1
Relax Talk / :)**หัวเราะวันละนิดจิตแจ่มใส** :)
« เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2009, 11:48:29 AM »ติดเรทนิดๆ อ่านกันเล่นๆหนุกๆ..
(1)
มีนักเดินทาง 3 คน หลงป่าไปเจอเผ่ากินคน
วันนั้นเป็นวันเกิดของหัวหน้าเผ่า ท่านหัวหน้าจึงคิดจะทำบุญใหญ่จึงสั่งว่า
“วันนี้เป็นวันเกิดของข้า ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า แต่พวกเจ้าต้องเข้าป่าไปเก็บผลไม้คนละ 10 ผล
และต้องเป็นชนิดเดียวกันใน 10 ผลนั้น ไปได้
ทั้ง 3 คนรีบเข้าป่าไปทันที
สักครู่ ..... คนแรกก็กลับมาพร้อมกับ มะม่วง 10 ผล
หัวหน้าเผ่าสั่งว่า
“เจ้าจงนำผลไม้นั้นยัดไปในก้นของเจ้าทีละลูกให้ครบ โดยห้ามทำหน้าตา ใดๆทั้งสิ้น มิฉะนั้น จะถูกฆ่าทิ้ง”
ว่าแล้ว ชายหนุ่มก็ทำตามทันที แต่พอถึงลูกที่ 2
ก็เผลอทำหน้าเหยเก ออกมา จึงถูกฆ่า
ต่อมา ชายคนที่ 2 ก็กลับมาพร้อมเชอร์รี่ 10 ผล
รายนี้ถูกสั่งให้ทำแบบเดียวกันก็รีบทำตามทันที
แต่เมื่อถึงลูกที่ 9 ก็เผลอปล่อยก๊ากออกมา จึงถูกฆ่าเช่นกัน
และเมื่อทั้งสองไปเจอกันบนสวรรค์ ชายคนแรกถามอีกคนว่า
“แกหัวเราะออกมาทำไมวะ ทั้งๆที่ยัดลูกที่ 9 แล้วเชียว”
ชายคนที่ 2 ตอบว่า
“ช่วยไม่ได้นี่หว่า ก็ตอนยัดลูกที่ 9 น่ะ ข้าเห็นพวกเราอีกคน อุ้มทุเรียน"
(2)
อุทาหรณ์สำหรับชายชีกอ
เย็นวันหนึ่งหลังจากผมไดร์ฟกอล์ฟที่สนามไดร์ฟย่านชานเมือง
ขณะที่ผมขึ้นรถเตรียมจะกลับบ้านก็มีเด็กสาวอายุราว 15-16 ปี วิ่งมาเกาะที่ประตูรถผมพร้อมกับถาม
ว่า
เด็กสาว :"พี่ๆเอาหนูไหมคะ ไม่แพง"
ผมรู้สึกงุนงงกับคำถาม จึงถามเธอกับไปว่า
ผม:"อะไรนะ"
เด็กสาว : "พี่จะเอาหนูไหม ไม่แพง รับรองสะอาด หอมด้วย"
ผมมองดูเด็กสาวคนนั้นอย่างพิจารณา "น่ารักแฮะ" ใจผมคิดอย่างนั้น
พร้อมกับดูรูปร่างของเธอ "ไม่เลว รูปร่างดีเหมือนกัน" จึงถามเธอกลับไปว่า
ผม :"เท่าไหร่ล่ะ"
เด็กสาว : "ร้อยเดียวค่ะ พี่"
"โอ้โห ถูกเป็นบ้า"ใจผมคิดอย่างนั้น ผมจึงหยิบเงินให้เธอ พร้อมกับถามเธอว่า
ผม :"เอ่อ......ที่ไหนดีล่ะ"
เด็กสาว : "ตรงนี้ก็ได้ค่ะพี่ รอแป็บเดียวนะคะ"
"ตรงนี้เลยเหรอ" ผมนึกในใจ แล้วเด็กสาวก็วิ่งไปที่พุ่มไม้ใกล้ๆส่วนผมก็นั่งรอด้วยใจระทึก
สักครู่เธอก็วิ่งกลับมาพร้อมกับถือถุงบางอย่างมายื่นให้ผม
เด็กสาว : "ขอบคุณค่ะ"
เธอกล่าวแล้วเธอก็วิ่งกลับไปที่พุ่มไม้เดิม ผมจึงเปิดถุงออกดูด้วย ความสงสัย
แล้วผมก็เห็นหนูครับหนู หนูจริงๆ มันคือหนูนาย่าง 3 ตัว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเต็มรถ
ราว 10 นาทีหลังจากนั้นผมจึงออกรถกลับบ้านพร้อม กลับความงุนงงว่า ...
อะไรกันวะ
(3)
เผด็จศึกแม่ชี ... รับรองเสียว
ฮิปปี้ผมยาวกระเถิบเข้านั่งประกบแม่ชีในที่นั่งแถวหน้าสุด
พอรถเมล์ปลอดผู้โดยสาร เจ้าหนุ่มก็ชวนดื้อๆ
“เราไปหาที่เงียบๆ ขึ้นสวรรค์กันเถอะ”
แม่ชีสั่นหน้าปฏิเสธ แล้วรีบลงเมื่อถึงป้ายถัดมา
พนักงานขับรถได้ยินเหตุการณ์โดยตลอด
พอรถแล่นออกจากป้าย จึงหันไปพูดกับฮิปปี้
“ถ้านายสนแม่ชีคนนี้จริง ๆ ชั้นจะบอกให้ ว่าทำไงถึงจะได้เผด็จศึก”
เจ้าหนุ่มผมยาวตอบว่า ทำไมจะไม่สนล่ะ พนักงานขับรถจึงแนะว่า
“ ทุกวันอังคารตอนเที่ยงคืน แม่ชีคนนี้จะไปสวดขอพรพระเจ้า
ที่สุสานประจำเมืองไม่เคยขาด
ถ้านายหาผ้ามาคลุมทำทีสวมรอยเป็นพระเจ้า นายจะสั่งอะไร
แม่ชีก็ต้องยอมทั้งนั้น”
คนขับช่วยวางแผนให้เสร็จสรรพ
ครั้นถึงเวลาที่ว่า เจ้าฮิปปี้ก็แต่งองค์ทรงเครื่อง สวมหน้ากากพระเจ้า
ไปดักซุ่มรอเหยื่ออยู่หลังต้นไม้
ทันใดนั้น แม่ชีปรากฎตัวเดินใกล้เข้ามา แล้วหยุดยืนสวดมนต์พึมพำ
ฮิปปี้กระโดดออกจากที่ซ่อน
“ข้าคือพระเจ้า ข้าได้ยืนคำขอของเจ้าแล้ว เจ้าจะได้ทุกสิ่งทุกอย่าง
ตามประสงค์ แต่เจ้าต้องขึ้นสวรรค์กับข้าก่อน”
แม่ชียินยอมโดยดี แต่เกี่ยงงอนนิดหน่อยว่า
“เพื่อเห็นแก่พรหมจรรย์ของลูก ได้โปรดละเว้นประตูหน้าเถอะนะเจ้าคะ”
พระเจ้าฟังก็ไม่ขัดข้อง หลังจากเสร็จสมอารมณ์หมาย
เจ้าฮิปปี้ก็ถอดหน้ากากออก พลางตะโกนว่า
“ฮ่า ฮ่า ผมคือฮิปปี้คนนั้นไง”
แม่ชีถอดหน้ากากมั่ง แล้วตะโกนดังกว่า
“ฮ่า ฮ่า อั๊วะ คนขับรถเมล์เฟ้ย”