Harley Davidson Playground Forum
General Talk => Trip Talk => ข้อความที่เริ่มโดย: home stay ที่ มิถุนายน 15, 2015, 03:56:18 PM
-
Alaska & Yukon Trip 2015
เป็นการเดินทางที่เคยวางแผนมานานแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เพราะอุปสรรคเยอะพอควร
และในที่สุด ตอนช่วงๆเย็น วันเสาร์ที่ 13 มิย. 58 ตามเวลาท้องถิ่น .. ผมก็มาถึงเมือง Homer รัฐ Alaska
ด้วย HARLEY DAVIDSON .. Heritage Softail ..
:have a nice day:
-
12 มิย. 58
ตอนสายๆ มารับรถ ที่ MOTOQUEST ( อยู่ติดกับศูนย์ฯ House of Harley Davidson)
เมือง Anchorage รัฐ Alaska
-
แบกเป้ มาขึ้นเครื่อง ทำตัวเป็น backpacker
บินกับ korean air และ alaska airline
ทรานสิท 2 ที่ คือ เกาหลีใต้ กับ เมืองซีแอทเทิ่ล
ใช้เวลาเดินทาง 23 ชม. ก็ถึงที่หมาย สนามบินเมือง anchorage รัฐ Alaska
-
แล้วก็ขี่รถเล่นรอบๆเมือง Anchorage
อลาสก้าหน้าร้อน อากาศเย็นสบาย ใบไม้เขียวสด ดอกไม้ออกดอก
บนยอดเขาน้ำแข็งยังละลายไม่หมด
-
ไปขี่รถเล่น บนยอดเขา แถวๆ hatcher pass เพื่อสัมผัสความเย็น
-
หลังจากเริ่มคุ้นชินกับรถแล้ว ก็ได้เวลาออกร่อน
เอาเป้ backpacker ที่แบกมาจากเมืองไทยไปติดตั้งที่รถ .. แค่นี้ก็พร้อมเดินทางแล้ว
-
รถก็สวย คนขับก็เท่ห์
ไฮไลท์บอล คู่เด็ด ทุกคู่ ทุกแมต ไม่พลาด ได้ที่นี่ livescore (https://livescore.buaksib.com)
-
นับถือครับ เป็นการเดินทางที่ไม่เคยทำให้ผู้ติดตาม(เรื่องราว)ผิดหวังเลย :yuush:
-
น่าไปนะครับ :graffiti:
-
ขอบคุณครับ ..
การเดินทางแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ
ช่วงแรก (13-14 มิย. 58) เป็นการเดินทาง ไปตามเส้นทาง Anchorage-Homer-Seward-Anchorage ดังรูป
-
การเดินทางช่วงแรกนี้ ผมมีไกด์ท้องถิ่นครับ เป็นสามีของเพื่อนตั้งแต่สมัยมหาลัย ขี่ไปด้วย
ไปกัน 2 คน 2 คัน
อีกคันคือ BMW GS1150 ปี 2003
รูปนี้ถ่ายที่หน้าบ้านเค้าครับ
-
แล้วเราก็ออกเดินทาง ขี่รถเลียบทะเล ป่า และภูเขา ของ คาบสมุทรเคนาย (kenai peninsula)
แดดจัด อากาศเย็นสบาย
-
จุดจอดชมวิวเยอะมาก แวะไปเรื่อยเปื่อย
ตามยอดเขา หิมะกับน้ำแข็งยังละลายไม่หมด
-
แวะรับประทานอาหารเที่ยงแถวๆ cooper landing .. ร้าน kingfisher ครับ
นั่งชมวิวทะเลสาป kenai ไปด้วยเลย
-
มาชมเขากวางมูส แถวๆเมือง soldotna
-
แวะข้างทางไปเรื่อยๆ
-
มาเยี่ยมชมหมู่บ้าน ninilchik
เป็นหมู่บ้านชาวประมงรัสเซีย ก่อตั้งมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยอลาสก้ายังไม่ได้ขายให้อเมริกา
-
ในที่สุด ตอนเย็นๆวันเสาร์ 13 มิย. 58
เราก็มาถึง เมือง homer
มาขี่รถเล่นที่ homer spit
-
คืนนี้ค้างที่นี่ครับ
-
คืนนี้ กางเต๊นท์นอนที่นี่
ที่นี่เป็น RV Park และ Campground ครับ
เต๊นท์ กับ ถุงนอน ผมแบกข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเมืองไทย
