George paints the windy city red

จาก: Baggers Mag ฉบับเดือนมกราคม 2012
เรื่อง: Jennifer Chesak
ภาพ: Mike Calabro

จอร์จ ริดเดิลส์ (George Riddles) ไม่ต้องการมาเสียเวลานั่งรอให้ สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) เกษียนอายุจาก Apple เสียก่อนกว่าที่เขาจะมาสุขสำราญกับฮาร์เล่ย์ฯ เพื่อไล่ตามแนวคิดของเจ้าพ่อไอทีผู้นี้ แทนการคิดนำมาผสมผสานใช้งานในแบบของตัวเอง อย่างการใช้ Apple iPad ในการออกแบบทั้งระบบเสียงและดีไซน์ Harley-Davidson Ultra Classic Electra Glide ของเขา

“พูดแล้วก็เปรียบเหมือนคุณกำลังอยู่ในโรงละคร” จอร์จกล่าวถึงระบบที่เขาสามารถควบคุมได้ด้วยทั้งไอแพด (iPad) และ ไอโฟน (iPhone) “มันเป็นอะไรที่แตกต่างและยอดมากสำหรับการแสดง ไม่ว่าจะเป็นภาพที่เห็นหรือเสียงที่ได้ยิน” ไม่เพียงเท่านั้น มันยังเป็นการพักผ่อนชั้นเยี่ยมอีกด้วย “ไอแพดเหมาะมากสำหรับการเล่นภาพยนตร์สุดพิเศษหรืออะไรก็แล้วแต่ ร่วมกับหวานใจของคุณริมทะเลสาบ” เขาเสริมพร้อมกับหัวเราะ นอกจากนี้เขายังสนุกกับการเข้าร่วมกับชมรมนักขี่และบิดเร่งเสียงทุ้ม ๆ ของเครื่องยนต์ได้ก่อนที่เพื่อนร่วมชมรมของเขาจะทันได้เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ

“ผมอยากทำอะไรสักอย่างที่สามารถแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีสามารถชักนำโลกหรือแม้แต่มอเตอร์ไซค์ได้อย่างไร” จอร์จกล่าว ขณะที่แผนงานล่วงหน้าของเขาสามารถแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนในทางปฏิบัติ เพราะทั้งไอแพดและไอโฟนนั้นสามารถตามติดเป็นเพื่อนเขาไปทุกที่ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือที่ไหนก็ตามที่ทำให้เขาต้องหยุดอยู่กับที่ หรือบางทีก็อาจเป็นที่ไหนสักแห่งในคิวเปอร์ติโน (Cupertino) เพราะสำหรับจอร์จแล้วไอแพดและไอโฟนไม่ได้เป็นเพียงแค่อุปกรณ์ตกแต่งมอเตอร์ไซค์

จอร์จใช้ไอแพดสำหรับให้ความบันเทิงยามที่ต้องติดอยู่กับที่ และควบคุมผ่านวงจรไร้สายด้วยไอโฟนในเวลาที่ต้องแล่นไปทั่วเมืองชิคาโก้ที่เขารัก พร้อมกับระบบสเตอริโอจำลองที่พบได้ในเฟอรารี่ปี 08 ซึ่งประกอบด้วย ลำโพง 6x5 เฮิร์ตซสองคู่, ลำโพง 6x9 เฮิร์ตซสองคู่, เครื่องขยายเสียงเครื่องเล็ก และแอลไพน์แอมป์ แน่นอนว่าต้องเพิ่มอุปกรณ์เสริมเข้าไปด้วย “เพื่อให้มันเป็นเสียงที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและไม่น่าเชื่อ” จอร์จกล่าว พูดได้เลยว่ามอเตอร์ไซค์มีดีที่ไม่มีหน้าต่าง

ด้วยไอโฟน จอร์จสามารถใช้แอพลิเคชั่นได้ประหนึ่งมันเป็นกล่องแพนโดร่า ทั้งเชื่อมต่อสถานีวิทยุ เป็นเครื่องมือนำทางด้วยเสียง และแน่นอนว่าใช้ฟังเพลงโปรดจำนวนมากมายของเขาด้วย เมื่อมาถึงมือจอร์จก็ย่อมต้องมีเพลงประกอบอันหนักแน่นที่เหมาะกับการขับขี่ และี่ร้อนแรงประดุจสัตว์ป่า

Red rover, red rover ทำให้เฉดสีให้มันโอเวอร์ จอร์จสั่งทำสีพิเศษซึ่งเป็นสีแบบเดียวกับเฟอรารี่ที่เข้ากับสัญลักษณ์ทางการค้าของรถ ขณะที่เขาอยากได้ “Aztec” มาช่วยดูแลด้านกราฟฟิค เขาเลือกให้รถของเขาดูเป็นสายพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่มากกว่า แสวงหาภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งมากกว่าจะเป็นสไตล์ธรรมดาเล็ก ๆ พื้น ๆ และในกรณีที่สีแดงเฟอรารี่ยังไม่เจิดจ้าพอ การเพิ่มสีเหลือบมุกเข้าไปก็จะยิ่งทำให้เปล่งประกายมายิ่งขึ้น

