเสียจากจะเปลี่ยนกันใหม่หมด? แพงอีกใช่ไหมล่ะ
 
-เกียร์อัตโนมัติกับทอรืกคอนเวิร์ตเตอร์? ต้องได้รับการล้างเอาน้ำมั่นและน้ำออกให้หมด? เช่นเดียวกับเฟืองท้าย? หรือส่วนมากในตอนนี้จะไปอยู่ข้างหน้าแล้ว? กับพวกทรานสเฟอร์ของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ? ด้วยว่าทั้งสองอย่างนี้มีรูระบายอากาศน้ำจึงเข้าไปทางนั้นได้? ก็ต้องทำอย่างเดียวกับเกียร์อัตโนมัติ
 
-เพลาขับที่ยางหุ้มเพลาขาด? น้ำจะเข้าไปนำเอาจารบีออกไป? ต้องอัดจารบีใหม่และเปลี่ยนยางหุ้มเพลาด้วย
 
-อีกอย่างหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้? เมื่อตรวจเกี่ยวกับระบบส่งกำลังนี่คือ ลูกปืนล้อทั้งหน้าและหลังที่มีอยู่ในรถทั่วไป?? ต้องนำออกมาล้างอัดจารบีใหม่? ใส่กลับคืนที่ด้วยการปรับใหม่ให้แน่นตามลำดับไม่แน่นเกินไปจนล้อหมุนฝืด
 
-ล้างและเปลี่ยนน้ำระบายความร้อน? เอาโคลนเลนที่ติดอยู่ตามรังผึ้งหม้อน้ำออกให้หมด? ใส่น้ำยาลดความร้อน? หล่อลื่น? และรักษาโลหะลงผสมในน้ำระบายความร้อนใหม่อีกครั้งให้ได้ตามลำดับที่กำหนด
 
-การกำหนดอัตราส่วนผสมน้ำยากับน้ำในระบบระบายความร้อนนี้ที่กระป๋องหรือขวดน้ำยาจะมีบอกชัดเจน? ถ้าเป็นฟอร์ดก็จะมีป้ายบอกไว้ที่ระบบหรือหม้อน้ำสำรอง? โดยให้ใช้น้ำยาของฟอร์ด? 50 %? กับน้ำสะอาด? 50 %?? เป็นต้น
 
-การใช้น้ำยาสีเขียว? ราคาประหยัด? ใส่เพียงกระป๋องเดียวหกเจ็หดสิบบาทนั่น? ช่วยอะไรทางด้านการลดความร้อนและการสึกกร่อนของอะลูมิเนียมผสมในเครื่องยนต์ไม่ได้หรอกครับ? เรื่องแบบนี้ไม่ควรประหยัดเพราะจะเป็นการเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย? เมื่อถึงเวลาต้องซ่อมเครื่องยนต์ด้วยค่าใช้จ่ายหลาย ๆ หมื่นบาท
 
-อย่างน้อยก็ต้องล้างทำความสะอาดภายนอกของระบบห้ามล้อเปลี่ยนน้ำมันเบรก? และหากแช่น้ำอยู่นานก็อาจจะต้องถึงขนาดซ่อมใหญ่เบรกทั้งระบบกันเลยก็ว่าได้? ตรงนี้ไม่ต้องถึงรถจมน้ำทั้งคันหรอกครับ? แค่แช่อยู่ทั้งวันลึกท่วมล้อเท่านั้นก็ได้เรื่องแล้ว
 
-รถกระบะหนึ่งตันที่ชอบลุยน้ำลึก? เพราะเห็นว่าเครื่องยนต์ดีเซล ไม่มีระบบไฟฟ้าจุดระเบิด? ไม่ต้องกลัวน้ำเข้าระบบไฟฟ้าแล้วเครื่องดับนั้น? ถ้าน้ำเข้าเครื่องก็เสร็จเหมือนกัน? หนักกว่ารถเบนซินด้วยซ้ำไป??? และเมื่อลุยน้ำลึกมากบ่อยเข้า? น้ำก็เข้าไปในระบบห้ามล้อจนเกิดนิม? และน้ำมันเบรกเน่าเสียไปจนห้ามล้อไม่อยู่ได้นะครับ? อย่าทำเป็นล่นไป
 
-อันตรายไม่ได้น้อยก่าเขาอื่นหรอก? ถึงจะขับพ้นตรงที่น้ำท่วมได้ด้วยความเร็วจนน้ำกระจายเป็นปีกไปสาดรถอื่นเขาได้สนุกดีนั่นน่ะ??? เผลอ ๆ เป็นไข้สารตะกั่วเอาแถวนั้นเลยก็ยังเคยมี
 
