A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Modify & Custom]
 
Vance & Hines Fuelpak: ทางออกสำหรับรถหัวฉีดที่ต้องการเปลี่ยนท่อใหม่
By HDP PR
DATE: 2011.03.07
VIEW: 2103
POST: 0

สำหรับรถที่ใช้คาร์บูเรเตอร์อย่างของผมหรือของหลายๆท่านนั้น การเปลี่ยนท่อแต่ละครั้ง เราทำกันแค่เพียงใส่ท่อใบใหม่ แล้วลองขี่ ถ้ามีอาการอย่างไร ก็ใช้ไขควงปรับจูนเอาตามต้องการ

แต่สำหรับรถ HD รุ่นใหม่ๆตั้งแต่ปี 1997 เป็นต้นมา เริ่มที่จะมีระบบเครื่องยนต์แบบหัวฉีดเข้ามาร่วมด้วย จนถึงปัจจุบันนี้ ระบบเครื่องยนต์ที่ใช้การจ่ายน้ำมันแบบคาร์บูเรเตอร์ได้หมดไปจากสายการผลิตของ Harley-Davidson เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลายมาเป็นระบบหัวฉีด ที่ใช้กล่องควบคุมอิเลคทรอนิคเป็นตัวจ่ายน้ำมัน คราวนี้เมื่อมีการปรับแต่งโดยการเปลี่ยนกรองอากาศ หรือระบบท่อไอเสีย ก็จะทำให้ส่วนผสมของน้ำมันและอากาศที่ถูกตั้งมาจากโรงงานไม่สัมพันธ์กับสิ่งที่ใส่เข้าไปใหม่ คราวนี้จะใช้แค่ไขควงอันเดียวก็คงจะไม่ได้

ทางแก้ที่ Vance & Hines ผู้ผลิตท่อไอเสียรายใหญ่ของอเมริกาที่นักบิดบ้านเรารู้จักกันดีทำออกมาจำหน่ายก็คือ Fuel Pak ซึ่งใช้งานง่ายใครๆก็สามารถจูนเองได้โดยไม่ต้องถึงมือช่าง โดยใช้วิธีการต่อกล่องควบคุมของ Fuel Pak พ่วงเข้าไปในระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันของ Harley แล้วทำการเซ็ทค่าที่เหมาะสมซึ่งถูกทดสอบมาจากโรงงานแล้วว่าใช้สำหรับเครื่องยนต์ขนาดไหน, รถปีอะไร, ท่อไอเสียของใคร

