A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Interview & Review]
 
Club Harley : ม้าเหล็กที่รัก
By HDP PR
DATE: 2014.01.06
VIEW: 2141
POST: 0

 

ครั้งที่ 89
ม้าเหล็กที่รัก
ความผูกพันดี ๆ ของคนธรรมดากับฮาร์เล่ย์
โนอาห์ ฮิคแมน จังหวัดมิยาซากิ
และ '01 XLH883 SPORTSTER 883

เรื่อง : Maeda Naruhiko
ภาพ : Yuichi Matsuki
----------------------------------------------------------

 

 

ณ หน้าร้านซึ่งสร้างมาด้วยตัวเอง ที่ตั้งอยู่ในย่านดาวทาวน์ เมืองมิยาโกะโนโจ จังหวัดมิยาซากิ โนอาห์ ฮิคแมน ได้เริ่มเล่าเรื่องราวไปพลางมองดู ฮาร์เล่ย์ XLH883 รุ่นปี 2001 สีดำแดงคู่ใจ ด้วยสายตาที่ทั้งรักทั้งทะนุถนอมว่า “การได้ขี่ ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน เป็นเป้าหมายของผมอย่างหนึ่ง และการได้รถมอเตอร์ไซค์คันนี้มาตกแต่ง ก็เป็นความฝันในอดีตของผมเช่นกัน”

โนอาห์เป็นศิลปินชาวอเมริกัน ที่ใช้ชื่อในวงการว่า “NOAH ・G・ X” เขาได้ย้ายจากโอซาก้ามาที่เมืองมิยาโกะโนโจแห่งนี้ พร้อมกับโดมิกะผู้เป็นภรรยาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ปัจจุบันได้เปิดร้านที่มีชื่อว่า “THE HOLLYWOOD BAR” ที่ใจกลางเมืองมิยาโกะโนโจ และได้ร้องเพลงที่นี่ไปพร้อม ๆ กับการจัดแสดงสดตามงานแต่งงานที่โรงแรมและอีเว้นท์ต่าง ๆ ในเกาะคิวชูตอนใต้อีกด้วย

 

 

การย้ายมาอยู่แผ่นดินใหญ่ทางทิศตะวันตกซึ่งเต็มไปด้วยสีเขียว
ของ
ธรรมชาติ ของนักร้องชาวอเมริกันผู้ขี่ SPORTSTER




โนอาห์ ฮิคแมน อาศัยอยู่ที่เมืองมิยาโกะโนโจ จังหวัดมิยาซากิ ใช้ชื่อในวงการว่า “NOAH ・G・ X” ผู้ซึ่งเป็นทั้งนักร้อง, มือคีย์บอร์ด, นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์ และยังขี่ SPORTSTER อีกด้วย

 

 

 

 

1 : เขาจะชอบแต่งตัวแบบเท่ ๆ บนเวที ถ้าค้นหาใน Youtube ด้วยชื่อศิลปินว่า "noah g.hickman" คุณจะสามารถเข้าฟังเพลงของเขาได้หลากหลายเพลง
2 : THE HOLLYWOOD BAR (3-2  Nakamachi, Miyakonojo, Miyaki TEL 0986-21-3069)

 

 

 

 

 

 

 

 

 



 

โนอาห์ เกิดที่รัฐอลาบามาและเติบโตที่นิวออร์ลีนส์ เป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดดนตรีมาตลอดตั้งแต่วัยเยาว์ ด้วยความที่คุณแม่เคยเป็นมือกลอง เขาจึงลองเอาเซตกลองของคุณแม่ ที่ถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของที่บ้านออกมาตีเล่นตั้งแต่สมัยประถมทุกวัน ๆ จนหมกมุ่นกับการฝึกซ้อม

 

3 : ติดปีกบินไปตามไหล่เขาแบบชิลล์ ๆ กับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ


 