-ของที่จมน้ำแล้วอาจจะต้องถึงกับเปลี่ยนเลยทีเดียวก็คือสตาร์ตเตอร์? เพราะน้ำเข้าไปนี่ฝรั่งบอกว่าซ่อมยากเสียเวลา? แต่บ้านเราคงเอาไปให้ช่างไฟฟ้าตามร้านทั่วไปล้างทำความสะอาด? ตรวจเช็กและปรับสภาพใช้ใหม่ได้? ไม่ต้องกับถึงกับต้องเปลี่ยนใหม่? แต่ต้องเอาออกมาทำแน่นอนถ้าจมน้ำครับ
 
-มาถึงตรงนี้? ที่หนักอีกอย่างคงจะเป็นพวกมอเตอร์ไฟฟ้าของกระจกไฟฟ้า? ที่นั่งปรับไฟฟ้า? และเสาอากาศไฟฟ้า? ตรงนี้อาจถึงกับต้องเปลี่ยนเพราะซ่อมยากไปก็ได้ครับ? หลายสตางค์อยู่เหมือนกัน? เพราะฉนั้นอย่าเที่ยวได้ขับรถลงไปแช่น้ำเล่น? ไม่สนุกเลยเมื่อขึ้นมาได้
 
-หมดพวกราคาแพงและเป้นปัญหาได้มาก? ก็ถึงส่วนที่มีปัญหาได้ในระดับรองลงมา? จะเปลี่ยนหรือซ่อมก็ต้องตรวจสภาพกันดูทุกส่วน? อย่าวางใจละเว้นละเป็นดี
 
-เริ่มที่แผ่นคลัตช์? จานคลัตช์? ลูกปืนคลัตช์? บางทีพอน้ำแห้งอาจจะทำท่าว่าใช้งานได้เหมือนเดิม? ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เท่าไรนัก? ใช้ไปไม่เท่าไรมักจะมีเสียง? และเริ่มแสดงอาการของปัญหาเกียร์เข้ายากขึ้นมาให้พบได้เสมอ
 
-แร็กพวงมาลัย? โดยเฉพาะพวกของพาวเวอร์ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งทที่ต้องตรวจเช็ก? แม้จะเป็นความเป็นไปได้ที่จะเสียหายเป็นรองของที่บอกมาแล้วในตอนต้น? ก็มีโอกาสเสียหายได้? รวมทั้งช็กอัพตัวยาวตัวสั้นที่ใช้มานานก่อนหน้ารถจมน้ำ? ชีลกันน้ำหลวมแล้ว? น้ำเข้าได้นะครับ? ควรเปลี่ยนถ้าพบความผิดปกติหรือไม่น่าไว้วางใจ
 
-รีเลย์? เซ็นเซอร์ต่าง ๆ สวิตช์ไฟ? และกล่องฟิวส์ก็ต้องได้รับการตรวจเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรเสียหาย?? ยังทำงานได้ดี? โดยเฉพาะกล่องฟิวส์ต้องลงดินได้ดีเช่นเดิมถ้าเกิดมีการจมน้ำอยู่ระยะหนึ่ง? เอาแค่วันเดียวหรือหลายชั่วโมงก็ไม่ดีแล้วนะครับ
 
-จานจ่ายนี่ก็ตัวดี? ถ้าเป็นแบบใช้ทองขาวยังไม่เท่าไร?? แต่เบรกทรานซิสเตอร์ขึ้นมานี่? บางทีถึงต้องเปลี่ยนกันเลยทีเดียว? เพราะต่อไปมักทำให้เครื่องยนต์สั่นโดยไม่ทันนึกว่ามาจากตัวนี้ได้
 
-แผงวงจรที่ผมว่าไว้ตอนแรกนั้น? พอจะล้างได้ด้วยน้ำซึ่งทำการ DEIONIZED?? จากนั้นก็เอาไปอบที่ความร้อน? 120? องศาฟาเรนไฮต์สัก? 30? นาที? แล้วพ่นด้วยสเปรย์แล็กเกอร์เคลียร์ก่อนจะนำมาใช้ใหม่? ซึ่งก็ยังไม่แน่นักว่าจะทนทานต่อไปได้สักเพียงไร? โชคดีก็รอดตัว
 
