ปัญหาคลัทช์ Sportster สายคลัทช์หย่อนไปปรับอย่างไรครับ

[SilverHalide]

ซื้อ XL883N มาพักนึงแล้วครับแต่ไม่ค่อยมีโอกาสขี่ เป็น Harley คันแรกของผม จึงขอท่านผู้รู้โปรดให้ความเมตตาด้วยครับ

เรื่องมีอยู่ว่า
บางครั้งที่ออกรถ มีอาการเหมือนจานคลัทช์ปล่อยไม่หมดแม้จะกำก้านคลัทช์จนสุดแล้ว ทำให้รถยังไหลไปเรื่อยๆ
เวลารถแล่นก็มีเสียงแกรกเหมือนคลัทช์ไม่ปล่อย แต่ไม่ได้ดังรุนแรงอะไรและสักพักก็หายไป ยังเปลี่ยนเกียร์ได้ และเสียงเวลาที่เปลี่ยนเกียร์ก็ฟังดูปกติ
จากประสบการณ์กับรถยี่ห้ออื่นผมเข้าใจว่าถ้าไม่ได้เกิดจากสกรูปรับความยาวของสายคลัทช์ที่หลวมและเคลื่อนจากเดิม ก็อาจเกิดจากตัวจานใน primary
ที่น่าแปลกคือ อาการนี้ไม่ได้เป็นตลอดเวลา คือเป็นๆ หายๆ ดูเหมือนจะสัมพันธ์กับสภาพอากาศหรืออุณหภูมิของรถ คือมักเป็นในวันที่ฝนตกหรืออากาศชื้นมากๆ หรือในวันที่อากาศค่อนข้างเย็น (ต่ำกว่า 30C) หากฝืนขี่ออกไปสักพัก ก็จะกลับมาเป็นเหมือนปกติ

นั่นเป็นอาการแรกครับ ทีนี้อาการที่สอง
เมื่อคืนนี้วิ่งได้ปกติ ไม่มีเสียง และคลัทช์ทำงานเป็นปกติ แต่พอกลับมาจอดบ้าน ลองกำคลัทช์ดู พบว่ามี freeplay มากกว่าเดิม คือหลวม ต้องบีบเข้ามาเกือบ 1ซม กว่าจะรู้สึกฝืด  (แต่กลับวิ่งได้ปกติและไม่มีอาการที่หนึ่ง)

ที่เล่ามานี้ฟังดูเหมือนๆ จะเกี่ยวข้องกัน แต่ผมไม่อยากเดาสุ่ม
จะทราบได้อย่างไรว่าสาเหตุมาจากสายหรือจานครับ

และหากเป็นที่สาย เจ้าสายคลัทช์ของ Harley นี่เขาปรับกันตรงไหน อย่างไรครับ หาที่หมุนตรงคอแฮนด์ไม่เจอ ไม่เหมือนกับบน Triumph เดาว่าเป็นที่อยู่ในไอ้เจ้าปลอกยางย่นๆ ที่หนีบไว้ตรงเฟรมรถด้านซ้าย แต่อยากทราบขั้นตอนการปรับอย่างถูกต้องครับ (การปรับที่ primary นั้นเคยเห็นมีท่านกูรูท่านหนึ่งได้ตอบไว้โดยละเอียดแล้ว จึงไม่ขอรบกวนอีก)

ขอบพระคุณมากครับ
SH

[ป๊อป-PUSHROD]

ที่ปรับตั้ง สายครัช อยู่ใน ปลอกยางย่น  ๆ  นั่นแระครับ วีธีปรับก็เหมือนรถทั่วไปครับ คือ ถ้าหย่อนมาก ก็ขันให้ตึงตามต้องการแค่นั้น ครับ

[holiday Z]

ขอให้หายเป็นปกติไวๆครับ เอาใจช่วย xmasrudolph

[SilverHalide]

ขอบพระคุณมากครับ

รูดเจ้ายางย่นๆ ออกมาดูแล้วครับ หน้าตาก็เหมือนๆ กับของรถยี่ห้ออื่นนั่นเอง  แต่ที่แปลกคือ วันนี้ไม่มีทั้ง freeplay ของคันคลัทช์และอาการคลัทช์ติดที่กล่าวมาเลย  จึงไม่มีเหตุให้ลองปรับ

ระยะของสายคลัทช์ก็ดูจะปกติ freeplay ก็อยู่ในวิสัยที่คู่มือแนะนำ
หรือจะเป็นเพราะวันนี้ผมอุ่นเครื่องจนเรียบร้อยก่อนจึงออกรถ? เพราะพอตอนจอดทานข้าว เครื่องเย็นแล้วขี่ออกไปก็เหมือนๆ จะมีอาการเล็กน้อย คลัทช์นุ่มฟรีไปครั้งหรือสองครั้ง พอสักพักก็หายไปเป็นปกติ

ปัญหาที่ replicate ไม่ได้นี่ค่อนข้างจะน่ากังวล เดี๋ยวก็เป็นเดี๋ยวก็หาย อะไรกันแน่เนี่ย?
อยากหาคู่มือซ่อมเล่มฉบับละเอียดมาติดบ้านไว้ แต่ เล่มละตั้ง 4500

[ป๊อป-PUSHROD]

