เที่ยวละไมไปกับหลุยส์+ต่าย:ตอน Destination anywhere tripไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก^^

[AnGleDoC]

เจ้าลูกชาย ทริปนี้ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ ไม่มีงอแงเลย รักมากๆคันนี้ ( จริงๆก็รักทุกคันล่ะ รักคันนี้คันเดียวเดี๋ยวคันอื่นจะพาลน้อยใจ อิอิ )






ส่วนคนนี้ก็ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบเสมอ 
หน้าตาอิดโรยเล็กน้อย เมื่อวานเพลีย...จากการขี่ RG ขึ้นปางอุ๋งนะคะ อย่าคิดลึก 555

[AnGleDoC]

เดินเล่นถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ ยังไม่อยาก move ไปไหน อากาศเย็นสดชื่น น่าจะซัก 10 กว่าๆองศา  flirty

[AnGleDoC]

โชคดีจริงๆ ที่ปางอุ๋งมีดอกนางพญาเสือโคร่งให้ดูด้วยค่ะ บานเต็มต้นหลายต้นเลยล่ะค่ะ

[AnGleDoC]

ไปเดินเล่นกันต่อค่ะ

[AnGleDoC]

ตามล่าหาหงส์ดำกันค่ะ อยู่ไหนหว่าๆ

[AnGleDoC]

ทีแรกได้อ่านหนังสือแนะนำสถานที่เที่ยวมาบ้าง ก็เลยกะว่าออกจากปางอุ๋งจะไปทานมื้อเที่ยงที่บ้านรักษ์ไทย

เซ็ตเจ้าจีพีเอสไปที่นั่น แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น จีพีเอสบอกทางมึนๆรึคนขี่คนซ้อนเมาโค้งกันก็ไม่รู้ ปรากฎว่าเลยทางเข้าบ้านรักษ์ไทย

กลายเป็นขี่ลงเขาไปเรื่อยๆ    ครั้นจะจอดแล้วกลับรถก็ดูแล้วเป็นงานหนัก หนักจริงๆ เพราะจะกลับรถยักษ์น้ำหนักสี่ร้อยกว่ากิโลกรัม

บนที่ทั้งแคบทั้งชันหาไหล่ทางไม่ได้ รถก็ยาวกว่าถนน พยายามจะหาทางกลับรถแต่ก็ไม่มีจุดที่จะ landing ดีๆเลยซักจุด

จนสุดท้ายกลายเป็นขับออกไปทางออก  จะขี่กลับขึ้นไปก็กระไร เลยบอกคนขับ

 เราไปแวะหาอะไรหม่ำที่ถ้ำปลา แวะดูปลากันหน่อยละกันเนาะ สรุปสุดท้ายเลยได้แวะที่ถ้ำปลาค่ะ surrender



 

[AnGleDoC]

แวะถ้ำปลาจนชื่นใจแล้วก็มาปรึกษากัน ว่าไปไหนต่อดี ทีแรกต่ายบอกว่าไปแม่ฮ่องสอนต่อแล้วหาที่เที่ยวไปเรื่อยๆละกัน

 แต่หมอหลุยส์คงสังเกตเห็นหน้าหงอยๆของต่าย ว่าแอบเสียดายที่ไม่ได้ไปชมหมู่บ้านรักษ์ไทย  หมอหลุยส์เลยบอกว่า จะยากอะไร เราก็ขี่ขึ้นไปใหม่สิ  jawdrop

 อยากพาไปเพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสมาแถวนี้กันอีกเมื่อไหร่  ไหนๆมาแล้วก็ไปดูให้รู้ว่าจะสวยเหมือนที่เห็นมาในรูปรึเปล่า...เค้าซึ้งอ่ะค่ะที่รัก   hug

สรุปเราขี่กลับขึ้นไปทางเดินค่ะ ระหว่างทางแวะผ่านๆเข้าไปดูพระตำหนักปางตองกันค่ะ บรรยากาศสวยงามแบบเหงาๆ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้ามา และดูเหมือนไม่ค่อยมีอะไรให้ดู รึเรามาผิดที่ก็ไม่แน่ใจค่ะ

เลยได้แต่ขี่รถเข้าไปแล้วออกมา ที่พระตำหนักปางตองเลยไม่ได้ใช้เวลามากนัก

[AnGleDoC]

ท้ายที่สุดต่ายเห็นว่าเราออกจากปางตองก็บ่ายสามแล้ว กว่าจะบุกป่าฝ่าเขาขึ้นไปบ้านรักษ์ไทยและลงมาใหม่หมอจะเหนื่อยมากเกินไป เพราะตั้งแต่เช้าแล้วที่เค้าไม่ค่อยสบายเพราะปวดท้อง

สงสัยกินมาม่าเยอะเกินไปอืดในท้อง ไม่อยากให้ขี่ RG หนักๆขึ้นเขาอีกรอบ เพราะทริปนี้เราวิ่งขึ้นลงเส้นปางอุ๋ง-ปางตองนี่ 4 รอบแระ  jawdrop  เลยตัดสินใจว่าไม่ต้องไปแล้วล่ะบ้านรักษ์ไทย...