อากาศหนาวพอควร
-
ตื่นตอนสาย เราไปต่อ มุ่งหน้าเมือง seward
-
มาชมวิวที่ท่าเรือครับ
ป้ายห้ามจอดตัวเบ้อเร่อ .. แต่ไกด์ท้องถิ่นของผมบอกว่า มอเตอร์ไซค์จอดได้
-
แล้วก็กลับมา anchorage มาบ้านที่ eagle river
เป็นอันจบทริปช่วงแรก แต่เพียงเท่านี้
-
และจากเช้าวันนี้ 15 มิย. 58
จะเป็นการออกบินเดี่ยว บินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก
ไปถึงไหนก็ได้ (วางแผนไว้แล้ว)
แต่ต้องกลับมาขึ้นเครื่องบินที่ anchorage เพื่อกลับเมืองไทย ตอน 21:00 น. ของวันที่ 20 มิย. 58
-
:yuush: เป็นกำลังใจลุยๆๆๆต่อไปครับพี่หมอโก้
-
:yuush: เป็นกำลังใจลุยๆๆๆต่อไปครับพี่หมอโก้
ขอบคุณครับ วันนี้ขี่ๆจอดๆครับ
เพราะแวะถ่ายรูปบ่อย
พรุ่งนี้จะบุกแคนาดาครับ
-
ขอบคุณครับที่เอาภาพบรรยากาศสวยๆ ประสบการณ์ดีๆมากฝาก (น่าอิจฉาจัง) ขอให้เที่ยวให้สนุกเดินทางปลอดภัยครับ
-
สุดยอดเลยครับพี่
-
ชอบๆๆมากๆ ครับพี่หมอ :grin:
-
ขอบคุณทุกท่านครับ
เดินทางต่อครับ ใกล้ tok เข้าไปทุกที
-
ในที่สุด ผมก็มาถึง tok และเข้าพักที่ snow shoes motel
-
เช้าวีนที่ 16 มิย. 58
ออกเดินทางต่อ มุ่งหน้าแคนาดา
ทริปนี้ ผมไม่มี GPS มาด้วย แต่ว่าเส้นทางที่ อลาสก้า+ยูค่อน รวมถึงตัวเมืองต่างๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน
ไปได้เรื่อยๆแบบไม่มีหลงทาง
-
ใกล้แคนาดาเข้าไปทุกทีๆ
-
แวะไปเรื่อยเปื่อย
-
เส้นทางที่ผมใช้เดินทางเข้าแคนาดา
คือ ถนน alaska highway (หรืออีกชื่อ alcan highway , alcan มาจากคำว่า alaska+canada)
หลักไมลส์ที่ 0 อยู่ที่ เมือง dawson creek รัฐ british columbia
ไปสิ้นสุดที่เมือง delta junction รัฐอลาสก้า ที่หลักไมลส์ที่ 1,387
ตรงที่ผมจอดคือ หลักไมลส์ ที่ 1,234
จอดเพราะเลขสวย และ มันมีไฟป่าข้างทาง
-
:grin: :grin:
อัพเดตก่อนใคร ทุกคู่ ทุกการแข่งขัน livescore 7m (https://7m.buaksib.com)
-
:gangs:..........................................เยี่ยมเลยครับพี่โก้!
-
ขี่มาเรื่อยๆ ผ่านด่าน ตม. อเมริกาเลย ไม่ต้องแวะ
จนผ่านเส้นเขตแดนอเมริกาและแคนาดา
แวะจอดที่ป้าย รัฐยูค่อน
-
เข้าแคนาดาแล้ว เค้าไม่ใช้ไมลส์แล้ว .. เค้าใช้กิโลเมตร
-
ขี่ต่ออีกสักพัก จะเจอด่าน ตม. แคนาดา
ใช้เวลาประมาณสองนาทีก็เรียบร้อย
แวะจอดถ่ายรูปหลังผ่านด่าน ตม. แคนาดา
-
:yuush: สุดยอดเลยครับพี่ ขอบคุณที่แบ่งปัน
-
:yuush: สุดยอดเลยครับพี่ ขอบคุณที่แบ่งปัน
ขอบคุณครับ
การเดินทางในแคนาดา มีอุปสรรคครับ ถนนมีการซ่อมบำรุง ผิวการจราจรไม่ค่อยดี
ต้องจอดรอ pilot car เป็นระยะๆ
ในประเทศเค้า ต้องขี่รถตามหลัง pilot car ในกรณีที่ต้องเดินทางผ่านช่วงที่มีการซ่อมบำรุงถนน
2 ชม. ผ่านไป เดินทางไปได้ไม่ถึง 30 กม. (ระยะทางที่เค้าประกาศว่าจะมีการซ่อมผิวถนน คือ ระยะทาง ประมาณ 130 กม.)
