« เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2011, 04:59:17 PM »
ผมขอ อณุญาติ ด้วยนะครับ ด้วยความสงสัยครับ ว่าระหว่าง ระบบคาบูเรเตอร์ กับ หัวฉีด อย่างไหนมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่ากันและมากว่าเท่าไหร่ การดูแลรักษาเป็นอย่างไร ใช้น้ำมันประเภทใดครับในการจุดระเบิดถึงจะเหมาะสม ขอบคุณครับ
สำหรับ sportster นำมาใช้เมือ่ไหร่กับรุ่นอะไร ครับ
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2011, 05:15:03 PM »
เเน่นอนครับหัวฉีดประหยัดกว่าคาบูฯพอสมควร เเตสื่งที่เครืองระบบหัวฉีดให้ไม่ได้คือสุ่มเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของHDเดินเบาได้ใจเซอร์วิสง่าย ส่วนหัวฉีดจะใช้ระบบคอมฯเข้ามาควบคุมในการสั่งจ่ายน้ำมันเด่นเรื่องประหยัดเเต่เซอร์วิสยุ่งยากกว่าที่สำคัญเสียงเครื่องจะรัว Sportsterรุ่นปี2006ลงไปจะเป็นเครื่องคาบูฯส่วนรุ่นปี2007ถึงปีล่าสุดเป็นระบบหัวฉีดครับ  ปอลิง เครื่องคาบูฯควรหลีกเลี่ยงเเก็สซอฮอลล์ด้วยพื้นของเครื่องยนต์ไม่ว่าโอริงหรือท่อยางต่างๆไม่ได้ทำมารองรับ เเนะนำให้ใช้กับน้ำมัน91ธรรมดาจะเหมาะสมกว่า number1
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 18, 2011, 05:21:53 PM โดย mana »
บันทึกการเข้า
บางสิ่งบางอย่างไม่ต้องใช้คำพูดเพื่อบอก แต่ดูออกจากการกระทำ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2011, 05:16:01 PM »
ตอบเป็นข้อ ๆ หัวฉีด ประหยัดน้ำมันกว่าคาร์บูฯ เติมโซฮอลล์ ยังไหว แต่ถ้าเป็นคาร์บู แนะนำควรหลีกเลี่ยง เรื่องดูแลรักษา หัวฉีดแทบไม่ต้องไปยุ่งกะมันเลย ส่วนคาร์บู ต้องเอาออกมาล้างบ้างตามระยะเวลา และดูแลรักษาตามสมควร คาร์บู เสียงดีกว่าบาน  สำหรับ Sportster หัวฉีดเริ่มต้นที่ปี 07 จนถึงปัจจุบันในทุกโมเดล เรื่องการโม ให้แรง หัวฉีด จูนง่ายกว่า มีให้เลือกหลากหลายตามกำลังทรัพย์ คาร์บูฯ ต้องเจอกะมือจูนดี ๆ ก็ไปบี้กะหัวฉีดได้สบายบรื๋อออ number1 
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 19, 2011, 12:03:46 PM โดย Valentino Gigsi »
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2011, 05:25:31 PM »
แสดงว่ารถที่เป็นระบบหัวฉีดนั้นเรื่องเสียง คลาสสิค ของเจ้า HD นั้น มันจะไม่ดุดันเหมือน ระบบคาบูเรเตอร์ ใช่ไหมครับ......รวมไปถึงรุ่นใหญ่กว่าด้วยไหมครับ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2011, 05:40:51 PM »
แสดงว่ารถที่เป็นระบบหัวฉีดนั้นเรื่องเสียง คลาสสิค ของเจ้า HD นั้น มันจะไม่ดุดันเหมือน ระบบคาบูเรเตอร์ ใช่ไหมครับ......รวมไปถึงรุ่นใหญ่กว่าด้วยไหมครับ
คาบูฯเด่นที่รอบเดินเบาซึ่งหัวฉีดให้ไม่ได้ ส่วนถ้าเรื่องความดุดันผมว่าหัวฉีดโหดกว่ายิ่งเครื่องความจุมากๆเช่นตัวCVOพอได้ชุดคอเฮดเดอร์พร้อมปลายเซตกล่องเจ๋งๆเสียงโหดมาก jawdrop
|
บันทึกการเข้า
บางสิ่งบางอย่างไม่ต้องใช้คำพูดเพื่อบอก แต่ดูออกจากการกระทำ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2011, 05:52:28 PM »
wow !!!! ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาตอบให้คลายข้อข้องใจ ครับ
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2011, 12:25:22 PM »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ ความรู้ทั้งนั้น headbang
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 06:33:35 AM »
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 08:22:56 AM »
ได้ความรู้อีกแล้วครับท่าน
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 11:20:22 AM »
เเน่นอนครับหัวฉีดประหยัดกว่าคาบูฯพอสมควร เเตสื่งที่เครืองระบบหัวฉีดให้ไม่ได้คือสุ่มเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของHDเดินเบาได้ใจเซอร์วิสง่าย ส่วนหัวฉีดจะใช้ระบบคอมฯเข้ามาควบคุมในการสั่งจ่ายน้ำมันเด่นเรื่องประหยัดเเต่เซอร์วิสยุ่งยากกว่าที่สำคัญเสียงเครื่องจะรัว Sportsterรุ่นปี2006ลงไปจะเป็นเครื่องคาบูฯส่วนรุ่นปี2007ถึงปีล่าสุดเป็นระบบหัวฉีดครับ  ปอลิง เครื่องคาบูฯควรหลีกเลี่ยงเเก็สซอฮอลล์ด้วยพื้นของเครื่องยนต์ไม่ว่าโอริงหรือท่อยางต่างๆไม่ได้ทำมารองรับ เเนะนำให้ใช้กับน้ำมัน91ธรรมดาจะเหมาะสมกว่า number1
ได้ความรู้เพิ่มสุดยอดครับ number1
|
บันทึกการเข้า
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 11:33:58 AM »
หัวฉีดเริ่มทำในพวกทัวริ่งประมาณปี 95 เช่นโรค์คิงส์ อีเล็กตร้าไกด์ แต่คาร์บูก็ยังทำอยู่เหมือนกัน แล้วแต่สาวกฮ่าเล่ย์จะเลือกใช้แบบไหนในช่วงนั้น  number1
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 19, 2011, 11:56:17 AM โดย cops »
บันทึกการเข้า
แก่แต่สังขาร แต่สันดานยังวัยรุ่นอยู่
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ตุลาคม 09, 2011, 03:28:11 PM »
xl1200c 2004 คาบูฯ มีอัตตราการกินน้ำมันอยู่ที่ กี่ กม.ต่อ ลิตร
|
บันทึกการเข้า
|