« เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 01:43:48 PM »
คอลัมน์สำนักข่าวหัวเขียวของแม่ลูกจันทร์ครับ
ปัญหาราคาน้ำมันแพงหูฉี่ทำให้ชาวบ้านเจ๊กอั้กหนักขึ้นทุกวัน
ถ้าราคาน้ำมันในเมืองไทยขึ้น-ลงตามตลาดน้ำมันโลกจริงๆ ก็ยังโอเค
แต่การที่คนไทยถูกมัดมือชกให้ใช้น้ำมันแพง เพราะรัฐบาลขึ้นภาษีน้ำมันซ้ำเติมประชาชน
ตรงนี้ตะหากที่เจ็บกระดองใจ
แถมรัฐบาลดันขึ้นภาษีน้ำมันขณะที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจรุนแรง
ไม่มีประเทศไหนในโลกจะบ้องตื้นเหมือนประเทศไทย
ล่าสุด "กรณ์ จาติกวณิช" รมว.คลัง ออกมาเปิดเผยว่า ถ้าราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งทะลุเกิน 70-80 เหรียญต่อบาร์เรล รัฐบาลอาจทบทวนปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
ถึงจะเป็นคำพูดปลอบใจ แต่อย่างน้อยก็ยังเป็นสัญญาณที่ดี
เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันตลาดโลกก็ขยับใกล้จะถึง 70 เหรียญต่อบาร์เรล เข้าไปทุกที
"แม่ลูกจันทร์" เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ยอมให้ราคาน้ำมันขายปลีกสูงเกินกว่าลิตรละ 50 บาท แน่นอน!!
เพราะถ้าขืนปล่อยให้ราคาน้ำมันทะลุลิตรละ 50 บาท เศรษฐกิจประเทศจะต้องทรุดหนักกว่าเดิม
และถ้าปล่อยให้ราคาน้ำมันแพงบ้าเลือดขนาดนั้น รัฐบาลก็จะต้องโดนถล่มงอมพระราม
แต่...แต่อย่าเพิ่งมั่นใจว่าจะไม่เห็นราคาน้ำมันลิตรละ 50 บาทนะโยม??
เพราะปลายปีนี้ มีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม...ปัญหาจากราคาน้ำมันแพงกลายเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายพุ่งเป้าโจมตีไปที่ ปตท.
ข้อหาคือ ปตท.กำหนดราคาขายปลีกน้ำมันสูงเพื่อสร้างผลกำไร
การอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ ทำให้ ราคาน้ำมันเมืองไทยแพงเกินควร
กลายเป็น ปตท.เป็นต้นเหตุที่ราคาน้ำมันแพง
ในขณะที่นักการเมือง ทั้งรัฐมนตรีคลัง รัฐมนตรีพลังงานหุบปากเงียบ ไม่ออกมาชี้แจงต้นเหตุที่แท้จริง
ทั้งๆที่ในความเป็นจริง รัฐบาลนั่นแหละคือตัวการที่ทำให้น้ำมันแพง
ตัวอย่างเช่น ราคาน้ำมันขายปลีกลิตรละ 30 บาท รัฐบาลหักค่าต๋งไปเนื้อๆเนตๆ 15 บาทโดยประมาณ
เพราะน้ำมันหนึ่งลิตร ต้องบวกภาษีสรรพสามิต 7 บาท บวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7 เปอร์เซ็นต์ บวกภาษีเทศบาล 70 สตางค์ หักเข้ากองทุนน้ำมัน 6 บาท หักเข้ากองทุนพัฒนาพลังงานอีก 1 บาท
แถมขายปลีกหน้าปั๊มยังเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มซ้ำอีก 7 เปอร์เซ็นต์!!
