เที่ยวละไมไปกับหลุยส์+ต่าย:ตอน Destination anywhere tripไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก^^

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

สนามการรบที่รุนแรงที่สุดของสงครามเวียดนาม อยู่่ตามเมืองที่เป็นรอยตะเข็บชายแดนของเวียดนามเหนือ-ใต้
บริเวณเส้นขนานที่ 17 หรือแถวๆ่น้ำเบนไฮ่ (Ben Hai)ได้แก่เมืองกวางตรี (Quang Tri) กวางบินห์ (Quang Binh)
สองเมืองนี้ถูกถล่มด้วยระเบิดอย่างหนักจากเครื่องบิน B52 เพื่อกวาดล้างพวกเวียดกงที่อาศัยอยู่ตามป่าเขาและตามถ้ำ
รวมไปถึงถ้ำฟองญามรดกโลกด้วย ที่ร้ายไปกว่านั้นสหรัฐยังใช้เครื่องบินโปรยสารเคมีที่เรียกว่าฝนเหลือง(Agent Orange)  snowing
เพื่อต้องการจะทำลายป่าให้โล่งเตียน จะได้กวาดล้างเวียดกงได้สะดวก แต่มัจจุราชฝนเหลืองทำลายหมดทุกสิ่งทุกอย่าง
ทั้งระบบนิเวศน์ ชีวิตของผู้คน รวมไปถึงสารพิษที่ตกค้างในร่างกายมนุษย์ ทำให้มีลูกที่พิกลพิการ หน้าบูดหน้าเบี้ยว หรือตาถลนออกมานอกเบ้า
น่าแปลกและน่าขันที่บริษัทผลิตอาวุธยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับทหารอเมริกันที่ถูกสารพิษตามคำพิพากษาเมื่อไม่นานมานี้
แต่ศาลกลับไม่ตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ชาวเวียดนาม อ้างว่าหลักฐานไม่ชัดเจน  thumbsdown  surrender

(แหมบรรยายถึงความโหดร้ายบรรยากาศมันช่างขัดกับธรรมชาติของทะเลที่สวยงามที่เราขี่ผ่านกันไปจริงๆ    )

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

หมู่บ้านวินม๊อค (Vinh Moc village) ในเขตเมืองกวางตรี เป็นผลพวงเพื่อแสวงหาการอยู่รอดจากการทิ้งระเบิดอย่างหนัก
และถูกกวาดล้างจนแทบจะล้างเผ่าพันธุ์ จึงร่วมใจกันขุดอุโมงค์ใต้ดิน (Vin Moc tunnels) เป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านจำนวน 66 ครอบครัว
เมื่อปี ค.ศ. 1966 ใช้ระยะเวลาราว 20 เดือน

สถาพหมู่บ้าน ณ ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้มาเยี่ยมชมนับแสนๆคนต่อปี  ความเจริญย่างกลายเข้ามาแต่ว่าบรรยากาศความโศกเศร้ายังคงมีอยู่ 





รถทัวร์เข้าออกมากมายครับแสดงว่าใกล้ถึงมากแล้ว 






ในที่สุดก็ถึงแล้วครับแต่อ่านป้ายไม่ออกจริงๆน่าจะปรับปรุงเรื่องป้ายจะได้อำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวหน่อย 

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ไปจอดที่ไหนชาวบ้านแตกตื่นเค้ามารถทัวร์แอร์เย็นๆสบายๆไม่ชอบเนอะไอ้พวกนี้ อิอิ 




ก่อนจะเข้าดูอุโมงค์ก็เข้าชมรถพวกเราก่อนพร้อมถ่ายรูปผน่าจะเก็บค่าเข้าชมบ้างนะเนี่ย ฮี่ ฮี่  flirty






งานนี้พี่จ้อมาด้วยGSเลยต้องอาศัยเครื่องรางเข้าช่วยกันหน่อย  nana

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

พักเหนื่อยกินน้ำกันซักหน่อยหลังจากทรมาณตัวเองมานาน ทั้งร้อนทั้งปวดตรูด ยืนขี่แล้วยืนขี่อีกขีไดน่าทำอย่างกับขี่GSเลยตรู5555 



ขณะนี้บ่าย4โมงเย็นเรามีเวลาไม่ถึงชม.ในการเที่ยวชมเพราะเดี๋ยวต้องขี่เข้าเมืองเว้และทานอาหารเย็นกันต่อ  flirty






น้องชายคนเล็กห่างกับผม9ปียังวัยสะรุ่นอยู่ทริปนี้เลยเป็นห่วงเรื่องการขับขี่นิดหน่อย...แต่ว่ามาได้ถึงขนาดนี้ก็นับว่าเยี่ยมแล้ว  thumbsup





ปล.ตอนนี้กล้องสลับถ่ายกับไอโฟนนะครับรูปอาจจะเล็กบ้างใหญ่บ้างจะได้ไม่งง 

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ตอนนี้เนตด๋อยไปซะแล้วเดี๋ยวว่างๆค่อยมาต่อดีกว่าครับ 

[Mojo]

ฝากให้หมอต่ายชมครับ ยังมีอีกหลายแห่งที่สวยแล้วยังไม่ได้ไป

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

พี่โจ้เอาภาพมายั่วซะแล้ว....พี่ๆท่านอื่นใจง่ายนะคร๊าบเห็นอยากจัดทริปฮานอย ดานังอย่างเดียวอย่างอื่นไม่ไปน่ะ

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

จุดแรกที่เดินมาแป๊บเดียวก็ถึงคือหลุมหลบระเบิดไอ้กันที่ชาวเวียดนามขุดไว้อยู่ใกล้ริมทะเลครับ

