A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Interview & Review]
 
Interview: Macro Raymondin
By HDP PR
DATE: 2011.10.03
VIEW: 2117
POST: 1
 
Interview


      “Marco Raymondin” ยอดบุรุษแห่งวงการ 2 ล้อฝรั่งเศส

 

          Marco Raymondin เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงการรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกของฝรั่งเศส แต่สำหรับคนนอกวงการกลับรู้จักเขาน้อยมาก ในช่วงยุค 70 เขาก่อตั้ง Brooklands Motors ซึ่งเป็นร้านตัวแทนจำหน่าย Triumph ใกล้กรุงปารีส ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นตัวแทนจำหน่าย Ducati แทนในเวลาต่อมา ปัจจุบัน Marco หวนกลับเข้าสู่วงการรถมอเตอร์ไซค์ที่เปรียบเสมือรักแรกครั้งแรกของเขาอีกครั้ง เพื่อคอยซ่อมบำรุง ปรับปรุง และดูแลมอเตอร์ไซค์อังกฤษให้กลับมามีชีวิตที่โลดแล่นอีกครั้ง

 
 

มอเตอร์ไซค์คันแรกที่คุณซื้อด้วยเงินของตัวเองคือ ?
เพื่อนของพ่อผมมี Gnome et Rhône 125 รุ่นปี 1950 เป็นมอเตอร์ไซค์ชนิดเครื่องยนต์สองสโตรกที่มีโครงสร้างภายนอกเป็นเฟรมแบบหลังแข็ง ซึ่งเขาบอกว่าจะขายให้ผมในราคา 50 ฟรังค์ ตอนนั้นผมเพิ่งอายุ 15 ปี ต้องไปทำงานที่ร้านขายเนื้อทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ นานเกือบหนึ่งเดือน กว่าจะเก็บเงินได้มากพอจนสามารถซื้อมันมาได้ ขณะที่เพื่อน ๆ ของผมส่วนใหญ่มักขี่จักรยานหรือ Moped ผมที่ขี่ Gnome et Rhône 125 จึงเปรียบเสมือนพระราชาเลยทีเดียว แม้ว่าบังโคลนของรถจะหายไปหลังจากที่ซื้อมาได้ไม่นานก็ตาม ต่อมาผมเปลี่ยนแฮนด์มาเป็นแบบ Clip On เพิ่มขนาดคาร์บูเรเตอร์ให้ใหญ่ขึ้น และยังปรับเปลี่ยนอะไรอีกหลายอย่าง นั่นถือเป็นการแต่งรถแนว café racer ครั้งแรกของผมเลยก็ว่าได้

 

 
 

มอเตอร์ไซค์คันไหนที่คุณคิดว่าสวยที่สุดเท่าที่เคยมีการสร้างมา
คุณปู่ของผมมีอู่รถเล็กๆ อยู่แถวชานกรุงปารีส ตอนนั้นอยู่ในช่วงต้นยุค 60 ผมชอบดูการถอดชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ชอบกลิ่นน้ำมันเก่าๆ ชอบให้มือตัวเองเปื้อน คุณปู่เลยสอนให้ผมรู้จักหลักการทำงานของลูกสูบ วาล์ว และเพลาลูกเบี้ยว ที่สำคัญท่านยังเป็นเพื่อนบ้านกับเจ้าของ Velocette ด้วย มันเป็นรถที่สุดยอดมาก เสียงของมันก็ไพเราะจริงๆ และเพราะมันที่ทำให้ผมได้รู้ว่าการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผมมากแค่ไหน


มอเตอร์ไซค์แบบไหนที่คุณไม่ชอบเอาเสียเลย
สำหรับผม มอเตอร์ไซค์ของแท้จะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 200 กิโลกรัม และต้องมี 2 ล้อเท่านั้น ยกเว้นประเภทที่มี Sidecar แต่ที่ไม่ชอบมากที่สุดคือประเภท Piaggio MP3

 

 
 

ความสุขที่แท้จริงในความคิดของคุณคืออะไร
แค่ช่วงเวลาดีๆ ขณะที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์ก็เพียงพอแล้ว ความตื่นเต้นจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่ได้เหยียบคันสตาร์ทรถหลังจากที่น้ำมันและอากาศไหลท่วมคาร์บูเรเตอร์ จากนั้นก็มีความสุขไปกับการได้ยินเสียงคำรามของเครื่องยนต์ แต่ช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดคือเวลาที่ผมได้ขี่มอเตอร์ไซค์วิบากกับเพื่อนๆ ในการแข่งขันออฟโรด เมื่อจบการแข่งขัน พวกเราก็จะมาร่วมวงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตื่นเต้น ปิดท้ายด้วยการเปิดเบียร์เย็นๆ ดื่มด้วยกัน


มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: Yes or No ?
มอเตอร์ไซค์ที่ดีจะต้องดูดีและมีเสียงที่ดี ดังนั้นสำหรับผม มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจึงไม่เคยอยู่ในสายตา