รวมเบ็ดเสร็จ น้ำมันทุกลิตรเป็นต้นทุนจริง 50 เปอร์เซ็นต์ เป็นรายได้รัฐบาลอีก 50 เปอร์เซ็นต์
ยิ่งราคาน้ำมันแพงเท่าไหร่ รายได้ของรัฐบาลก็เพิ่มขึ้นไปด้วยในสัดส่วนเท่ากัน
พูดชัดๆคือ น้ำมันลิตรละ 30 บาท เป็นราคาน้ำมันจริงๆลิตรละ 15 บาท อีก 15 บาท เป็นค่าต๋งไหลเข้ากระเป๋ารัฐบาล
หรือพูดให้ชัดยิ่งขึ้นอีกคือ ราคาน้ำมันดิบ บวกค่าขนส่ง บวกค่ากลั่น บวกค่าการตลาด รวมเบ็ดเสร็จลิตรละ 15 บาทเท่านั้นเอง
ก็เพราะยังงี้ไง ราคาน้ำมันขายปลีกเมืองไทยถึงต้องแพงกว่าสิงคโปร์
ทำให้คนไทยต้องใช้น้ำมันแพงเกินจริงไปถึงเท่าตัว
นี่คือความจริงนอกจอที่นักการเมืองไม่ยอมบอกประชาชน
แต่ที่แสบริดสีดวงยิ่งกว่าคือ พรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศไว้ในแผน 99 วัน ทำได้จริง ว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลจะเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันทันที
และจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงเห็นผลทันตา
นอกจากไม่ทำตามสัญญา ยังขึ้นภาษีน้ำมันซะจั๋งหนับบุเรงนอง.
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 02:12:50 PM »
ชัดเจน.....เพิ่งรู้ว่าโดนสูบเลือด..เเบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว....กำ thumbsdown surrender thumbsdown
04.gif (15.99 KB, 122x96 - ดู 581 ครั้ง.)
|
บันทึกการเข้า
เป็นพระมีหน้าที่เทศน์...เป็นเปรตมีหน้าที่ขอ...คนสิ้นหวัง มีหน้าที่รอ...ไอ้พวกสอพลอ..มีหน้าที่..เลีย..
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 02:14:34 PM »
prayขอบคุณคร๊าบสำหรับข้อมูลดีดี แต่เศร้าจัย.. lonely
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 02:17:45 PM »
surrender surrender surrender
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 03:34:09 PM »
ไอ้..สาดดดดดดดด heartbreaker stupidme
|
บันทึกการเข้า
แก่แต่สังขาร แต่สันดานยังวัยรุ่นอยู่
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 03:50:29 PM »
ก้อโดนมาทุกรัฐบาลละครับ พวกเราก็ทำ ใจ ครับ sprint 55555 ยังไงก็เติมครับ แต่ขอขี่น้อยลงหน่อยละกันครับ worship
|
บันทึกการเข้า
Bit of Power + Bit of Beauty ......Let's Roll
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 04:04:31 PM »
ก้อโดนมาทุกรัฐบาลละครับ พวกเราก็ทำ ใจ ครับ sprint 55555 ยังไงก็เติมครับ แต่ขอขี่น้อยลงหน่อยละกันครับ worship
วันอาทิตย์นี้ไปภูสอยดาวด้วยกันมั้ยครับ...เอารถยนต์ไปก็ได้จะได้เป็นรถสะเบียงให้ด้วย ....
|
บันทึกการเข้า
KNOCKING ON HEAVEN'S DOOR
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 08:48:49 PM »
ร้องโอ้กไปตามๆ กัน กับการปรับราคาน้ำมันขึ้นมาหลายระลอกจนล่าสุดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 31.34 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 30.54 บาท และ ดีเซล ลิตรละ 28.99 บาท ส่วนเบนซิน 95 ไม่ต้องพูดถึงทะลุ 40 บาท ไปเรียบร้อยโรงเรียนออกซ์ฟอร์ด
ทางหนึ่งพอเข้าใจได้ว่าราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับขึ้น
แต่ที่ยังเข้าใจไม่ได้ก็คือการเก็บภาษี และอื่นๆ ของภาครัฐ ไม่ต่ำกว่า 10 บาท/ลิตร
ยิ่งหากเป็นเบนซิน 95 โดนกระอักเลือดกว่า 20 บาท
เป็นน้ำมันชนิดเดียวที่ราคาเนื้อน้ำมันถูกกว่าภาษียิบย่อยที่รัฐเรียกเก็บ