อากาศเย็นสบายคลายเหนื่อยดีมากจนไม่คิดอยากจะไปไหนเลยครับ




บรรยากาศดีจนพี่ชาตรีนั่งคิดถึงเมียเลยครับ...เอ๊ยรึคิดถึงน้องคนเมื่อคืนกันแน่หว่า55555  nana




ส่วนลุงท่านนี้เป็นปรธานคนรักรูเห็นหลุมเห็นรูไม่ได้เป็นวิ่งเข้าใส่ทันที เอิ๊กๆๆ 




ต่างจากพี่เทพประธานชมรมคนรัก+เกรงจายยยเมียจริงๆ  worship




แดดเริ่มล่มลมเริ่มตกชักขี้เกียจเดินไปไหนแล้ววุ้ย 






พื้นที่โดยรอบเขียวขจีไปด้วยต้นไผ่แล้วหญ้ามอสครับ 

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

เดินเลยหลุมหลบระเบิดไปอีกหน่อยที่จริงมีบ่อเหมือนบ่อน้ำ
แต่ว่าผมลืมถ่ายรูปมานั่นคือหลุมระบายอากศจากอุโมงค์ใต้ดินซึ่งมีหลายจุด 

เดินถัดไปอีกนิดก็เป็นหัวระเบิดที่ปล่อยลงมาถล่มหมู่บ้านวินห์ม๊อกจากเครื่องบินB52ครับ eyeopoping

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ส่วนพี่วรุฬมิทราบว่ามีความหลังฝังใจกับระเบิดลูกใหญ่อย่างไรถึงได้ทำหน้าเคลิบเคลิ้มเช่นนั้นยามกอดระเบิด  nana




ส่วนพี่ปองถล่มตัวนิดหน่อยขอจองลูกเล็กกว่าของพี่วรุฬ
(แต่ถ้าของพี่ใหญ่ขนาดนั้นคงอดขี่มอไซค์แล้วต้องนั่งรถทัวร์มาเที่ยวแทนแล้วมั้งพี่ อิอิ)  jawdrop




พี่ีโชติถึงกับขาอ่อนสงสัยเมื่อคืนปลาลาวจะแรงดี อิอิ  nana



เอ้าไปต่อเข้าสู่พิภิธพันธ์ครับ  number1

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

"ดี"ไกด์ชาวเวียดนามที่ร่วมทริปกับพวกเรากำลังอธิบายว่าอุโมงค์แบ่งเป็นระดับชั้นๆ ลึก 12 15 และ 23 เมตรตามลำดับ
และสามารถเชื่อมต่อกันได้หมด  ในอุโมงค์มีคอกเลี้ยงสัตว์ มีบ่อน้ำ ห้องพยาบาล ห้องสุขา ห้องซักล้าง ห้องครัว ห้องประชุม
และเป็นที่เก็บสะสมอาวุธ การขุดอุโมงค์จะทำในเวลากลางวัน ส่วนกลางคืนจะช่วยกันลำเลียงดินออกไปทิ้งทะเลที่อยู่ติดกัน
ทำให้ไม่เห็นซากดินจึงรอดพ้นจากการตรวจตราของสหรัฐไปได้ ชาวบ้านทั้ง 60 ครอบครัวใช้อุโมงค์เป็นที่หลบภัยอยู่นานถึง 6 ปี
สุดยอดของการเอาตัวรอดและความอดทนของมนุษย์เลยทีเดียว  worship

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ที่เซอร์ไพรที่สุดคือมีเด็กเกิดในอุโมงค์ด้วย 17 คน แล้วหนึ่งในจำนวนนั้นยังมีชีวิตอยู่ครับ

แต่เค้าพูดไม่ได้ หูก็ฟังไม่ค่อยได้ยินเพราะว่าเสียงระเบิดที่โปรยลงมาและตัวก็เล็กมาก

สาเหตุเค้าว่าเกิดจากละอองของเจ้าฝนเหลืองตัวแสบนั่นแหละครับ  surrender

กำลังชี้ให้ดูรูปตัวเองตอนเด็กๆครับ 




เค้านี่ดาราดังของที่นี่เลยนะขอบอกนิชคุณยังชิดซ้าย  พี่เคนต้องชิดขวา5555 

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ปืนกลต่อสู้อากาศยานรุ่นเก๋ากึ๊กที่ยังเหลือให้ชนรุ่นหลังได้เห้นกันครับ  thumbsup

มีหรือจะพลาดขอหล่อกันคนละช๊อตสองช๊อต 











ส่วนเจ้านี่เด็กแนวต้องมาไม่เหมือนใครสุดเขตเสล็ดเป็ดจริงๆ  frustrated

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ถึงเวลาเข้าชมรูเอ๊ยอุโมงค์แล้วครับเห็นรูเอ๊ยทางเข้าเล็กๆแต่จะไซส์ใหญ่เอ๊ยตัวใหญ่ขนาดไหน

ก็ยัดเอ๊ยเดินผ่านเข้าไปได้นะครับ....เฮ้ออออ  frustrated

เอ้าเชิญเสด็จพี่เข้าพระรูก่อนพะยะค่ะ 



ตามด้วยขบวนเสด็จ  worship






ส่วนผมขอเก็บภาพที่ระลึกก่อน 

[หมอ หลุยส์_ซด.๒๗]

ข้างในเป็นอุโมงค์ดินเหนียวครับอัดผนังด้วยไม้ช่วงบริเวณปากอุโมงค์ทางมืด

และค่อนข้างชื้นตัวสูงซัก180กว่าๆยืนได้สบายครับ 






แต่ยิ่งเดินทางยิ่งเตี้ยและต้องระวังลื่นด้วยครับเพราะว่ามันชื้น  ambulance




นี่แสงจริงครับมืดมากมองแทบไม่เห็นหน้ากัน  eyeopoping




ขอภาพคู่ซักนิด  handshake