
คือมีเรื่องขำๆ จะเล่ามีลูกค้ามาที่ร้านแล้วเห็นสติกเกอร์แล้วถามผมว่ามีกลุ่มมีแก็งด้วยเหรอ แล้วมีกี่คันกี่คนถ้าจะมากพอควรเลยนะ เพราะว่าอยู่ในเมกะrider แต่ผมได้แต่ยิ้มๆ
บอกว่าทั้งแก็งมีอยู่ 4 คน คือลูกผม2คน แฟนอีก1 คน ผมอีกนับไปนับมาก็ได้เป็นร้อย ถ้านับหลายๆ รอบนะ สติกเกอร์เขียนว่า
"pingdao khaoyai musi rider" ครับ
ทริปที่ออกบ่อยที่สุดคือตลาดนัดแถวบ้าน ขี่ไปซื้อไก่ ซื้อหมู ซื้อผัก ซื้อบุหรี่ เบียร์ ไว้ขายไว้กินกัน เพราะว่ามีกระเป๋าข้างใส่ของสดได้มาก จ่ายตลาดได้ครบดี
ใครๆ เค้าก็เรียกผมว่า จิ๊กโก๋โลเดียว (มาจากขี่ไปกลับแค่ กิโลเดียวอาทิตย์ละ 2-3ครั้ง)
ปล. ตอนนี้ ผมไม่สามารถขี่กับใครในกลุ่มเพื่อนๆ ได้ จึงตั้งกลุ่มกันเองในครอบครัว เหตุเพราะว่า ผมใช่ความเร็วสูงสุดมาก จนใครขี่กับผมไม่ได้ คือไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ
ผมติดใจในการขี่ไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ไม่ร้อน เพราะว่าถ้ารีบร้อน ก็ต้องเริ่มขี่ตั้งแต่เมื่อวานจะได้ไปรอเพื่อนๆทัน ตามนัด
ผมใช่ความเร็วแค่นี้ก็พอแล้ว ล้มมาก็ไม่เจ็บมาก ลูกยังเล็ก หนี้สินก็มีมากพอควร ถ้าเป็นไรมาใครจะทำใช้หนี้ที่ค้างอยู่ ใครจะคอยดูแลครอบครัวผม
และที่สำคัญ ความรู้สึกที่ได้ขี่แบบนี้มันทำให้ผมได้เห็นสิ่งรอบตัวมากขึ้น ได้มองอะไรๆ ที่เคยขี่ผ่านไปมาทุกวัน
แต่เราเห็นชัดขึ้น รายละเอียดมากขึ้น ลมเย็นๆ ที่ถนนธนะรัตช์เขาใหญ่ ถนนดีๆ มันเพลินมากๆ ไม่ต้องทำเวลา ไม่ต้องรีบร้อน และที่สำคัญ มันลด อุบัติเหตุ และ อันตรายได้มากๆ
ผมขี่แบบนี้มาจะ 1 ปีแล้วครับ แล้วมันจะติดตัวเราไปตลอด
ผมเห็นหลายคนนำชีวิตมาทิ้งที่ถนนธนะรัตช์เขาใหญ่ หลายท่านแล้วครับ ขับขี่ด้วยความระมัดระวังกันนะครับ (เมื่อ 3-4 ส.ค 56 ที่แน่ๆ ก็ 2รายเจ็บก็ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน)
"เราต้องการขี่เพื่อทำเวลาที่ดี หรือ เราต้องการขี่เพื่อได้รับความรู้สึกที่ดี" แล้วเจอกันใหม่ ขอบคุณครับ
