4
« เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2012, 12:09:36 PM »
ไม่มีภาพให้ชมครับเพราะตอนทำ ทำคนเดียว
จากหัวข้อเรื่อง ถ้าแบตลูกที่เราใช้ประจำรถ อยู่ๆเกิดอาการไม่เก็บไฟ
หรือชาร์จไม่เข้า เพื่อความแน่นอน เช็คดูก่อนครับว่าใช่แบตเสื่อมจริงมั้ย
ก่อนอื่นเราจะพบว่ารถคันเก่งของเราสตาร์ทไม่ได้(เสียงมอเตอร์สตาร์ทไม่มีแรงหมุน)
ขั้นแรกเราก็จัดการใช้สายพ่วงแบตมา พร้อมกับแบตที่แน่ใจว่ามีไฟมาต่อพ่วง
เข้ากับรถคันเก่งของเรา โดยเริ่มจากสายสีแดงต่อเข้ากับขั้ว + (แบตลูกมีไฟ)
ปลายสายสีแดงจากแบตลูกที่มีไฟ มาต่อเข้ากับขั้ว + ของแบตที่ไม่มีไฟ
สายสีดำต่อเข้ากับขั้ว - (แบตลูกที่มีไฟ) ปลายสายสีดำ ต่อเข้ากับ
ขั้ว - แบตลูกที่ไม่มีไฟ เสร็จแล้วทดลองสตาร์ทรถดู ถ้ารถคันเก่งของเรากลับมาเก่งเหมือนเดิม
(เครื่องยนต์สตาร์ทติด)เมื่อเครื่องยนต์สตาร์ทติดแล้ว ก็ถึงขั้นตอนถอดสายแบต
ที่พ่วงต่อ ออกจากแบต โดยเริ่มจากการปลดสายสีดำขั้ว - ออกจากแบตลูกที่ไม่มีไฟก่อน
คือให้ทำย้อน จากที่เราเริ่มต่อนะครับ (ทดลองลำดับขั้นตอนดูนะครับ)
เมื่อถอดสายพ่วงออกแล้ว ทดลอง(ถ้ามีมัลติมิเตอร์)วัดไฟ
ที่ขั้ว + - ของแบตซะหน่อยว่า มีโวลท์ DC สูงกว่า 12 โวลท์มั้ย
(เร่งเครื่องเพิ่มขึ้นจากรอบเดินเบา)ถ้ามีโวลท์ขึ้นสูงกว่า 12 โวลท์
ก็เป็นที่รู้ได้แล้วว่า ระบบไฟชาร์จของรถเราเป็นปกติ จากนั้นเราก็ดับ
เครื่องยนต์ แล้วทดลองสตาร์ทดูใหม่อีกครั้ง บางทีเครื่องยนต์อาจจะติด
แต่ถ้าดับเครื่องยนต์ไว้นานๆ ก็จะสตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิม นั่นเป็น
ข้อมูลที่เราจะตัดสินใจได้แล้วว่าแบตลูกนี้เสื่อมสภาพซะแล้ว
คือไม่สามารถเก็บกระแสไฟไว้ได้เหมือนเดิม
ถึงขั้นตอนการฟื้นคืนชีพให้กับแบตซะที
ให้ทำการถอดขั้วแบตออก โดยเริ่มจากขั้ว - (ลบ)
เมื่อถอดขั้วแบตออกหมดแล้ว ยกแบตออกจากรถ
ขั้นตอนต่อจากนี้ไปขอให้ระมัดระวังเรื่องของความปลอดภัยให้มากที่สุดนะครับ
คือสวมแว่นตาและสวมถุงมือยาง ใส่ผ้าปิดปาก ปิดจมูก จากนั้นให้
ถอดฝาจุกช่องเติมน้ำกลั่นออกทุกช่อง แล้วหาภาชนะที่เป็นพลาสติก
มารองรับน้ำกรดที่อยู่ในแบต เราทำการเทน้ำกรดออกให้หมด
(*น้ำกรดนี้อย่าเพิ่งทิ้งเราจะมาใช้เป็นประโยชน์)