...ไม่อยากให้ที่รักต้องเหนื่อยมากไปกว่านี้ เพราะสำหรับเราแล้วจุดหมายปลายทางไม่ได้สำคัญเท่าระหว่างทางที่เราไปด้วยกัน... แค่รู้ว่าที่รักตั้งใจมากแค่ไหนที่จะพาเราดั้นด้นไปให้ถึงจุดหมายแค่นี้ก็มีค่าที่สุดแล้วค่ะ  heart  hug heart

ว่าแล้วก็ไปพักสบายๆที่แม่ฮ่องสอนกันดีกว่า

[AnGleDoC]

เย็นวันที่ 3 ของทริปนี้จึงมาจบลงที่ แวะค้างอ.เมือง แม่ฮ่องสอน 1 คืนค่ะ เปิดหาที่พักมันสดๆระหว่างทางที่ซ้อนท้ายมานี่ล่ะ สุดท้ายเลยตกลงใจว่าจะไปพักที่ เฟิร์นริมธาร รีสอร์ท ( เดี๋ยวไว้จะรีวิวรีสอร์ทแห่งนี้ในคห.หลังๆนะคะ )

เอาของเข้าที่พัก อาบน้ำแวะพักให้หายเหนื่อย ประมาณ 5 โมงเย็นเราสองคนก็มีแพลนว่าจะ citytour กันค่ะ เริ่มจากไปไหว้วัดพระธาตุดอยกองมูก่อนเลยค่ะ

มาถึงก็แดดร่มลมตกแล้ว

[AnGleDoC]

เกร็ดเล็กๆน้อยๆ ที่มา http://www.moohin.com/108tripsboon/108trips034c005.shtml

วัดพระธาตุดอยกองมู   แม่ฮ่องสอน

                 วัดพระธาตุดอยกองมู     เป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งประจำเมืองแม่ฮ่องสอน วัดนี้เดิมมีชื่อเรียกว่า วัดปลายดอย  และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระธาตุดอยกองมู     ตามชื่อของดอยกองมู   อันเป็นภาษาไทยใหญ่ที่มีความหมายถึงพระเจดีย์   โดยวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุ   อันเป็นศูนย์รวมจิตใจ และที่เคารพสักการะอย่างสูงของชาวเมือง และผู้ที่เดินทางมายังดินแดนสามหมอกแห่งนี้

                ตามประวัตินั้นกล่าว่า  วัดพระธาตุดอยกองมู   ได้สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2403   โดยนายจองต่องสู่ และภรรยาชื่อนางเหล็ก    ซึ่งได้จัดสร้างกุฏิ และพระเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้น เพื่อบรรจุพระธาตุของพระมหาโมคคัลลานะเถระ  ที่พระอูปั่นเต็กต๊ะชาวเมืองตองกี่ได้นำมาจากเมืองมะละแหม่งประเทศพม่า   โดยพระอู่ปั่นเต๊กต๊ะยังดำรงเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดดอยกองมู   นี้เรื่อยมาจนกระทั่งนายจองต่องสู่ได้สิ้นชีวิตลง  พระอู่ปั่นเต๊กต๊ะจึงกลับคืนไปจำพรรษาที่เมืองตองกี่ดังเดิม

                 ต่อมาในปี  พ.ศ.2417  เพื่อพญาสิงปนาทราชาได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรกนั้น   จึงให้สร้างพระเจดีย์ขึ้นอีกองค์หนึ่งซึ่งมีชนาดย่อมกว่าองค์ที่มีอยู่เดิม  เพื่อเป็นอนุสรณ์ และได้ให้บรรจุพระธาตุของพระสารีบุตรเถระที่พระอูเอ่งต๊ะก๊ะ  นำมาจากเมืองมัณฑเลย์ประเทศพม่า   พร้อมทั้งนิมนต์พระอู่เอ่งต๊ะก๊ะเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยกองมู   รูปต่อไป

                 วัดพระธาตุดอยกองมู   ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยศิลปกรรมแบบไทยใหญ่และพม่า  วัดแห่งนี้ได้รับการทำนุบำรุงเรื่อยมา  และเป็นเสมือนศูนย์กลางแห่งศรัทธา ของชาวเมืองแม่ฮ่องสอนจวบจนถึงปัจจุบัน  ซึ่งผู้ที่มาไหว้พระธาตุดอยกองมูนี้ จะสามารถมองเห็นความงามของตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน

[AnGleDoC]

สถานที่ตั้ง

                 บนยอดดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน

[AnGleDoC]

ความเชื่อและวิธีการบูชา

                การไหว้พระธาตุดอยกองมู     สามารถใช้เครื่องสักการะที่ทางวัดจัดให้ด้วยความหมายอันเป็นมงคล  โดยทำบุญเข้าวัดตามศรัทธา  จากนั้นให้เดินเวียนขวารอบพระธาตุ 3  รอบ เสร็จแล้วนำพานดอกไม้ธูปเทียนบูชาไปวางไว้ ไหว้พระประจำวันเกิดซึ่งประดิษฐานอยู่รอบพระเจดีย์  โดยเชื่อกันว่าจะช่วยให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตที่รุ่งเรืองในภายหน้า

[AnGleDoC]

เราสองคนอยู่สักการะองค์พระธาตุกันจนเป็นคนสุดท้าย บรรยากาศช่วงกลางคืนสวยมากๆค่ะ

[AnGleDoC]

พาลูกชายมาไหว้พระธาตุใกล้ๆ

[AnGleDoC]

ต่อจากพระธาตุดอยกองมู เราไปเดินตลาดกลางคืนกันค่ะ