-คลัตช์ของแอร์คอมเพรสเซอร์ควรได้รับการตรวจเช็กว่าใช้การได้หรือไม่
 
-ดวงไฟฟ้าหน้ารถก็อย่ามองข้าม? น้ำอาจจะเข้าไปค้างอยู่? เอาออกเสียให้หมดก่อนที่จานจ่ายจะกลับบ้านเก่าเพราะน้ำทำเหตุ


ที่มา  http://www.nakhongarage.com
และ   http://v2.one2car.com/Car2Care
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้ว
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2011, 12:12:03 PM »
...เยี่ยมครับหมอ...จัดเต็มสำหรับเพื่อนๆชาว HDP. มีประโยชน์มากๆครับ...ว่าแต่แถวบ้านหมอแปะยันต์ยังคับ...อิ อิ อิ... ;D nana :-* flirty



ใกล้แล้วคับว่าจะเอาไปให้ท่านผู้ว่าทำสติกเกอร์แจกแระ5555  ;D
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้ว
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2011, 02:27:27 PM »
สวทช.เตือนกางเกงลุยน้ำกันไฟดูดไม่ได้  surrender  stupidme



สวทช.ออกประกาศเตือน กางเกงแก้วหรือกางเกงลุยน้ำป้องกันไฟดูดไม่ได้ เผยราคาขายส่งแค่ตัวละ100บาท

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ออกประกาศเรื่อง "กางเกงแก้ว" เพื่อทำความเข้าใจต่อสาธารณชน ระบุว่า ปัจจุบันมีการวางจำหน่าย "กางเกงแก้ว" หรือกางเกงลุยน้ำที่จำหน่ายทั่วไปในหลากหลายรูปแบบและราคาที่แตกต่างกันออกไปรวมถึงมีการระบุคุณสมบัติว่าสามารถป้องกันไฟดูดได้ จนทำให้มีการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก

สวทช.ขอชี้แจงว่า กางเกงดังกล่าวไม่สามารถป้องกันไฟดูดได้ เพราะแม้ว่ากางเกงแก้วจะเป็นฉนวนไฟฟ้า แต่ด้วยความบางและพื้นผิวสัมผัสกับร่างกายมาก ทำให้กระแสไฟฟ้าสลับผ่านได้ด้วยกลไกการเชื่อมต่อด้วยตัวเก็บประจุ (capacitive coupling) หากผู้สวมใส่นำไปสัมผัสตัวนำไฟฟ้าที่มีไฟรั่วก็อาจเกิดภัยต่อบุคคลนั้นได้ และกรณีที่มีรูรั่วของกางเกงแก้วหรือกางเกงลุยน้ำก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ จึงขอให้ระมัดระวังการใช้งานกางเกงแก้วหรือกางเกงที่ทำเลียนแบบ

ขณะเดียวกันยังชี้แจงว่า สวทช.ได้พัฒนาต้นแบบและวัสดุให้ผู้ผลิตสามารถผลิตได้ในราคาที่เหมาะสม ทำให้กางเกงดังกล่าวมีราคาขายส่งเพียงตัวละ 100 บาทเท่านั้น

ทั้งนี้ สวทช.โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) ได้พัฒนากางเกงแก้ว (Magic Pants)ในปี 2553 เพื่อช่วยป้องกันการติดโรค เช่น ฉี่หนู น้ำกัดเท้า หรือการติดเชื้ออื่นๆที่มากับน้ำ และอนุญาตให้ภาคเอกชนนำไปผลิตเป็นจำนวนมากโดยไม่คิดค่าทรัพย์สินทางปัญญา
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้ว
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2011, 02:28:40 PM »
ผมเห็นขายอยู่ที่อนุเสาวรีชัยฯ  ตัวละ700กว่าบาท  jawdrop  stupidme
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้ว
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2011, 02:42:18 PM »
แพทย์เตือน ทั้งชายและหญิง
ลุยน้ำนานเสี่ยงอวัยวะเพศติดเชื้อ




แพทย์เตือน ทั้งชายและหญิง ลุยน้ำนานเสี่ยงอวัยวะเพศติดเชื้อ

จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ประชาชนต้องเดินลุยน้ำ ซึ่งทางอธิบดีกรมควบคุมโรคได้แสดงความเป็นห่วงว่าอาจจะมีโรค  และการติดเชื้อที่มาจากน้ำ