สำหรับตัวผมเองแล้ว ยังไม่มีโอกาสใช้รถแบบหัวฉีดกับเค้าซักที แล้วก็ยังไม่คิดที่จะหามาขี่เพราะเสียงที่ได้มันดังรัวจนไม่เหลือความเป็น HD แบบที่ผมชอบ แต่คราวนี้ได้มีโอกาสแตะเจ้า Fuel Pak ก็เนื่องมาจากเจ้าไปป์ไปเอา Dyna Street Bob มาใช้แล้วหาเรื่องเปลี่ยนท่อเป็น V&H Short Shots Staggered Black พร้อมกับกรองอากาศของ Kuryakyn Hi Five Black Cover ก็เลยถือเอารถคันนี้เป็นหนุทดลองไปในตัวซะเลย
ท่อไอเสีย Vance & Hines Short Shots Staggered Black ทำสีดำมาจากโรงงาน เข้ากับเครื่องสีดำของ Street Bob
กรองอากาศของ Kuryakyn Hi Five Black ทำสีดำมาจากโรงงานเหมือนกัน ถ้าเปลี่ยนท่อแล้วควรจะต้องเปลี่ยนกรองอากาศให้เป็น Hi-Flow
เครื่องมือที่ใช้ในครั้งนี้ มีแค่ไขควง ไว้ไขเบาะกับฝาปิด Fuel Pak แล้วก็ประแจ Torx กับประแจหกเหลี่ยม
หน้าตาของเจ้า Fuel Pak จะมีหัวปลั๊กต่อ 2 หัว สีดำ กับสีเทา
ก่อนอื่นเปิดเบาะขึ้นมาก่อนครับ แล้วก็ถอดกล่องที่อยู่ด้านซ้ายออก อย่าลืมปิดสวิทช์กุญแจกับกดปุ่ม Off Engine ให้เรียบร้อยด้วยนะครับ เดี๋ยวไฟเตือนเครื่องยนต์จะโชว์ขึ้นมา
เป้าหมายแรกของเราคือ น็อตหัว Torx 2 ตัวที่อยู่บนเฟรม กับน็อตหัวหกเหลี่ยมที่อยู่หลังตัวปลั๊กข้อมูล ให้ถอดปลั๊กข้อมูลออกแล้วจะเห็นเจ้าน็อตตัวนี้ครับ
ไขน็อตทั้ง 3 ตัวออกมา
หลังจากนั้นก็ปลดหัวปลั๊กสีเทาที่ติดอยู่กับกล่องออก แล้วดึงกล่องสีดำออกมาซักหน่อยให้มีช่องพอที่ลากสายหัวปลั๊กสีเทากลับขึ้นมาด้านบนเฟรม
หลังจากนั้นให้เอาปลั๊กสีเทาของ Fuel Pak ลอดเข้าไปแทนที่ ส่วนปลั๊กสีเทาเดิมที่เอาลอดขึ้นมาบนเฟรม ให้ต่อกับปลั๊กสีดำของ Fuel Pak แล้วเอาไปซ่อนอยู่ใต้กล่องสีดำ ต้องลองขยับหาตำแหน่งที่เหมาะสมครับ ถ้าคันไหนมีระบบกันขโมย ก็ต้องย้ายเจ้าระบบกันขโมยไปไว้ตำแหน่งอื่นแทน
หัวปลั๊กสีเทาของ Fuel Pak ที่ลอดลงมาด้านล่างให้ต่อเข้ากับกล่องสีดำ
ถ้าตำแหน่งสายถูกต้อง ก็จะไม่มีส่วนเกินใดๆ โผล่ขึ้นมาให้เห็น นอกซะจากตัวกล่อง Fuel Pak
ขันน็อต 3 ตัวกลับเข้าที่เดิม เจ้าตัวล่างอาจจะยากหน่อย เพราะมีหัวปลั๊กหนุนอยู่ด้านใน เสร็จแล้วก็ต่อหัวแจ๊กข้อมูลกลับเข้าตำแหน่งเดิมด้วยครับ
คราวนี้ก็พร้อมที่จะป้อนข้อมูลของเจ้า Fuel Pak แล้วครับ
เปิดฝาพลาสติกออก จะเห็นจอแสดงค่าด้านซ้าย 2 หลัก ด้านขวา 2 หลัก พร้อมปุ่มกดตั้งค่า
ถึงเวลาบิดกุญแจ และกดปุ่ม Engine ให้เป็น Run แล้วครับ สังเกตุดูว่า Fuel Pak จะมีไฟติดขึ้นเหมือนกัน ถ้าไม่มีต้องย้อนกลับไปดูใหม่ว่ามีขั้วต่อตรงไหนที่ไม่แน่นหรือเปล่า
ค่าที่จะใช้ตั้งกับ Fuel Pak จะมีมาให้ในเอกสารแนบที่อยู่ในกล่อง ให้เราดูว่ารถเราปีอะไร, เครื่องยนต์ขนาดเท่าไหร, กล่อง ECU มีการปรับแต่งหรือเปล่า, ใช้ท่อของอะไร, ไส้ท่อแบบไหน, กรองอากาศเป็นแบบ Hi-Flow หรือยัง แล้วเอาค่าที่ได้ไปเทียบเอาในตารางว่าต้องใช้หมายเลขอะไร แล้วจะได้ค่าที่สำหรับเซ็ตกับ Fuel Pak
เริ่มต้นตั้งค่าตามคู่มือที่มากับ Fuel Pak ตั้งแต่ Mode 1 จนไปถึง Mode 18 ในช่วงแรก
ใน Mode 19 ให้บิดคันเร่งจนสุด แล้วคืนกลับมาอยู่ในตำแหน่งปกติ จะเป็นการ Calibrate ให้ Fuel Pak รู้ว่ารถของคุณมีช่วงการบิดเท่าไหร่
หลังจากนั้นให้กระโดดมาดูที่ Mode 21 ลองดูว่าค่าของ Fuel Pak จะเป็น 0 ถ้าคันเร่งอยู่ในตำแหน่งเดินเบา เมื่อบิดคันเร่งไปประมาณครึ่งหนึ่ง ค่าที่ได้จะอยู่ประมาณ 50 และเมื่อบิดจนสุดจะได้ค่าอยู่ที่ 99 ถ้าไม่ได้ตามนี้ ให้กลับไปเซ็ตใหม่ที่ Mode 19 แล้วค่อยกลับมาเช็คดูอีกรอบที่ Mode 21
หลังจากนั้น ถ้ายังมีค่าที่จะต้องเซ็ตก็ให้ทำจนครบ แล้วปิดสวิทช์กุญแจ รอซัก 1 วินาที เปิดสวิทช์อีกครั้ง แล้วเช็คว่าค่าที่ใส่ไปอยู่ครบ
ปิดฝาครอบพลาสติก ใส่เบาะ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
หลังจากนั้นผมไม่ได้เอาออกไปลองด้วยตัวเอง แต่เห็นเจ้าไปป์ว่า อาการรอรอบจากเดิมที่เคยเป็น หายไป และหลังจากเอารถไปออกทริประยะประมาณ 300 กิโล กลับมาถึง ก็มารายงานว่ารถวิ่งดีขึ้นกว่าเดิมอีก ไม่รู้ว่าขี่จนชินหรือกล่องมันฉลาดขึ้นก็ไม่รู้

ลองไปค้นดูในเวปของ Fuel Pak เค้าอ้างว่ากล่องที่เค้าทำออกมาจะทำให้ส่วนผสมของน้ำมันกับอากาศได้สมดุลย์มากกว่าค่าที่ถูกตั้งมาจากโรงงานเสียอีก

วิธีการจูนของระบบหัวฉีดยังมีวิธีอื่นนอกจากเจ้ากล่อง Fuel Pak อีกครับ อย่างกล่อง Power Commander ที่ใช้การตั้งค่าตามความต้องการของผู้ใช้ หรือการนำรถไปเข้าศูนย์บริการของ Harley เพื่อทำการ Re-map ค่าของกล่อง ECU ให้เหมาะกับของแต่งที่ใส่เข้าไปเพิ่ม ซึ่งน่าจะเหมาะกับรถที่ทำการแต่งข้ามไปถึง Stage ถัดๆไปแล้ว

ถ้าเพื่อนๆท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล่องแต่งอันนี้หรืออันอื่น รบกวนนำข้อมูลมาร่วมแบ่งปันกันนะครับ หรือถ้ามีโอกาสได้ทำการโมดิฟายรถแล้วอยากจะเผยแพร่เทคนิคให้ท่านอื่นๆได้รับทราบ สามารถส่งภาพและเขียนข้อมูลประกอบส่งมาได้เลยครับ ทาง HDP จะทำการเรียบเรียงให้ และนำลงเผยแพร่โดยลงเครดิตให้กับผู้ที่จัดส่งมาให้ครับ

 

Share   Like
Comments