-
ต้องจอดเป็นระยะ แล้วรอๆๆๆๆ
ผมเลยยกเลิกการขี่รถร่อนในรัฐ Yukon ประเทศแคนาดา
จุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้คือ ศูนย์ Harley Davidson ที่เมือง whitehorse เมืองหลวงของรัฐ Yukon
จากจุดนี้ ผมไม่ได้ไปต่อครับ ย้อนกลับเข้าอเมริกาครับ
-
แวะพักตรูด ที่ แคนาดา ก่อนเดินทางกลับเข้าอเมริกา
-
ตอนขี่ขาออกจากแคนาดา มีฝนครับ
ใส่ชุดกันฝนลุยมาเลยครับ
-
จะกลับเข้าอเมริกาครับ .. ต่อแถวรอเข้าด่านครับ
-
ต่อนะครับ
หลังจากยกเลิกทริป Yukon ประเทศแคนาดาแล้ว
ผมย้อนกลับเข้าอเมริกา
ขี่ผ่านพรมแดน USA-Canada ได้พักใหญ่ฝนหยุด
วันนี้ (16 มิย. 58) ผมมุ่งหน้า fairbank ครับ ไกลพอควร
-
ถึง delta junction แล้ว
สิ้นสุด alaska highway ที่เมืองนี้ครับ
-
แวะพัก เติมน้ำมัน ดื่มน้ำ แล้วไปต่อ
วันนี้ (16 มิย. 58) ต้องไปให้ถึง fairbank
-
เยี่ยมยอด. จริงๆ ครับผม
-
เยี่ยมยอด. จริงๆ ครับผม
ขอบคุณครับ
ออกจาก delta junction ผมมุ่งหน้า fairbank
แต่ก่อนจะถึง fairbank ต้องผ่าน North Pole ก่อนครับ
-
แวะพักที่ north pole สักครู่
ตอนนี้เวลาประมาณ 2 ทุ่ม แต่ยังสว่างอยู่เลย
-
มา north pole แล้ว ต้องมาเยี่ยมบ้านลุงซานต้า
-
ในที่สุด ตอนดึกๆวันอังคารที่ 16 มิย. 2558 ผมก็มาถึง fairbank
เข้าพักที่ รร.นี้ครับ
-
หลังกินข้าวเช้า วันพุธที่ 17 มิย. 58
แวะมา shopping ที่ Harley Davidson แฟร์แบ๊งค์ ก่อนออกเดินทาง มุ่งหน้าอุทยานแห่งชาติ denali
-
จากนั้นก็ออกเดินทางต่อ
จุดหมายปลายทางของวันนี้ยังไม่ชัดเจน แต่ที่แน่ๆต้องไปอุทยานแห่งชาติ denali
ออกจากแฟร์แบ๊งค์ ได้ไม่นานแวะพักที่นี่ครับ มีของที่ระลึกแปลกๆขาย
-
เท่าที่ขี่รถร่อนในอลาสก้า ผมพบว่ารัฐนี้มีถนนที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองส่วนใหญ่เป็นแบบ ถนน 2 เลนวิ่งสวนกัน (มีไหล่ทาง)
ส่วนถนนที่เชื่อมต่อระหว่างเมือง ที่เป็นแบบ super highway (คือ มีช่องจราจรข้างละ 3-6 ช่อง มีเกาะกลาง) น่าจะมีระยะทางรวมทั้งรัฐไม่น่าเกิน 120 ไมลส์
ซึ่งน่าจะมีแค่ 3 ช่วงคือ ออกจากเมือง Anchorage ไปทางเหนือ กับทางใต้ และอีกช่วงคือ จากเมืองแฟร์แบ๊งค์ ผ่านเมือง north pole ไปยัง ฐานทัพอากาศ Alaska
การสร้างถนนคงจะประเมินจากปริมาณยวดยานพาหนะ ที่มีค่อนข้างน้อย
การมาขี่รถที่นี่ lส่วนใหญ่ขี่ในเขตอุทยาน ป่าล้วนๆ ใช้ความเร็วได้ไม่มาก ขี่เร็วเกินก็เสี่ยงกับการชนกวางชนหมี
รูปนี้แวะพักระหว่างทางครับ
-
เหมือนอยู่บนเส้นทางสายเปลี่ยว .. แทบไม่มีผู้ร่วมใช้เส้นทาง
-
แวะเข้าไปขี่รถเล่นในอุทยานแห่งชาติเดนาลีมาด้วย ขี่จนสุดทาง 17 ไมลส์ครับ
-
เข้าเรื่องวิชาการแป๊ปนึงนะครับ
มีคนถามว่า "ราคาน้ำมันเป็นไงมั่ง"
ผมขอชี้แจงแบบนี้นะครับ
ราคาขายน้ำมันเบนซิน เกรดพรีเมี่ยม ที่อลาสก้า
เค้าขาย 3.75 usd ต่อ 1 gallon
1 gallon = 3.8 ลิตร
1 usd = 33 บาท
ราคาน้ำมัน 1 gallon เท่ากับ 124 บาท ....
