A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Modify & Custom]
 
เรื่องของ Ground Wire....สายดินจ้า สายดิน
By HDP PR
DATE: 2011.03.07
VIEW: 2148
POST: 0

HDP ขอขอบคุณ คุณ Vrod raider ที่ได้อนุญาตให้นำบทความอันเป็นประโยชน์มาเก็บไว้ใน Article แห่งนี้

สวัสดีครับ พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ชาว HD ทุกท่านที่เล่นเวป Hd-P วันนี้ ผมขอเสนอ เรื่อง สายดิน ...
สายดินคืออะไร สายดิน หรือว่ ground Wire นั้น คือ สายขั้วลบ ของ แบตเตอร์รี่ นั้นเอง ในรถยนตร์ รึว่า มอเตอร์ไซค์นั้น สายนี้ มีความสำคัญมาก ถ้าไม่มีสายนี้ก็จะทำให้ สตาร์ไม่ติด ( ไฟไม่ครบวงจรนั้นเอง) แต่ ground wire ตัวนี้ ผมขอเสนอในแง่มุมที่ว่า การทำให้ สายดินนั้นดีขึ้น จริงหรือไม่ ที่ทำให้
1. เครื่องหัวฉีด จะ เดินเบาดีขึ้น?
2. จริงหรือที่เค้าว่า ทำให้กินน้ำมันน้อยลง?
3. ทำให้สตาร์ติดง่าย?
4. สายเดิมๆ ติดรถมา กับสายที่เอามาทำให้ มันเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์หรือไม่

 

เรามาดูกันนะครับ
มีหลายๆท่านบอกว่า รถใหม่มักไม่มีปัญหาเรื่องไฟ แบตไม่รั่ว สตาร์ติดง่าย แต่พอใช้ไปๆ เหมือนรถไม่มีแรง เหมือนสตาร์ติดยาก หลายๆอาการ ดังนั้นผมจึงมองว่า ถ้าเรามามองที่สายดิน แล้วปรับปรุงมัน จะทำให้อาการเหล่านี้หายไปจริงหรือไม่

การลงสายดิน ส่วนใหญ่นั้นจะ ลงที่ตัวถังรถ ( ในกรณีรถยนตร์ ส่วนมอเตอร์ไซค์นี่ผมไม่แน่ใจว่าเค้าลง สายดินที่ frame ตัวถังรถเลยรึไม่) อีกจุดที่จะไปลงคือ ตัวเครื่อง

เค้าบอกว่า ก่อนที่จะทำอะไรกับสายดินนั้นควรตรวจค่าความต้านทานก่อน ทำได้โดยการวัด มี 3 กรณี
1. ตรวจการชำรุดของสาย สายเก่า สายไม่ดี
2. วิธีการตรวจสอบว่าสายดินของเราพอเพียงต่อการใช้งานหรือไม่ ให้ใช้ digital multimeter (ที่ใช้ digital เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องขั้ว +-) ตั้ง scale แถวๆ 200mV แล้วไปวัดเทียบจุดต่างๆ ของเครื่องยนต์ (ที่จะเดินกราวน์ไวร์ใหม่นั่นล่ะ) เทียบกับขั้วลบของแบต ถ้าความต่างศักย์ไม่เกิน 100mV แสดงว่าไม่มีความจำเป็นต้องเดินกราวน์ไวร์เลยครับ
** แหล่งที่มา คุณ SSB จาก เวป http://www.fortuner-club.com/webboard/questions.asp?QID=24155
3. การจะดูว่า ground เดิมๆของรถ ยังใช้ได้หรือเปล่า มีวิธี test ง่ายๆ
ต้องแน่ใจก่อนว่า แบตยังใช้ได้ดี

ไปร้านแบต ที่มีเครื่องวัดการจ่ายกระแส (load tester ... คล้ายๆก้ามปูอันโตๆ คร่อมเข้าที่ขั้วแบต จะดึงกระแส 150-200 แอมป์ เหมือนตอนสตาร์ตรถ) ปลดขั้ว]บวกออก

จากนั้นใช้เครื่องจี้วัด CCA ระหว่างขั้วแบตบวกและลบ (CCA-Batt) สลับกับการใช้เครื่องจี้วัด CCA ระหว่างขั้วบวกกับกราวด์ (ตรงไหนก็ได้) (CCA-Ground)

จด CCA#bat และ CCA-ground
ทำ 2-3 รอบ (CCA-batt 3, CCA-ground 3)
เพื่อเอามาเฉลี่ยกัน