การเดินทางที่คุณประทับใจมากที่สุดคือ ?
การเดินทางที่ยอดเยี่ยมที่สุดของผมเป็นทริปไปทะเลเกลือที่ Bonneville เมื่อปีที่แล้วตอนนั้นผมขี่ Triumph T110 ที่แต่งเครื่องใหม่จนเต็มพิกัด ฝาสูบเหล็ก ใช้เมทานอลเป็นเชื้อเพลิง ผมขี่มันฝ่าเกลือด้วยความเร็วเกือบ 120 ไมล์/ชั่วโมง ไปพร้อมกับลำโพง 2 ตัวใหญ่ ๆ ที่เปิดเพลงเสียงดังเต็มที่ ให้ความรู้สึกที่วิเศษมาก ๆ แต่การได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปบนถนนที่แสนคดเคี้ยวทางตอนใต้ของฝรั่งเศสในวันที่แดดจ้าพร้อมกับเพื่อนร่วมทาง ก็เป็นการเดินทางที่ผมประทับใจเช่นกัน

 

 

 

อเตอร์ไซค์ยุคใหม่ที่ใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ คันไหนที่คุณคิดว่าจะกลายเป็นมอเตอร์ไซค์คลาสสิกในอนาคตเหมือนอย่าง Honda CB750 หรือ Guzzi V7 Sport
มอเตอร์ไซค์ที่ผมคิดว่าจะกลายเป็นรถคลาสสิกอย่างแท้จริงมีคันเดียว คือ Ducati Mostro (Monster) ด้วยการออกแบบที่ดีเลิศ เสถียรภาพในการควบคุมรถและการเบรก เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง เช่นเดียวกับเสียงที่เพราะเสนาะหู


ใครคือฮีโร่ในวงการมอเตอร์ไซค์ของคุณ

คนในโลกมอเตอร์ไซค์ที่ผมนับถือมากที่สุด คือ Edward Turner เขาเป็นผู้สร้าง Triumph สูบคู่สุดมหัศจรรย์มาตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามเรื่อยมาจนกระทั่งถึงช่วงกลางยุค 80 และทำให้รถเหล่านั้นมีเสน่ห์ดึงดูดใจควบคู่ไปกับสีสันที่สะดุดตาผู้คนได้ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสี Pacific Blue, Spring Gold หรือ Grenadier Red รวมถึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับชื่อต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น Thunderbird, Speed Twin และ Bonneville แม้แต่คนดังอย่าง Steve McQueen, Bob Dylan หรือ Clint Eastwood ต่างก็ขี่ Triumph ทั้งนั้น

 

 

   Walter Kaaden
 

          ชายอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะของวงการมอเตอร์ไซค์ก็คือ Walter Kaaden ที่แม้จะมาจากค่ายรถเล็ก ๆ ไร้ชื่อเสียงอย่าง MZ fame กระนั้นเขาก็ยังยืนหยัดต่อสู้จนสามารถเอาชนะค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นมาได้หลายครั้ง ประหนึ่ง David เมื่อครั้งมีชัยเหนือยักษ์ใหญ่อย่าง Goliath เลยก็ว่าได้ แน่นอนว่ารวมถึง Mike Hailwood และ Barry Sheene ด้วย พวกเขาเป็นได้ทั้งสุดยอดนักบิดและเพื่อนร่วมทางที่ดี ที่พร้อมจะร่วมเล่นกีต้าร์หรือดื่มเบียร์ไปพร้อมกับเพื่อน ๆ เช่นเดียวกับแชมป์มอเตอร์ไซค์วิบาก 6 ปีซ้อนอย่าง Joel Robert นอกจากนี้ก็ยังมี Percy Tait และ John Giles ที่อุทิศชีวิตช่วงที่เป็นนักขี่มอเตอร์ไซค์ให้กับโรงงาน Triumph และที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ Jiří Stodůlka หรือ Kvetoslav Masita ผู้สามารถคว้ารางวัล ISDTs มาให้แบรนด์มอเตอร์ไซค์ Jawa ได้หลายสมัย


คุณคาดหวังว่าอนาคตของวงการมอเตอร์ไซค์จะดำเนินไปในทิศทางที่ดีหรือเปล่า
ในความเป็นจริง การมองอนาคตในแง่ดีเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ทั้งที่เรามีนักบิดบ้าคลั่งอยู่หลายคน แต่เราก็ไม่เคยมีอิสระแม้เพียงน้อยนิดในการทำในสิ่งที่เราต้องการ กระนั้นนักมอเตอร์ไซค์ก็ยังเป็นสัตว์ที่ฉลาดเป็นกรด พวกเราเอาตัวรอดได้แน่!


สภาพจิตใจของคุณในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ผมพยายามจะฟิตร่างกายตัวเองให้แข็งแรงพอที่จะเหยียบคันสตาร์ทและบิดคันเร่งของมอเตอร์ไซค์ได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานมากเพราะกระดูกหักถึง 25 แห่ง ถึงอย่างนั้นผมก็ยังได้ทานมื้อเย็นอร่อย ๆ มากกว่านี้ผมคงนึกไม่ออกแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เราพร้อมร็อคต่อไปเสมอ



ที่มา  http://www.bikeexif.com/interview-marco-raymondin

 

 

Share   Like 4
Comments  
Posted by LOTUSMAN
Date: 2011.10.04
ว่าแล้ว ว่าที่ขี่อยู่ ไม่ใช่มอเตอร์ไซด์  ;)