5
« เมื่อ: ธันวาคม 21, 2012, 01:58:57 PM »
ประกาศใช้แล้ว. 19 ธค 55. ต้องรับแบบกล้ำกลืน. อนาคตเงินยิ่งเฟ้อขึ้นมาก. ของต่างๆราคาแพงตามแน่นอน
กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. - รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ที่ผ่านความเห็นชอบของ ครม.วันนี้ว่า เป็นการจัดเก็บตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามที่กระทรวงการคลังเสนอเพื่อแก้ไขปัญหาการบิดเบือนโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และสร้างความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีรถยนต์และเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ของโลก ดังนั้นจึงเป็นการเปลี่ยนภาษีสรรพสามิตรถยนต์ทั้งระบบ โดยจัดเก็บภาษีตามอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งเป็นการคิดภาษีตามประเภทรถยนต์ 7 ประเภท ดังนี้ รถยนต์นั่ง และรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 30 ปล่อยก๊าซฯ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 35 และปล่อยก๊าซฯเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 40
รถยนต์นั่งประเภทอี 85 และรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 25 ปล่อยก๊าซฯ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 30 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 35
รถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงและไฟฟ้าที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 10 ปล่อยก๊าซฯ เกิน 100-150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 20 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 25 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 30
รถยนต์กระบะที่ไม่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 3 และปล่อยก๊าซฯ เกิน200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 5 รถยนต์กระบะที่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 5 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 7
รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (ดับเบิลแคป) มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 12 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 15 และรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซีซี ปล่อยก๊าซฯ ไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 25 และปล่อยก๊าซฯ เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บร้อยละ 30
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ครม.มีความเห็นชอบในการประชุมฯ ครั้งนี้ เห็นควรว่าให้มีช่วงระยะเวลาในการปรับตัวของผู้ประกอบการรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2559 เนื่องจากกระทรวงการคลังวิเคราะห์ผลกระทบว่าการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการบางราย ทั้งนี้มีการคำนวณรายได้ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ในปี 2559 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2554 เป็นเงิน 25,693 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังเสนอให้มีการเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตนำเข้ารถจักรยานยนต์ขนาดกระบอกสูบ 800-1,000 ซีซี ที่ปัจจุบันมีการจัดเก็บอยู่ที่ร้อยละ 103 โดยจะมีการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 123 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.เป็นต้นไป คาดว่าจะช่วยให้มีรายได้จากการเก็บภาษีส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็นวงเงินประมาณ 150 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังให้เหตุผลว่าผู้ที่สามารถซื้อรถจักรยายนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดดังกล่าวได้เป็นผู้มีฐานะเพียงพอที่จะชำระภาษีเพิ่มเติม. - สำนักข่าวไทย