การวัด CCA หนละไม่เกิน 5 วินาที และพักรอ 1-2 นาที ก่อนวัดใหม่ (ถ้าจะให้ดี ชาร์จ 40A, 5-6 นาที ก่อนวัดใหม่)

ถ้า ground ไม่มีปัญหา ค่าเฉลี่ย CCA-batt กับ CCA-ground ต้องต่างกันไม่เกิน 25%

** แหล่งที่มา login ID แมวเหมียวพุงป่อง จาก http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/V3417919/V3417919.html

ทีนี้ ถ้าเรา เชคแล้ว สายดินเดิมๆ มาจากโรงงาน ยังรับใช้ซื่อสัตย์ดี ไม่โปเก ก็ไม่ต้องไปทำอะไ รเว้นแต่ คุณอยากเสียเพื่อสิ่งที่ดีกว่า 55+ เรามาดูกันครับว่า มันมีผลยังไง ถ้า สายไม่ดี รึว่า จุด ลงดิน นั้นไม่ดี
เค้าตั้ง ข้อสมมติฐานมาเช่นนี้

สมมุติ
1. กระแสไฟที่เครื่องยนต์ & ส่วนต่างๆดึงไปใช้ ประมาณ 20 แอมป์เท่านั้น ..
2. ความต้านทานระหว่างสายกราวด์-ตัวถัง คือ 0.01 โอห์ม (ซึ่งน้อยมากๆ จนมิเตอร์ธรรมดาวัดไม่ขึ้น .. มันเป็นไปได้ เมื่อรถมาใหม่ๆ แต่พอใช้ไปนานๆ ตรงนี้เปลี่ยนเป็น 0.05 โอห์ม ซึ่งก็เป็นไปได้ สบายๆเช่นกัน) .. แรงดัีนหายไป 1.0-2.5 volts ไฟที่เลี้ยงระบบจะเหลือแค่ 11.1-12.6v

.. ไฟที่จ่ายเข้าด้านคอยล์แรงต่ำ เป็นไฟที่มาจากแบต(หรือได้ชาร์จ) ไม่ใช่ไฟที่ผ่านการปรับระดับ (regulated) เหมือนที่จ่ายให้ ECU
สมมุติว่า ระบบสร้างไฟแรงสูง (จ่ายให้หัวเทียน) ทวีัแรงดันขึ้น 1,000 เท่า .. จาก 13.6 -> 13,600v .. พอที่จะสร้างอาร์คปลายหัวเทียน เพื่อจุดระเบิดได้สมบูรณ์ แต่ถ้าแรงดันลดเหลือ 12.6? แรงดันที่ปลายหัวเทียนเหลือ 12,600 .. พอไหม? น่าจะพอใช่ไหมครับ?

ปัญหาที่ซ่อนเร้นคือ ปกติเครื่องยนต์กินกระแสไฟแค่ 20A นั้น คำพูดนี้ มันไม่ครบถ้วนครับ คำเต็มๆคือ เครื่องยนต์กินกระแสไฟ เฉลี่ยแค่ 20A
แต่ช่วงที่ต้องมีแรงดันไฟสูงไปหัวเทียน จะมีการดึงกระแสมากเป็นช่วงๆ (pulse) กระแสไฟที่ดึงนั้น สูงได้ถึง 40-50A ครับ (ช่วงนี้สั้นมากๆ วัดเป็น millisecond)

นั่นหมายความว่า แรงดันไฟที่หัวเทียน อาจเหลือแค่ 10,000v (10kV) เท่านั้น แทนที่จะเป็น 13,600v ...
จากคุณ แมวเหมียวพุงป่อง http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/V3417919/V3417919.html


จาก ข้อสมมติฐาน คือว่า ถ้า สายดินไม่ดี ทำให้ แรงสปาร์คของหัวเทียนตก ครับ ทำให้เกิดการเผาใหม้ในลูกสูบค่อนข้างลำบาก แต่ก็ มีการแย้งนะครับ ไม่ได้ว่า มันจะทำ สายดินแล้วเครื่องรถท่านจะเทพ ขึ้นมาทันตาเห็น
จาก คุณ มะขามป้อม http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/V3417919/V3417919.html