สรุปคือ ที่อลาสก้า ขายน้ำมันเบนซินเกรดพรีเมี่ยม 32.6 บาท / ลิตร
-
ที่อะลาสก้า ถนนช่วง อุทยานแห่งชาติเดนาลี-ทางแยกเข้าเมือง talkeetna มีการก่อสร้างเป็นระยะ
จอดรอรถนำทาง pilot car แต่ละรอบนานมากๆ เค้าคงทำงานกันทั้งคืน (มั้ง)
ภาพนี้ถ่ายตอน 3 ทุ่มเศษๆ ยังไม่มืด มาเที่ยวดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืนก็ดีแบบนี้ครับ ขี่รถได้ยันเที่ยงคืน
มีของอยู่ในถุงพลาสติกสีขาว ที่ผูกอยู่ท้ายรถ .. เดี๋ยวผมจะมาเฉลยว่ามันคืออะไร
-
เกือบๆ 5 ทุ่ม 17 มิย. 58
ถึงเมือง (หมู่บ้าน ?? ) trapper creek
จากตรงนี้ไม่ไกลจะถึงทางแยกเข้าเมือง talkeetna (แยกจากถนนใหญ่ คือ Park Highway เข้าไปอีก 15 ไมลส์)
ที่เมือง trapper creek นี้มีโรงแรมและ camperground 2-3 แห่ง แต่รีเซฟชั่นปิดแล้ว ติดต่อใครไม่ได้
ถ้าจะกางเต๊นท์ก็ได้ จ่ายตังค์ตอนเช้า
แต่สภาพภูมิประเทศน่าจะมีหมีมากมาย ผมเลยหยุดไม่ได้ มุ่งหน้าต่อ ไปหาโรงแรมนอนที่ talkeetna น่าจะปลอดภัยกว่า
-
ของในถุงพลาสติกสีขาว มันคือ ผัดไทย กับ ไก่ทอด
ซื้อมาจากร้านอาหารไทย แถวๆทางเข้าอุทยานแห่งชาติเดนาลี ตั้งแต่ตอนบ่ายๆ
เป็นร้านของคนไทย เป็นคนไทยกลุ่มที่ 2 ที่ผมเจอ (กลุ่มแรกเจอตอนเช้าวันเดียวกันนี้แหละ ที่ร้านอาหารไทยในเมือง fairbank)
ร้านนี้มีลูกค้าฝรั่งแวะมากินพอสมควร
หน้าตาและรสชาตของผัดไทย ผมว่ามัน ออกแนวๆ เส้นจันท์ผัดผักรวมมากกว่า
กินไม่หมด เลยต้องห่อมากินกลางทาง
-
ในที่สุด การมาหาที่พัก ในเมือง talkeetna ของผมก็ประสบความสำเร็จ
ได้ห้องพักที่ รร. นี้ ตอน 5 ทุ่มกว่าๆ
.. คืนนี้ ปลอดภัย ไร้หมี แน่นอน .. ^^
-
ที่อะลาสก้า ช่วงหน้าร้อน หลีงเที่ยงคืนจะไม่มืดสนิท แต่บรรยากาศมันจะโพล้เพล้อยู่แบบนั้น
จนกระทั่ง ประมาณตี 3 ครึ่ง พระอาทิตย์จะเริ่มกลับมา
พอประมาณตี 5 ก็เริ่มสว่างเหมือน 7 โมงเช้าบ้านเราแล้ว
หลังจากพักผ่อนอย่างเพียงพอ ตอน 9 โมงเช้า ผมก็ออกสำรวจเมือง talkeetna
-
ที่อะลาสก้า เวลาเช๊กเอ๊าท์ของ โรงแรม คือ 11:00 น.