หลังจากนั้น เมื่อวัยประมาณ 14 ปี เขาก็เริ่มเล่นดนตรีที่คลับในเมืองในฐานะ Professional “ตอนนั้นผมฟังดนตรีหมดทุกแนวเลย ไม่ว่าจะเป็น Motown Soul, New Orleans Jazz ไปจนถึง Rock ทุกแนวจริง ๆ นะ เลยทำให้ดนตรีของผมตอนนี้ผสมกันอยู่ทุกแนว ดนตรีญี่ปุ่นก็ชอบมาก เมื่อก่อนผมก็เคยใช้เสียงจะเข้ญี่ปุ่นผสมในดนตรีด้วย ซึ่งมันกลายเป็นดนตรีที่วิเศษมาก ๆ เลยครับ” โนอาห์อาศัยอยู่ที่นิวออร์ลีนส์จนถึงมัธยมปลาย แล้วได้เข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ตอนนั้นที่เมืองมินนีแอโพลิสมีวงดนตรีชื่อดัง อย่างเช่น Princess, Janet Jackson, New Edition, Alexander O'neal ทำการแสดงอยู่ด้วย จึงทำให้อาชีพของโนอาห์เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตามแบบที่ตัวเองรัก เขาเริ่มเล่นเปียโนสมัยอยู่มหาวิทยาลัย และเล่นที่คลับสัปดาห์ละ 3 ครั้ง อีกทั้งยังได้ติดตาม World Tour ของศิลปินระดับท็อปอย่าง Alexander O'neal, Babyface ในฐานะมือคีย์บอร์ดอีกด้วย เขาเดินทางมาญี่ปุ่นครั้งแรกในปี ค.ศ.1990 “ตอนนั้นผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาอาศัยอยู่ญี่ปุ่น ความประทับใจแรกที่ญี่ปุ่น คือความแตกต่างด้านวัฒนธรรม เพราะว่ารถยนต์ทุกคันที่ญี่ปุ่นเล็กมาก ๆ ครับ (ยิ้ม)



 



ยกถังน้ำมันให้สูงขึ้น ใช้สีดำเป็น Base แล้วเพ้นท์สีแดงที่แม็กและกระบอกสูบ


1
1 : มัฟเฟลอร์พิเศษแบบตรงไม่เหมือนใคร ส่วนปลายเพ้นท์สีแดง 2 : ยกถังน้ำมันออริจินัลที่เคลือบเงาขึ้น


2 3
3 : เบาะเดี่ยวหน้าตาเท่ ๆ และคลาสสิก ปักชื่อพร้อมเย็บตะเข็บแดง


บริษัทที่แต่งรถคือ Crazy orange
(www.crazyorangemc.com/
1529-4 Hayasuzucho, Miyakonojo, Miyaki
TEL 0986-23-2028)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คิดทีไร ก็รู้สึกว่าดนตรีเป็นสิ่งชี้ทางความฝันให้ผม
และแน่นอนว่าการได้พบกับเจ้าฮาร์เล่ย์คันนี้ก็เช่นกัน”

ม้าเหล็กที่รัก

 

แต่ในระหว่างที่มาญี่ปุ่นหลายครั้งเข้า ก็รู้สึกถึงการบริการต่าง ๆ ที่ดีของญี่ปุ่น และความใจดีของผู้คนที่นี่  เมื่อก่อนผมเคยลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ในรถแท็กซี่ที่โอซาก้า ตอนนั้นก็หมดหวังแล้ว คิดว่าคงจะไม่ได้คืนแน่ ๆ แต่พอรอไปสักพัก ผมก็ได้กระเป๋าสตางค์กลับมาในสภาพเดิม ถ้าเป็นที่อเมริกาเรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน” ในระหว่างที่โนอาห์มาพำนักที่ญี่ปุ่นเพราะต้องมาทัวร์ระยะยาวอยู่บ่อย ๆ นั้น เขาก็ถูกเสน่ห์ของญี่ปุ่นดึงดูด และในปี 2001 ก็ได้เริ่มมีทัวร์ประจำที่ไลฟ์คลับโอซาก้า จึงเป็นโอกาสได้ย้ายที่ทำงานมาอยู่ที่ญี่ปุ่น “ที่ผ่านมามีทัวร์เยอะมาก เลยไม่ค่อยมีเวลาว่าง แต่การได้แสดงในสถานที่เดิม แล้วได้บรรยากาศที่เหมือนเดิมทุกวัน ผมก็รู้สึกดีใจมากนะ เพราะมันทำให้ผมได้รู้จักกับมาโดกะ ได้ทำผลงานมากขึ้น และได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ด้วย” เขาใฝ่ฝันที่จะมีฮาร์เล่ย์ตั้งแต่สมัยอยู่อเมริกา เพราะลูกพี่ลูกน้องเขาก็ขี่อยู่สองคน และในช่วงปี 1980 - 1989 เขาเคยอาศัยอยู่ใกล้ ๆ กับสำนักงานใหญ่ของฮาร์เล่ย์ที่อยู่ในมิลวอกี ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์คันแรกที่ขี่ตอนมาอยู่ญี่ปุ่น คือ Dragstar ของยามาฮ่า เขาซื้อมันตั้งแต่ตอนย้ายมาอยู่โอซาก้าช่วงที่ว่างจากการทัวร์ “ผมพยายามแต่งมันให้เหมือนฮาร์เล่ย์ครับ (ยิ้ม) แต่ไม่ว่าจะทำยังไงสุดท้ายมันก็ไม่ใช่ฮาร์เล่ย์ เลยรู้สึกว่านี่ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทั้งที่เป็นคนอเมริกันแท้ ๆ ? เลยรู้สึกอยากได้ฮาร์เล่ย์ขึ้นมาจับใจ ผมชอบบ่นกับมาโดกะตลอดว่า “ยังไง ๆ ก็อยากได้ฮาร์เล่ย์อยู่ดี” (ยิ้ม)