Ground wire ..
ว่ากันตามตามหลักการเลยนะครับ ทำไมจะต้องมี
- พูดถึงเส้นขนาดเล็กๆที่ติดรถก่อน เพื่อให้กระแสไฟฟ้าไหล ได้ครบวงจรครับ คือจาก แบตขั้วนึง (สมมุติให้เป็น + ) ไหลผ่านโหลด แล้วไปครบวงจรที่ แบตอีกขั้วนึง (สมมุติเป็น - )
- เส้นใหญ่ขึ้น ถ้าพูดกันตามหลักการ การออกแบบจริงๆ .. ไม่น่าจะมีผลดีขึ้นกับระบบไฟต่างๆอย่างชัดเจน เนื่องจากการออกแบบ ได้มีการเผื่อไว้แล้ว ตามหลักวิศวกรศาสตร์
.. แต่รถยนต์ มันเคลื่อนที่ได้ มีการกระแทก ต่างๆมากหลาย ดังนั้นจุดต่อต่างๆ จะเกิดการหลวมได้ง่ายกว่า อุปกรณ์ที่อยู่กับที่ ทีนี้มาดูกันครับว่า ถ้ารถคุณต่อสาย GW เส้นใหญ่ เข้าไปแล้ว ผลที่ออกมา ดี - เหมือนเดิม หมายความว่าไง
อันนี้ต้องบอกก่อนครับ ว่าในรถอายุการใช้งานน้อยๆ เพิ่งออกรถมา ไม่น่าจะเห็นผลดีชัดเจน หรืออาจจะไม่เห็นผลดีอะไรเลยก็ได้
กับรถเก่า อายุการใช้งานเยอะๆ
- ติดไปแล้วดีขึ้นมาก .. หมายความว่า ระบบไฟฟ้าในรถคุณแย่ลงมาก มีจุดต่อที่หลวมหลายจุด ซึ่งดูง่ายๆว่าว่าจุดไหนแย่ ก็จุดที่ต่อ GW เข้าไปแล้วเห็นผลดีขึ้น น่ะแหละครับ
- ติดแล้วเห็นผลดีน้อย หรือ ไม่เห็นผลเลย .. ระบบไฟฟ้าในรถคุณยังสมบรูณ์อยู่ครับ จุดต่อต่างยังแน่นหนา มั่นคง เลยไม่จำเป็นต้องติดตั้ง GW เพิ่มเติม
แต่ผมอยากจะเตือนสักนิดครับ สำหรับผู้ที่คาดหวังว่ามันจะดีขึ้นมากมาย โดยเสียเงินซื้อในราคาแพง .. มันไม่คุ้มครับ แต่ถ้าทำเล่นสนุกๆดีครับ เพลินดี ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยนช์ด้วย
.. ลองคิดดูสักนิดครับ สายทางขั้วบวก ยังเส้นเล็กเท่าเดิม ไปเพิ่มขนาดสาย GW ให้ใหญ่กว่าตั้งไม่รู้กี่เท่า มันได้ผลอะไรครับ เช่น โหลดกินกระแส 5 A ทางผู้ผลิต ใช้สายที่ทนกระแสได้ 7 A ทั้ง + และ - ..แต่เรามาเปลี่ยนทางด้าน - ให้ทนกระแสได้ 20 A ได้อะไรเพิ่มขึ้นมาเปล่าครับ

ทีนี้ ในรถยนตร์ ที่เค้าเอามาเป็นประเด็นกันนี้นะครับ มีการติดตั้งเครื่องเสียงด้วย ก็เลยมีการแชร์ไฟสายดินกันระหว่างเครื่องและเครื่องเสียง ทีนี้ แล้ว มอเตอร์ไซค์ละ
โอกาสที่จะเกิดขึ้นได้กับมอเตอร์ไซค์ คือ แรงสั่นสะเทือน รวมไปถึง การเสียคุณภาพระหว่างการใช้งานครับ อาจทำให้ บางจุดหลวมได้ อาจทำให้สายไฟ มีการเกิดออกซิไดทำให้เกิดสนิมขึ้นได้เหมือนกัน ทำให้มีค่าต้านทานเพิ่ม
ซึ่ง ตัวอย่าง รึว่า การ Qoute คำพูดเบื้องต้นมาเพื่อ หากเราวางสมมติฐานว่า รถ และ มอเตอร์ไซค์ ไม่ต่างกัน นั้นหมายถึง การที่เราวิ่งไปๆ แล้วระบบไฟฟ้ามีรวน ระบบการจุดระเบิดไม่เหมาะสมโดยเฉพาะเครืองหัวฉีด ในส่วนของของคาร์บูเรเตอร์ น่าจะเกิดที่การจุดระเบิดอย่างเดียว

ในส่วนที่เราตั้งธงเอาไว้ ตั้งแต่ตอนแรก

1. เครื่องหัวฉีด จะ เดินเบาดีขึ้น?
ตอบ น่าจะเป็นไปได้ หากมีการลงสายดินไว้หลายจุด โดยเฉพาะที่เครื่อง เพราะเครื่องหัวฉีดเน้นระบบไฟมากกว่า อีกอย่างถ้าลงสายดินไว้น้อยจุด เกิดหลวมขึ้นมา ไม่มีจุดสำรอง จะทำให้เกิดปัญหาได้