มีเวลาร่อนในเมืองอีกเกือบๆ 2 ชม. .. รถไฟสีสวยจัง อยากขึ้นไปลองนั่งดูบ้าง
.. ไม่น่าเชื่อเลยว่าวันรุ่งขึ้น ผมได้ขึ้นไปนั่งรถไฟ alaska หัวรถและโบกี้สีเดียวกันเลย (นั่งฟรีด้วยนะ)
คิดหวังสิ่งใดๆ เป็นจริงและสมปราถนาตลอดเลย .. แล้วจะเล่าให้ฟังนะครับ
-
ตอนสายๆเริ่มหิว ขี่รถร่อนไปเกือบทั่วเมือง .. ทำไมไม่เจอร้านขายโจ๊ก ก๋วยจั๊บ หรือ ต้มเลือดหมูเลย (วะ) ครับ
-
แล้วก็มาเดินเล่นที่ริมน้ำ ( Talkeetna -river park )
-
มาชมวิวริมน้ำ ฉากหลังคือ ยอดเขา McKinley
-
เมืองนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะพอควร
โรงแรม , รีสอร์ท , โมเต็ล หรือ RV & Camperground หลายเจ้า
ร้านอาหาร คลับ บาร์ สวนอาหาร หลายร้าน
มีสนามบินบก และสนามบินน้ำ หลายแห่ง
หลายคนมาที่นี่เพื่อนั่งเครื่องบินชมวิวยอดเขา McKinley
ผมขอแอบๆมองยอดเขา McKinley อย่างห่างๆแบบนี้ดีกว่า .. ไม่อยากไปเสียวบนท้องฟ้า.. ^^
-
บ๊ายบาย ยอดเขา McKinley
บ๊ายบาย เมือง Talkeetna
-
ประมาณ 11 โมงเช้าวันพฤหัสฯ 18 มิย. 58 ล้อเริ่มหมุน
ผมออกเดินทางจาก talkeetna มุ่งหน้า เมือง Whittier .. ตามแผนที่ครับ
-
สุดยอดครับ
-
จาก talkeetna มุ่งหน้า whittier
แวะพักกินไอติมระหว่างทาง ที่เมืองเล็กๆชื่อ houston
ระหว่างทางมีไฟป่า มีบ้านคนถูกไฟไหม้ รถดับเพลิงเปิดไซเรนวิ่งกันไปมา
ต้องจอดหยุดเป็นช่วงๆเพื่อให้รถดับเพลิงวิ่งผ่าน
เห็นป้ายริมถนนข้างทางบอกว่า ที่อะลาสก้าช่วงหน้าร้อน จะแห้งแล้งมาก สาเหตุส่วนใหญ่ของไฟป่าเกิดจากฟ้าผ่า
-
สุดยอดครับ
ขอบคุณมากๆครับ
เมนูไอติมครับ สั่งได้เลย .. อร่อยทุกอย่าง .. ^^
อยากรู้ช่วงหน้าหนาวจะขายดีเหมือนช่วงหน้าร้อนมั้ย .. ??