จากนั้นต้มน้ำจนเดือด(น้ำประปาธรรมดา) แล้วนำมากรอกใส่ในช่องเติมน้ำกลั่น
เติมให้ท่วมแผ่นธาตุ เติมจนครบทุกช่อง แล้วเขย่าแบตเพื่อให้น้ำร้อนไปขจัด
คราบสกปรกที่เคลือบแผ่นธาตุอยู่ เขย่าจนคิดว่าคราบหลุด เราก็เทน้ำออกจาก
แบต เราจะเห็นว่าน้ำที่เทออกมาจากแบต สกปรก ให้ล้างด้วยน้ำร้อนแบบนี้
อีกสัก1รอบ ทำเหมือนขั้นตอนแรก แล้วเทน้ำร้อนออกจากแบต
ต่อจากนี้เราหาน้ำยาล้างพื้นห้องน้ำมา(เตรียมไว้ก่อน)เมื่อเราเทน้ำร้อน
ที่เราเขย่าออกหมดแล้ว ให้เติมน้ำธรรมดาลงไปในช่องเติมน้ำกลั่น
เติมแค่น้ำท่วมแผ่นธาตุเท่านั้น จากนั้นเราเติมน้ำยาล้างห้องน้ำลงไปตามช่อง
ช่องละ1ฝาเท่านั้น แล้วปิดฝา(ขอโทษที่ลืมบอกว่าให้ปิดฝาช่องเติมน้ำกลั่นทุกครั้งที่เขย่าแบต)
ช่องเติมน้ำกลั่น แล้วเขย่าเหมือนกับขั้นตอนเขย่าด้วยน้ำร้อน เมื่อเขย่าจนพอแล้วก็เทออก
(การเทน้ำออกจากแบตทุกขั้นตอนเราเทใส่ภาชนะรองรับไว้นะครับแต่ไม่เทรวมกับ
น้ำกรดที่เทออกจากแบตครั้งแรก) เราจะเห็นว่าน้ำที่เทออกมาสกปรกอีก เมื่อเทน้ำ
ผสมน้ำยาล้างห้องน้ำออกแล้ว ทีนี้เราก็เติมน้ำเปล่าลงไปในช่องที่เติมน้ำกลั่นใหม่อีก
และก็เขย่า ขั้นตอนนี้เป็นการล้างเอาน้ำยาล้างห้องน้ำออกให้หมด ล้างหลายเที่ยวยิ่งดีครับ
เมื่อหมั่นใจว่าล้างน้ำยาล้างห้องน้ำออกจนหมดแล้ว เราก็เอาน้ำกรดที่เราเทออกไว้แต่แรก
มาเติมใส่ช่องแต่ละช่องของแบตเติมแค่พอท่วมแผ่นธาตุเท่านั้น แล้วเขย่า ขั้นตอนนี้แหละ
สำคัญคือขั้นตอนสุดท้าย การใช้น้ำกรดเก่ามาใส่แล้วเขย่าแบต ก็เหมือนเป็นการ
นำพาเอาน้ำออกจากแบต ด้วยการใช้น้ำกรดของเดิมมาล้าง แต่ถ้าท่านไม่กลัวสิ้นเปลือง
ก็ซื้อน้ำกรดใหม่มาเติมลงไปก็ได้ เขย่าจนคิดว่ามีน้ำกรดแทรกซึมไปจนทั่วแล้วก็เทออก
จากนั้น ใช่น้ำกรดใหม่เติมให้ได้ระดับอัพเปอร์ของแบต เติมจนครบทุกช่องแล้วนำแบต
ไปทำการชาร์จ ชาร์จจนได้ค่าความถ่วงจำเพาะ ก็เป็นอันจบขั้นตอนการล้างแบตครับ
ทีนี้เราก็ใช้แบตลูกเก่าที่เราปลุกฝื้นคืนชีพมาได้อีกระยะนึง เราก็ประหยัดเงินในกระเป๋า
ไม่ต้องซื้อแบตลูกใหม่ได้อีกหลายเดือนครับ ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ก็ทดลองทำดูครับ
แต่ถ้าเห็นว่าไร้สาระก็แค่ประดับความรู้ อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัดเอาไว้ครับ
แสดงกระทู้