2. จริงหรือที่เค้าว่า ทำให้กินน้ำมันน้อยลง?
ตอบ ถ้าเป็นไปตามสมมติฐาน ที่ แมวเหมียวพุงป่อง เค้าว่ามาเช่นนั้น แปลว่า การ สปาร์คของหัวเทียน ที่แรงกว่า รึว่า แรงปกตินั้นจะทำให้การจุดระเบิดดีขึ้น ไม่มีโอกาศ Miss Firing

3. ทำให้สตาร์ติดง่าย?
ตอบ อันนี้ผมว่า น่าจะขึ้นอยู่กับแรงดันของ แบตเตอร์รี่ ถ้าไม่รั่ว ไม่เสีย ไดไม่พัง ระบบทุกอย่างพร้อม ไม่น่ามีปัญหาครับ แต่ เค้าเน้นว่า สายดินทำให้ดีขึ้น ตรงนี้ ยังคงเป็นประเด็นกันต่อไป ว่าดียังไง ในเมืองมีคนค้านมาว่า เปลี่ยนแต่ สายดิน แล้ว สายขั้วบวกไม่เปลี่ยน มันจะทำให้แรงดันวิ่งดียังไง

4. สายเดิมๆ ติดรถมา กับสายที่เอามาทำให้ มันเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์หรือไม่
ตอบ. ถ้าเป็นรถที่ใช้นานๆ ก็สมควรที่จะเปลี่ยน รวมไปถึงดูแลรักษาแรงดันไฟ จนถึงจุดที่จะลงสายดิน

ส่วนเจ้าตัว Voltage Stabilizer คืออะไร คือชุดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ช่วยกรอง แรงดันไฟในย่านความถี่ต่างทำให้ไฟวิ่งราบเรียบสม่ำเสมอ
มีทั้งขายแบบทำมาให้แล้วกับแบบใช้ทำเอง

แบบ DIY
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ดังนี้
1. Cap 4700 uF 25 V 2 ตัว
2. Cap 2200 uF 25 V 2 ตัว
3. Cap 1000 uF 25 V 2 ตัว
4. Cap 470 uF 25 V 2 ตัว
5. Cap 0.1 uF 50 V 2 ตัว ราคาประมาณ 80 บาท
6. ขั้วฟิวส์ 2 ตัว ราคาประมาณ 2 บาท
7. แผ่นวงจรเอนกประสงค์ 1 แผ่น ราคาประมาณ 9 บาท
8. กล่องพลาสติก 1 กล่อง ราคาประมาณ 45 บาท
9. สายไฟแบต 8 มม. 1 เมตร ราคาประมาณ 35 บาท
10. หางปลา 4 ตัว ราคาประมาณ 20 บาท
รวมแล้วงบประมาณ 192 บาท อุปกรณ์ที่จำเป็นคงมีอยู่เท่านี้แต่ถ้าเอา R 100 โอห์ม มาต่อกับ LED หลัง ฟิวส์ เพื่อจะดูว่า ฟิวส์ขาดหรือเปล่า
อยู่ในกล่องแล้ว พร้อม Led

รูปประกอบ

 

แผงวงจร
 

รูป วงจรต่อเสร็จแล้ว
 

รูป หลังแผ่นปริ้น บัดกรี
 

ชุดสำเร็จ หน้าตาแบบนี้

ส่วนแบบที่มีขาย สนนราคา 650 ซึ่งผมจะไม่ลงให้ตรงนี้นะครับ เพราะว่าเดี๋ยวมันเหมือนโฆษณาแฝงเกินไป 555+
ที่เหลือ เมื่ออ่านเสร็จแล้ว ขอเชิญร่วมถกประเด็น สายดินกันครับ เพราะ ข้อมูลที่เกี่ยวกับ มอเตอร์ไซค์นั้นหายากและ มีน้อยจิงๆ ส่วนใหญ่เป็น รถยนตร์ทั้งสิ้น
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันจนตาลายครับ 555+

ผู้เรียบเรียง : คุณ Vrod raider
จากกระทู้ : http://www.hd-playground.com/joomla/index.php?option=com_smf&Itemid=26&topic=3383.0
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
http://www.fortuner-club.com/webboard/questions.asp?QID=24155
http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/V3417919/V3417919.html
http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/V3417919/V3417919.html
http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/V3417919/V3417919.html


 

Share   Like
Comments