คติสอนใจ..จากไม้ขีดไฟ เพียงอันเดียว
ชีวิตคนเราอาจเปรียบได้กับไม้ขีดไฟก้านไม้ขีด..ก็เหมือนกันเวลาชีวิตของเรา
..หากมองจริงๆ ก็แสนจะสั้นเหลือเกิน เมื่อเรามีบางสิ่งบางอย่างทำ
บางคน..อาจมองว่าชีวิตของเรา ทำไมมันช่างแสนจะยาวนานนักเพราะนั่น..คือการที่เรายังไม่ได้จุดไม้ขีดไฟ
เมื่อเกิดการเสียดสีกับกล่องไม้ขีด ไฟก็จะลุกโชนในช่วงเวลาที่เราเริ่มจุดไม้ขีดนั้น
ไม้ขีดบางอัน ก็อาจจะลุกติดในทันที แต่บางอัน ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะติด
ไฟ..ก็เปรียบเสมือนงาน หรือจุดมุ่งหมายของเรา
บางคน...กว่าจะค้นหาเป้าหมายของตัวเองเจอ ก็ช่างนานแสนนาน
และเมื่อจะเริ่มทำเป้าหมายที่วางไว้ให้สำเร็จ..หัวไม้ขีดก็เก่าเสียแล้ว
จะจุดไม้ขีดก็ต้องยากเป็นธรรมดาเมื่อไฟลุกติด..เมื่อเราเริ่มทำความฝันให้เป็นความจริง
ไฟก็จะมอดก้านไม้ขีด..เวลาแห่งชีวิต เวลาแห่งอิสระก็เริ่มจะสั้นลงๆ
ขณะที่ไฟลามไปยังก้านไม้ขีดบางอันอาจจะช้า บางอันอาจจะเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งต่างๆตอนที่ไฟลุกอยู่...อาจจะมีลมแรงพัดผ่านเข้ามา อาจจะมีฝนตก ไฟก็อาจจะดับได้
เมื่อลุกมาถึงกลางก้านไม้ขีดแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่ไฟจะกลับมาลุกโชนอีกครั้งได้ง่ายๆ
ก็จำเป็นต้องพึ่งไม้ขีดอีกอัน พึ่งเพื่อนรักของเรา มาประคองไฟให้ลุกใหม่ได้อีกครั้ง
เมื่อจุดหมายของเราใกล้จะประสบความสำเร็จ ก้านไม้ขีดที่เหลือก็มีอยู่น้อยเต็มทีแล้วแต่เมื่อใดที่ไฟสุดท้ายของไม้ขีดดับมอดลง เมื่อวาระสุดท้ายของคนเรามาถึงก็จำเป็นที่จะต้องจากไปแต่ประโยชน์ที่เราสร้างไว้ จุดหมายที่ประสบความสำเร็จ ไฟที่สร้างความสว่างไสวเอาไว้
แม้จะเป็นแค่เพียงไฟดวงเล็กๆ แต่ก็ได้สร้างประโยชน์เอาไว้ให้แก่คนรอบข้างและบางทีก้านไม้ขีดไฟอันนี้…ก็อาจนำไปเพื่อจุดกองไฟกองโตเพื่อความสว่างไสวและอบอุ่นของคนมากมาย..ตลอดคืนในทางกลับกัน..บางคนอาจกล่าวว่าถ้าเราไม่จุดไฟ..เราก็มีก้านไม้ขีดที่เหลืออีกมากมายเหลือเฟือแต่ถ้าหากเราปล่อยก้านไม้ขีดเอาไว้อย่างนั้นนานวันเข้า..นานวันเข้าก้านไม้ขีดก็จะจุดติดยาก หรืออาจจะจุดไม่ติดพอถึงวันนั้น..คนที่จะใช้ไม้ขีดก็คงจะทำอะไรไปไม่ได้...นอกจากจะต้องทิ้งไม้ขีดไฟก้านนั้นทิ้งไป...
ขอขอบคุณ : ไม้ขีดไฟหลังบ้าน ที่ช่วยจุดประกายความคิดที่ก่อให้เกิดเป็นบทความนี้ขึ้นมา