
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก tvburabha.com , youtube.com
หากอายุก้าวล่วงสู่วัยเกินเกษียณ ตอนนั้นชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร...พักผ่อนอยู่บ้านที่แวดล้อมไปด้วยลูกหลาน
รดน้ำต้นไม้ จิบชา และอื่น ๆ ตามแต่ใจเลือก หรืออาจเลือกไม่ได้
แต่สำหรับชายชราวัย 61 ปี และภรรยาคู่ใจวัย 60 ปี คนคู่นี้เลือกที่จะมีบั้นปลายของชีวิตแตกต่างออกไป
นอกจากจะยังไม่วางมือจากการประกอบสัมมาอาชีพเพื่อเลี้ยงชีวิต อาชีพที่ทำยังน่าสนใจและน่าสงสัย!?!?
การแสดงโชว์มอเตอร์ไซด์ผาดโผน คืออาชีพของลุงชำนาญ แดงแตง หรือ ลุงมดแดง อดีตสตั๊นท์แมนผู้เคยรุ่งเรืองในวงการหนังไทย
ที่วันนี้ผันตัวมาเปิดการแสดงโชว์มอเตอร์ไซด์ผาดโผน สร้างความบันเทิงให้ผู้ชมมากว่า 40 ปีแล้ว โดยมีภรรยาเป็นโฆษกประจำคณะและผู้ร่วมแสดง
ทั้งนี้ โชว์ของลุงมดแดง ไม่มีการขายบัตร ไม่ต้องซื้อตั๋ว เพราะเป็นการแสดงเพื่อ “ธารน้ำใจ” ทุกครั้งที่ออกตระเวนไปแสดงตามงานต่าง ๆ บ้าง
เปิดการแสดงเองบ้าง ผู้ชมจะได้รับความบันเทิงจากการแสดงราว 1 ชั่วโมง โดยลุงมดแดงจะควบสองล้อผาดโผนในลีลาต่าง ๆ อาทิ มอเตอร์ไซด์เหินเวหา
ลอดห่วงไฟ ยกล้อข้ามคน กระโดดข้ามบ่วงเหล็ก ซึ่งสามารถเรียกเสียงปรบมือได้เกรียวกราวจากผู้ชม แต่ที่สร้างความฮือฮาเพราะความหวาดเสียว
หนีไม่พ้นโชว์ที่ภรรยาของลุงมดแดงร่วมแสดงโดยนอนให้มอเตอร์ไซด์เหยียบผ่านร่างไป!!!
"ถามว่าเจ็บไหม มันก็เจ็บนะ แต่มันก็เป็นความสุข ได้เห็นคนดูยิ้ม คนดูชอบ ความสุขนั้นก็ส่งตรงมาถึงเรา มันก็มีบ้างเหมือนกันที่พลาด แต่ก็ยังทำ
เคยมีคนบอกให้เลิกนะ แต่ใจเราไม่อยากเลิก ใจมันรักไง แล้วก็เป็นงานที่เราถนัด เหนือกว่านั้นมันมีความภูมิใจ ที่สามารถสร้างรอยยิ้มให้คนดูได้"
หลังแสดงจบ ภรรยาของลุงมดแดง จะถือหมวกกันน็อค เดินรับสินน้ำใจเพื่อขอเป็นค่ามันรถ ค่าอาหาร แล้วแต่จะให้ ซึ่งบ่อยครั้ง ธารน้ำใจ
จากการแสดงของลุงมดแดง ไม่ใช่เพียงเงิน แต่รวมไปถึงสิ่งของ เช่น ข้าวสาร ผลไม้ อาหารแห้ง ที่คนดูนำมามอบให้ และ ลุงมดแดงก็จะนำไปแจกจ่าย
ให้ผู้ยากไร้ในชุมชนบ้านเกิดจังหวัดนครสวรรค์ จนชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทั้งคู่เป็นคนใจดี ทำบุญให้กับคนยากไร้มาตลอด
"ทุกครั้งที่แสดงเสร็จกลับมาถึงบ้าน เราก็จะแบ่งข้าวสาร หรือของที่ได้มาจำนวนมาก ๆ แจกให้คนยากไร้ โดยลุงจะขับรถประกาศให้ทุกคนก็จะมารับพร้อม ๆ กัน
คือพอเราได้ทำ ก็รู้สึกหายเหนื่อย เราคิดว่าได้ช่วยเหลือแผ่นดินที่เราเกิด ก็ดีใจมากแล้ว"
แม้ว่าร่างกายภายนอกจะแสดงว่าทั้งลุงและป้ายังสามารถทำอาชีพนี้ได้ แต่สภาพภายในร่างกายของทั้งสองก็ต้องพึ่งยาจากหมออยู่ตลอดจากอาการปวดเมื่อย
ซึ่งลุงมดแดงเองก็มีโรคหัวใจ และความดันเป็นโรคประจำตัว ที่สำคัญหมอเคยเตือนแล้วว่าโรคที่ลุงเป็นกับอาชีพที่ลุงทำเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เพราะลุงอาจหมดสติระหว่างการแสดง
ก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างนั้น คนทั้งคู่ยังคงยืนยันจะตั้งใจทำในสิ่งที่รักไปจนกว่าตัวจะตาย
"ยอมรับว่าฝืนร่างกายตัวเองนะ บางทีเสร็จการแสดงก็เจ็บตัวไปเป็นอาทิตย์ นอนไม่หลับทั้งคืนก็มี แต่ลุงจะทำไปจนกว่าจะตายคารถ จนกว่าจะทำไม่ได้
เพราะมันหาดูได้ยากแล้วในประเทศไทย ลุงไม่เคยกลัวว่าจะเสียชีวิตจากการแสดง เพราะไม่งั้นเราจะไม่กล้าแสดง เหมือนกันกับความดีที่ต้องมีไว้ติดตัวตลอด"
...ในยุคที่สังคมมีแต่ความยุ่งเหยิงวุ่นวาย ผู้คนมากมายเต็มไปด้วยความโลภ ขณะที่บางคนไม่เป็นอย่างนั้น เช่นเดียวกับ ลุงมดแดงและภรรยา ที่แสดงให้เห็นว่า
น้ำใจจากคนไทยยังมีเหลืออีกมาก และพร้อมจะแบ่งปันให้เพื่อนมนุษย์ตราบเท่าที่ลมหายใจยังมี