 

 



รูปถ่ายที่ระลึกของโนอาห์และมาโดกะ พร้อมด้วยลูกสาวสุดที่รัก หนูมินนี่ ที่ถ่ายบนภูเขาสูงลูกเล็ก ๆ โดยมองลงไปจะเห็นเมืองมิยะโกะโนโจ




4 : ปล่อยตัวตามสบายไปกับท้องทุ่งธรรมชาติ 5 : เพลงร้องประสานเสียงกับมาโดกะที่ร้าน ซึ่งไม่ได้มีแค่ดนตรีแนว Rhythm & Blues, Hip-Hop และ Funk เท่านั้น ยังมี Jazz, Gospel, Reggae, และ Rock อย่างหลากหลาย 6 : ร้องเท้าผ้าใบสุดโปรดที่บอกว่ายังไม่เคยใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียว 7 : กิจกรรมการแต่งเพลงที่สตูดิโอของตัวเองจะใช้คอมพิวเตอร์แม็คอินทอชทำอย่างคล่องแคล่ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อาศัยอยู่ที่โอซาก้าและสร้างครอบครัวกับมาโดกะมากว่า 10 ปีแล้ว เดือนมกราคมปีที่แล้ว ก็ตัดสินใจย้ายจากโอซาก้ามาอยู่ที่มิยาโกะโนโจ เพราะช่วงที่ได้รับการเสนอให้ไปแสดงดนตรีที่งานแต่งงานที่เมืองนี้บ่อย ๆ ก็เริ่มหลงใหลไปกับธรรมชาติและอากาศดี ๆ ที่น่าผักผ่อนหย่อนใจ และในปีนี้ก็ได้ซื้อฮาร์เล่ย์ตามที่ตั้งใจไว้ มาโดะกะบอกว่า “ชอบมาบ่นให้ฟังตลอดว่าอยากได้ฮาร์เล่ย์ ฉันเลยบอกไปว่าก็ซื้อไปเลยสิ เพราะจะได้ไม่ต้องฟังคำนั้นแล้วน่าจะดีขึ้นนะ (ยิ้ม) ที่นี่สภาพแวดล้อมดีกว่าที่โอซาก้า เลยอนุญาตให้ซื้อ” วันธรรมดาก็จะร้องเพลงที่ร้าน ส่วนวันหยุดจะไปแสดงสดตามงานแต่งงานหรืออีเว้นท์ต่าง ๆ แล้วก็ขลุกอยู่ที่สตูดิโอเพื่อแต่งเพลงและใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ดังนั้น การได้ออกไปขี่รถเล่นในช่วงที่มีเวลาว่างจากงานยุ่ง ๆ เลยรู้สึกสนุก “ที่นี่อากาศก็ดี อาหารก็อร่อยมาก จึงทำให้แต่งเพลงได้เร็วขึ้นและมีความหลากหลายมากขึ้น สมัยนี้มีอินเตอร์เน็ตแล้วก็สามารถส่งเพลงที่แต่งแล้วได้เลย และการใช้ชีวิตที่นี่ก็เหมาะกับตัวเองจริง ๆ ตอนที่อยู่โอซาก้ายุ่งมาก เงินก็มี แต่ตอนนี้สามารถเติมเต็มการใช้ชีวิตได้มากกว่าเยอะ และแน่นอนว่าการได้ขี่ฮาร์เล่ย์ที่ตัวเองแต่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พอคิดทีไร ก็รู้สึกว่าดนตรีเป็นสิ่งชี้ทางความฝันให้กับผม เพราะการที่ผมเล่นตรีจึงทำให้ผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ อยากขอบคุณจริง ๆ ครับ”  โนอาห์ คิดว่าดนตรีเป็นสิ่งที่เชื่อมความฝันทั้งหมดให้อย่างนี้มาตลอด ในวันนี้ เขาก็ยังคงขี่ Sportster สีดำ-แดง ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมไปด้วยสีเขียวแห่งนี้อยู่

 

 

---
โดย... HD-Playground
แปลและเรียบเรียงจาก...
นิตยสาร Club Harley
ฉบับที่ 160 | เดือนพฤศจิกายน 2013


Share   Like
Comments