2
« เมื่อ: ธันวาคม 11, 2012, 01:04:57 PM »
กาลครั้งหนึ่งมีพระราชาทรงแต่งตั้งข้าราชการหนุ่มคนหนึ่งขึ้นมาดำรงตำแหน่งสูง ข้าราชการคนเก่าที่ทำงานมานานปีไม่พอใจ ทูลถามองค์ราชาว่า ทำไมพระองค์จึงแต่งตั้งคนหนุ่มที่ไม่มีประสบการณ์ในตำแหน่งสูงเช่นนี้ องค์ราชาเพียงแย้มสรวล มิได้ทรงตอบอะไร
วันหนึ่งพระองค์ทรงเสด็จประพาสต้นทางชลมารค(ทางเรือ) โดยมีข้าราชการเก่าผู้นั้นตามเสด็จไปด้วย ขณะที่ขบวนเรือแล่นผ่านหมู่บ้านริมคลองแห่งหนึ่ง คนในเรือต่างได้ยินเสียงร้องของสัตว์ชนิดหนึ่ง
องค์ราชาทรงตรัสกับข้าราชการเก่าว่า “เจ้าจงไปดูสิว่านั่นเป็นเสียงอะไร”
ข้าราชการเก่าขึ้นฝั่งไป สักพักหนึ่งก็หวนกลับมารายงานว่า “เป็นแมวพระเจ้าข้า”
“แมวสีอะไร?” พระราชาตรัสถามขึ้นต่อ
สีหน้าข้าราชการเก่าเจื่อนลงเล็กน้อย หายไปอีกพักหนึ่งก็กลับมารายงานเป็นครั้งที่ 2 ว่า “แมวสีน้ำตาลพระเจ้าข้า”
“ตัวผู้หรือตัวเมีย?” พระราชาตรัสถามขึ้นอีกครั้ง
ข้าราชการผู้เดิมหายไปอีก ไม่นานเขาก็กลับมารายงานเป็นครั้งที่ 3 “ตัวเมียพระเจ้าข้า”
“แล้วมันเป็นแมวพันธุ์อะไรรึ?” พระราชาตรัสถามขึ้นอีกครั้ง
อีกครั้งข้าราชการคนเดิมหายไปหาคำตอบที่ 4 “แมวสีสวาดพระเจ้าข้า”
“ทำไมมันร้องเสียงดังเช่นนั้น?” พระราชาตรัสถามขึ้นอีกครั้ง
หายไปอีกครั้งที่ 5 และเมื่อกลับมาจึงได้คำตอบใหม่ “ชาวบ้านบอกว่าลูกของมันหายไปพระเจ้าข้า”
องค์ราชาทรงพยักพระพักตร์ ตรัสให้มหาดเล็กคนหนึ่งไปตามข้าราชการหนุ่มคนนั้นที่อยู่ในเรือลำท้ายมาเข้าเฝ้า
เมื่อมาถึง พระองค์ตรัสบอกข้าราชการคนใหม่ว่า “เราได้ยินเสียงสัตว์ร้องบนฝั่ง เจ้าไปดูหน่อยสิว่ามันคืออะไร”
ข้าราชการคนใหม่หายไปพักหนึ่งก็กลับมารายงาน
“เป็นแมวสีสวาดตัวเมียสีน้ำตาล อายุห้าปี เป็นแมวจรจัดที่เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้หกเดือน ชาวบ้านเรียกมันว่า อีแหว่ง เมื่อสองเดือนก่อน มันตกลูกออกมาสามตัว หมาหลังอานชื่อ ไอ้เก คาบลูกสองตัวของมันไป กัดตายไปหนึ่งตัว อีกตัวหนึ่งบาดเจ็บ แมวตัวนี้ตามไปเอาลูกคืน แต่ถูกหมาตัวนั้นกัดจนหางแหว่ง ลูกของมันอยู่ต่อมาอีกสองวันก็ตาย ชาวบ้านนำไปฝังที่ท้ายสวนของนายอิน เหตุที่มันร้องในยามนี้ก็เพราะเมื่อคืนไอ้เกกลับมาคาบลูกตัวสุดท้ายของมัน คราวนี้มันสู้ยิบตา แม้จะช่วยลูกของมันไว้ได้ แต่มันเองก็ถูกหมาตัวนั้นกัดที่ขาขวาหลังบาดเจ็บ ร้องไม่หยุดมาตั้งแต่เมื่อคืน ชาวบ้านตามหมอบุญมีที่อยู่บ้านหินหักมาช่วยมัน หมอบุญมีกำลังให้ยามันพระเจ้าข้า”
องค์ราชาหันไปสบพระเนตรกับข้าราชการเก่า
“เราตอบคำถามของเจ้าแล้วใช่ไหม?”
"คำว่า คนเหมือนกัน นั้นไม่เถียง
เพราะเพียงมองผิวพรรณนั้นก็เหมือน
อาการครบสามสิบสองมองไม่เลือน
เขาก็เอื้อนเอ่ยวาจาว่าเป็นคน
แต่ปฏิภาณปัญญาความสามารถ
ความฉลาดรอบรู้ดูเหตุผล
ไม่เหมือนกันถ้วนทั่วทุกตัวตน
จะว่าคนเหมือนกันนั้นฉันใด"
อ้างอิงจากบทความในเวบไซท์ : ความรู้ทางพระพุทธศาสนา โดย "ชมรมพัฒนาใจให้สว่างใส"