ทั้งนี้ คัสตอมคันงามของจอร์จจะไม่อาจสมบูรณ์ได้เลยหากปราศจากเบาะหนังนกกระจอกเทศตัดเย็บด้วยมือ บริษัท Millennium Designs ของเขาเอง ร้านออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าโดยเฉพาะสำหรับชาวมอเตอร์ไซค์และงานหนังที่ต้องใช้ความประณีต นอกจากนี้โปรเจ็คสุดโปรดของจอร์จยังรวมไปถึงงานรับสั่งทำเสื้อกั๊กสำหรับชาวมอเตอร์ไซค์ เสื้อแจ็กเ็กต รวมถึงงานเครื่องหนังอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกันด้วย ซึ่งกิจการก็ดำเนินไปได้ด้วยดีพร้อมกระแสเรียกร้องให้เพิ่มการผลิตมาขึ้นทุกปี จอร์จได้เห็นผู้คนมากมายที่ภูมิใจในการขับขี่ของพวกเขา ภูมิใจในคลับของพวกเขา รวมถึงภูมิใจในกิจกรรมทั้งหมดของพวกเขา “ผมทำงานแบบนี้มาเกือบ 22 ปีแล้ว และทำเสื้อกั๊กของคลับมอเตอร์ไซต์ต่าง ๆ มาร่วม 500 แบบแล้วด้วย” เขากล่าว “ในช่วง 6-7 ปีมานี้ ผู้คนคลั่งไคล้กันมากขึ้นทำให้เสื้อกั๊กก็ไม่ต่างอะไรจากเกมลูกกลม ๆ ที่แตกต่างกันเพียงแค่วัตถุดิบและการตัดเย็บเท่านั้น ส่วนผมขับมอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และสนุกับการได้เห็นกีฬานี้มีชีวิตชีว่ามากว่า 1 ปีแล้ว”

มอเตอร์ไซค์คันแรกของจอร์จเป็นมอเตอร์ไซค์สกปรก ๆ แต่เขาก็เหมือนกับผู้คลั่งไคล้เครื่องจักร 2 ล้อนี้อีกมากมายที่เปลี่ยนรสนิยมอยู่เป็นปี ๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนความชอบจากแนวสปอร์ตไบค์มาเป็นฮาร์เล่ย์ฯ ที่เขามีอยู่ในครอบครองถึง 4 คัน รวมถึง Street Glide และ all-chrome Road King Classic ปี 2004 ด้วย “ตอนเป็นเด็ก คุณจะชอบลักษณะลักษณะท่าทางและพละกำลังของมัสแตง และเมื่อโตขึ้นคุณก็จะหลงใหลได้ปลื้มไปความแก่แบบมีคลาสและความสะดวกสบายของคาดิแลค” จอร์จพูดถึงความเปลี่ยนแบบโดยธรรมชาติของหลาย ๆ คน กระนั้นรายละเอียดงานตัดแต่งเครื่องหนังของเขาก็อยู่ในระดับสุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัย “คุณเข้าถึงโหมดได้ทุกที่เมื่อคุณเห็นถึงคุณค่าและคุณภาพ” เขากล่าว “มันมีความสำคัญเท่าๆ กับสไตล์ และแน่นอนว่ากับฮาร์เล่ย์ฯ ด้วย”

อย่างไรก็ดี ไม่มีทางที่จอร์จจะเห็นว่าตัวเองเป็นผู้ตามหรือแม้แต่ผู้นำกระแส และในการใช้ไอแพดและไอโฟนในการออกแบบมอเตอร์ไซค์ของเขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามอะไรเลยนอกจากความเป็นตัวของเขาเอง แต่ก็มั่นใจได้เลยว่ามันทั้งใหม่และเจิดจรัส ถึงกระนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือการที่จอร์จเป็นผู้คลั่งไคล้ดนตรีที่สามารถอธิบายได้อย่างชัดด้วยตัวของเขาเองอยู่แล้ว แล้วจะมีอะไรอื่นใดอีกที่เขาจะต้องการมากไปกว่าการผสมผสานกันระหว่างเสียงและเทคโนโลยีที่ใหม่ที่สุดและยอดเยี่ยมที่สุด ผลที่ได้ก็คือ “เสียงที่มหัศจรรย์และการขับขี่ที่เหมือนกับพรมเหาะสีแดง!” จอร์กล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลทางเทคนิค

ที่มา www.baggersmag.com