คนใช้รถเก่าที่ไม่สามารถเติมแก๊สโซฮอล์ได้ก็ต้องก้มหน้ารับกรรมกันไป
ข้องใจสุดๆ ก็คือน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และดีเซล ซึ่งเป็นน้ำมันที่ใช้กันมากที่สุดและมีผลถึงราคาสินค้าต่างๆ
รัฐบาลก็ยังหน้ามืดเรียกเก็บเงินภาษีและกองทุนต่างๆ กว่า 10 บาท/ลิตร
ผู้ค้าที่ได้ในส่วนของค่าการตลาด ก็ว่ากันไป เพราะทำธุรกิจก็ต้องหากำไรเป็นเรื่องธรรมดา
แต่รัฐบาลทำไมต้องมาหากำไรจากประชาชน และพลอยทำให้สินค้าต่างๆ แพงหูฉี่เข้าไปอีก
มีข่าวว่ารัฐบาลพิจารณาจะลดเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมัน ในส่วนของน้ำมันบางชนิด ซึ่งมีประชุมในวันที่ 6 สิงหาคม
ป่านนี้คงจะทราบกันแล้วว่าผลออกมาอย่างไร
เรื่องราคาน้ำมันที่แพงชนิดหน้ามืดนี้ นอกจากชาวบ้านจะรับกรรมแล้ว ปตท.ก็พลอยโดนยำตกเป็นจำเลยสังคมไปด้วย
เพราะชาวบ้านเข้าใจว่าปตท.แอบขึ้นราคาและปรับราคาเพื่อหากำไรเข้ากระเป๋ามากที่สุด
หารู้ไม่รัฐบาลนั่นแหละตัวดี
เพราะนอกจากจะเก็บภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่มหลายซับหลายซ้อนแล้ว ยังมีเงินอีกส่วนที่ไหลเข้ากองทุนน้ำมัน
ส่วนที่เข้ากองทุนน้ำมันนี้ แทนที่จะนำไปใช้ประโยชน์หรือไว้ตรึงราคาช่วงน้ำมันแพงทะลักจุดเดือด
รัฐบาลก็ซิกแซ็กดึงเงินส่วนนี้เข้ากระเป๋าตัวเองอีกกระทอก ก่อนหน้านี้ใช้วิธีด้วยการเพิ่มภาษีสรรพสามิต
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ออกมาอ้างว่าจะให้กองทุนน้ำมันชดเชยภาษีส่วนนี้ให้
แต่มาบัดนี้พี่น้องโปรดทราบว่าเงินส่วนต่างนี้ ประชาชนรับภาระไปเรียบร้อย
เพราะกองทุนน้ำมันแอบเก็บเงินส่วนที่จ่ายไปก่อนคืนมาเต็มเหนี่ยว ในช่วงที่ราคาน้ำมันโลกต่ำลง
ราคาน้ำมันในเมืองไทยถึงไม่ค่อยลงตามตลาดโลก มีแต่เพิ่ม เพิ่ม และเพิ่ม
ตอนนี้เงินในกองทุนน้ำมันมี 15,000 ล้าน และยังไหลเข้าเดือนละ 3,300 ล้าน
ไม่รู้ว่ารัฐบาลจ้องตาเป็นมันจะทำอะไรกับเงินส่วนนี้
รัฐบาลไทยนี่หาเงินง่ายดี
คิดอะไรไม่ออก ไม่มีปัญญาหาเงิน ก็ขูดรีดจากชาวบ้านนี่แหละ
เวนกำของคนไทยจริง ๆ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 10:28:15 PM »
เฮ้ออออ...
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 10:45:39 PM »
อย่าโทษใครเลย มันเป็นอย่างนี้มาทุกรัฐบาลแล้วครับ 
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 11:41:38 PM »
|
บันทึกการเข้า
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งการมุ้งการเมา TURN ON TUNE IN DROP OUT
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 11:57:02 PM »
ผมเคยพูดกับเพื่อนเล่นๆว่าวันใดประเทศเพื่อนบ้านที่ล้าหลังเราอยู่ทุกวันนี้ เค้าแซงขึ้นมาหรือเทียบเท่า ผมจะลาออกจากการเป็นคนไทย ขอย้ายประเทศครับไม่ไหวอายเค้า..เฮ่อสงใสจะได้ทำจริงๆ (เกิดเป็นคนไทยระวังจะเป็นผู้ถูกกระทำ ให้เสียหายโดยถูกต้องตามกฏหมายและระเบียบราชการ อย่างโปร่งใส)
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: สิงหาคม 07, 2009, 11:59:38 PM »
การเมืองเรื่องสำคัญ ถ้ารู้จักยอมกัน ก็ไม่ใช่คนไทยสิ จั่งซี่มันต้องถอน จังซี่มันต้องถอน 
|
บันทึกการเข้า
...Become A Biker from inside.
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: สิงหาคม 08, 2009, 11:43:16 AM »
มีขึ้นต้องมีลง........ขอภาวนาให้ลงมาบ้างละกัน pray pray
|
บันทึกการเข้า
ไม่..จำ..เป็น..ว่า..จะ..ต้อง..กี่..ไมล์ ..แค่..สัม..ผัส..อยู่..บน..นั้น....มัน..ก็..พอ
|