นายแพทย์พรเทพ ศิรินารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ให้ประชาชนระมัดระวัง อาจมีการติดเชื้อบริเวณช่องทวาร ทางเดินปัสสาวะ และอวัยวะเพศ ทั้งหญิงและชาย ซึ่งผู้หญิงในช่วงที่มีประจำเดือนเป็นช่วงที่ปากมดลูกเปิด ง่ายต่อการที่เชื้อโรคต่างๆ จะเข้าทางช่องคลอด หากมีการลุยน้ำท่วมโดยไม่ใส่กางเกงพลาสติกกันน้ำ จะมีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อแบคทีเรียทางช่องคลอดได้

ขณะที่ผู้ชาย ซึ่งผิวหนังบริเวณอัณฑะจะบางมาก หรือแม้แต่อวัยวะสืบพันธ์โดยตรงก็ตาม เมื่อต้องแช่น้ำนานๆ จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งหากเกิดการอักเสบบริเวณอวัยวะเพศ ให้สังเกตอาการ เช่นมีอาการคัน แสบร้อน เป็นแผล ให้รีบไปพบแพทย์

อย่างไรก็ตาม  นายแพทย์พรเทพกล่าวว่า หากต้องลุยน้ำก็ควรรีบล้าง ทำความสะอาดด้วยสบู่ และเช็ดให้แห้ง ป้องกันการติดเชื้อโรค
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 11, 2011, 01:09:31 PM โดย หมอ หลุยส์_ซด.๒๗ »
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้ว
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2011, 02:47:18 PM »
ู^
^
หลายท่านอาจตื่นกลัวโดยเฉพาะสาวๆ   มันไม่ได้ติดเชื้อง่ายขนาดนั้นนะครับอย่าวิตกไปขอแค่ว่าถ้าลุยน้ำกลับบ้านไปก็อาบน้ำ(สบู่ธรรมดานี่แหละครับ)ล้างเนื้อล้างตัวและตรงนั้นให้สะอาดไม่ต้องหาน้ำยามาสวนล้างเดี่ยวจะกลายเป้นติดเชื้ออักเสบเพราะการสวนล้างช่องคลอดแทนครับ

สรุปลุยได้แต่กลับบ้านอาบน้ำให้สะอาดครับ  ;D
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


หมอ หลุยส์_ซด.๒๗

  • EXILE
  • กระทู้: 4,320
  • Club Dyna Member
  • ดูรายละเอียด
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้ว
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2011, 01:07:12 PM »
โรคเล็ปโตสไปโรซีส (โรคฉี่หนู)

ตอนนี้สาธารณะสุขออกมาเตือนแล้วนะครับเนื่องจากน้ำที่ขังเริ่มเน่าเสียมากขึ้นเรื่อยๆ+หนูออกหากิน
ซึ่งจากการวิจัยพบว่าหนู2ใน3ที่พวกเราพบนั้นมีเชื้อที่ทำให้เป็นโรคฉี่หนูครับ
แล้วในช่วงน้ำท่วมนี้พบว่าคนไทยมีอัตราการติดเชื้อที่สูงขึ้น50%เลยทีเดียว   :P

วันนี้เลยหาข้อมูลโรคฉี่หนูมาฝากครับ  ใครลุยน้ำหรือปล่อยให้ลูกเล็กเด็กแดงทั้งหลายเล่นน้ำ
โปรดระวังด้วยผมเห็นแล้วเป็นห่วงจริงๆครับ   ambulance








ใช้รองเท้าป้องกันโรคฉี่หนูง่ายนิดเดียวครับ
Live Hard,Ride Free-Club Dyna's Thailand


Aporn124

  • Sportster 883
  • *
  • กระทู้: 2
  • ดูรายละเอียด กระบี่ ออน ทัวร์ ทัวร์กระบี่ แพ็คเกจทัวร์ เที่ยวกระบี่
Re: นำมาฝากโรค,ข้อมูล,ข่าวสารที่เกิดจากภัยน้ำท่วมและวิธีป้องกันน้ำ...ฝากช่วยปักหมุดไว้ช่วงน้ำท่วมด้ว
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ธันวาคม 08, 2011, 12:30:50 AM »
ได้ความรู้เรื่องการป้องกันน้ำท่วมและเกี่ยวกับโรคภัยที่มากับน้ำมากมายเลยครับ ขออนุญาตเอาไปแชร์ที่อื่นนะครับ

 

Powered by SMF 2.0.10 | SMF © 2006–2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF || ©2005-2015 HD-Playground. All rights reserved. By Cycle Culture Ltd.Part. T: 02-320-0033