ถ้าเป็น ๆ หาย ๆ อย่างนี้ สงสัยจะเป็นที่ตัวตั้งครัช ที่อยู่ใน Primary แล้วละครับ ลองตรวจดูว่า น็อตที่ล็อก คลายรึเปล่า

[SilverHalide]

สงสัยคงต้องเปิด derby ดูจริงๆ อย่างที่คุณบอกครับ แต่ต้องรอให้เอารถกลับบ้านก่อน มาเปิดแถวนี้เดี๋ยวน้ำมันหกเลอะลานจอดรถคนอื่นเขา อาจเป็นเหตุให้รถถูกประทุษร้ายในภายหลังได้

สงสัยอีกอย่างนึงครับ ทำไมอัตราการใช้น้ำมันมันไม่คงเส้นคงวาเลย ถ้ารถไม่ติด วิ่งทางไกลขี่เร็วๆ ก็ได้ราวๆ เกือบๆ 200km ต่อถัง
วิ่งๆ หยุดๆ อยู่ในเมือง ลงมาเหลือแค่ 80km ต่อถัง เป็นปกติหรือเปล่าครับ ทำไมมันต่างกันเยอะจัง กลัวขี่ๆ ไปแล้วหมดจัง ไม่มีมาตรวัดน้ำมันซะด้วยสิ แต่เห็นใน catalog มีขายเข้าใจว่าเป็นแบบ sensor เสียงไม่ทราบว่าควรจะติดไหมครับ

[oM motorcycles]

สงสัยคงต้องเปิด derby ดูจริงๆ อย่างที่คุณบอกครับ แต่ต้องรอให้เอารถกลับบ้านก่อน มาเปิดแถวนี้เดี๋ยวน้ำมันหกเลอะลานจอดรถคนอื่นเขา อาจเป็นเหตุให้รถถูกประทุษร้ายในภายหลังได้

สงสัยอีกอย่างนึงครับ ทำไมอัตราการใช้น้ำมันมันไม่คงเส้นคงวาเลย ถ้ารถไม่ติด วิ่งทางไกลขี่เร็วๆ ก็ได้ราวๆ เกือบๆ 200km ต่อถัง
วิ่งๆ หยุดๆ อยู่ในเมือง ลงมาเหลือแค่ 80km ต่อถัง เป็นปกติหรือเปล่าครับ ทำไมมันต่างกันเยอะจัง กลัวขี่ๆ ไปแล้วหมดจัง ไม่มีมาตรวัดน้ำมันซะด้วยสิ แต่เห็นใน catalog มีขายเข้าใจว่าเป็นแบบ sensor เสียงไม่ทราบว่าควรจะติดไหมครับ

เวลารถติด...ชอบเบิ้นแน่ๆๆ ใช่ไหมคับ ยิ่งรถติดยิ่งกินน้ำมันอยู่แล้วคับ มันขึ้นอยู่ว่ารถติดนานรึป่าว ถ้าเราไม่ค่อยได้ขี่ น้ำมันระเหย หนึ่งละ อุ่นติดเครื่องเป็นเวลานานๆ หนึ่งละ รถติดนานๆและเบิ้นเครื่องบ่อยๆ นั่นแหละคับ สาเหตุการกินน้ำมมันแบบไม่รู้ตัว 80 กิโลต่อถัง มันก็เป้นได้คับ ถามตัวเราเองคับว่า....มันจิงป่าว frustrated

[SilverHalide]

ไม่จริ๊ง ไม่จริง ไม่เคยเบิ้นๆ เลยครับ  เจ้าคันนี้มันเป็นเครื่องหัวฉีด ผมไม่อยากไปแกล้งมันอย่างนั้นแน่ๆ
อุ่นเครื่องก็เอาพอร้อนราวๆ 3-4 นาที ถ้าไม่อุ่นคลัทช์มันจะติดๆ หลุดๆ อย่างที่บอกครับ ก็เลยต้องอุ่นอยู่ดี

ลองถาม web board ของฝรั่ง เขาบอกว่ารถของผมยังใหม่อยู่ คือยังไม่พ้นระยะ run-in เขาว่าเฟืองต่างๆ ในตัวเครื่องมันยังคมอยู่ การทำงานของเครื่องจึงอาจติดขัดอยู่ ไม่คล่องเหมือนรถที่วิ่งมาแล้วสักระยะหนึ่ง  ความร้อนและการกินน้ำมันอาจสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูงกว่าที่โฆษณาไว้ในกระดาษ ฟังดูก็น่าจะจริง
แต่จะให้ทำไงได้ เพราะคู่มือบอกไว้ว่าในระยะ run-in ไม่ให้ค้างที่เกียร์สูง และไม่ให้เร่งรอบจัดมาก ก็เลยพยายามทำอยู่ ก็เลยกลายเป็นขี่ลากเกียร์ในบางระยะ อาจจะทำให้กินน้ำมันกว่าที่ควรด้วยก็ได้

ว่าไปแล้ววิ่งเพิ่มไปอีกราวๆ 200 โลจากที่ post คราวที่แล้ว ปัญหาคลัทช์ที่ว่าก็ดูจะน้อยลงไปครับ แต่เรื่องกินน้ำมันนั้นยังไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเท่าไหร่
เดี๋ยวรอดูอีกสักระยะนึงแล้วกันครับ