-
จาก talkeetna มาได้ประมาณ 70 กว่าไมลส์ ก็จะมาถึงเมือง wasilla
เมืองนี้มีศูนย์ harley davidson ด้วย
อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 3 ( Park Highway )
สายๆวันจันทร์ที่ 15 มิย. 58 ผมออกเดินทางจาก เมือง anchorage
ณ ตอนนี้ (ตอนบ่ายๆ วันพฤหัสบดีที่ 18 มิย. 58) จากจุดนี้ ห่างจากเมือง anchorage แค่ 30 กว่าไมลส์เท่านั้นเอง .. ^^
-
อย่างที่แจ้งให้ทราบแต่แรก ทริปนี้ไม่มี GPS ขี่ตามป้ายไปเรื่อยเปื่อย
พอกลับมาถึงเมือง anchorage หาทางไป seward highway ไม่เจอ ต้องจอดกางแผนที่ ที่ delaney park
ทุกครั้งที่หลงทาง ผมจะขี่รถไปเรื่อยๆ วนมาวนไปใน downtown แล้วก็จะมาจบด้วยการกางแผนที่ ที่ delaney park ทุกครั้ง
-
ในที่สุดก็เดินทางต่อ แวะจอดชมวิวริมทาง
-
เนื่องจากเส้นทาง Anchorage ไป Whittier เป็นเส้นทางที่เพิ่งจะวางแผน หลังจากทริป Yukon {Canada} ไม่ประสบความสำเร็จ
จากการศึกษาเส้นทาง คือ วิ่งไปตามเส้นทาง seward highway และแยกเข้า portage valley
ก่อนจะถึง whittier พบว่า มีช่วงนึงต้องเสียค่าผ่านทาง ... ผมเลยงง ไม่เข้าใจว่าแถวๆนั้นมันคืออะไร (วงกลมสีแดง)
แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เป้าหมายมีไว้พุ่งชนครับ
-
วงกลมสีแดงที่วงไว้มันคือ อุโมงค์ที่เจาะทะลุภูเขา มาโผล่ที่ whittier
ชื่ออุโมงค์ Anton Anderson memorial tunnel
ตรงดิ่ง ยาว 2.5 ไมลส์ มี 1 เลน วิ่งได้ทีละเลน เป็นทั้งถนนปกติและรางรถไฟ
มีตารางทิศทางการเดินรถชัดเจน รถเมล์ รถบรรทุกวิ่งได้หมด
ค่าผ่านทางพิเศษสำหรับมอเตอร์ไซค์ คือ 12 usd
บรรยากาศภายในอุโมงค์ เย็น+ชื้นมากๆ .. ^^
-
ในที่สุดผมก็มาถึง whittier
เมืองนี้สวยมากๆ มีแต่มุมน่าไปถ่ายรูป ^^
-
นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ มาเพื่อขึ้นเรือเพื่อชมความงามของ Prince William sound
มาชมสารพัดสัตว์ทะเล เช่น แมวน้ำ สิงโตทะเล เพนกวิน ปลาวาฬ นกหลากหลายพันธ์ ฯลฯ
-
มาแบบมั่วๆ โรงแรมก็ไม่ได้จอง
เมืองมันสวยจนต้องค้างคืน ... ในที่สุดก็เจอโรงแรม
-
บรรยากาศรอบๆโรงแรม
-
เมืองเล็กที่สะอาดและเงียบสงบ
ได้พักที่โรงแรมริมทะเล
ท่ามกลางวิวภูเขา 360 องศา
อากาศเย็นฉ่ำ ไม่หนาวเกิน ...
-
ขี่รถรับลมหนาวที whittier
ใส่เสื้อแขนยาวตัวเดียวร่อนไปรอบๆเมือง
-
ใกล้เที่ยงคืนแล้ว (คืน 18 มิย. 2015) .. นอนดีกว่า
ตื่นเช้าจะไปขี่รถเล่นอีกหนึ่งรอบ :have a nice day:
ถ่ายจากระเบียงห้อง ธงสีน้ำเงินที่เห็นคือ ธงประจำรัฐ alaska
-
ตื่นเช้า (19 June 2015) ออกมาขี่รถร่อน
ได้นั่งรถไฟฟรีด้วย ... :secret laugh:
-
สภาพปากอุโมงค์ anton anderson memorial tunnel
ต้องรอให้ จนท.อนุญาต ถึงจะเข้าไปได้ครับ
-
จนท. ที่ควบคุมการจราจรในอุโมงค์ แวะมาพูดคุยทักทาย ระหว่างรอเรียกเข้าอุโมงค์
หน้าตาคล้ายๆเรานี่แหละครับ แต่แกเป็นคนพื้นเมืองอลาสก้า (alaskan native)
-
เมื่อคืน ถ้า รร.เต็ม จะมากางเต๊นท์นอนแถวๆนี้แหละ
มีซุงมีฟืนพร้อมเลยนะเนี่ย .. ^^
-
แถวๆนี้ ไม่น่าจะมีหมี ปลอดภัยกับการกางเต๊นท์
-
หลังจากร่ำลาเมือง whittier ก็ขี่รถผ่านอุโมงค์ anton anderson ออกมาที่ปากทาง
และขี่รถร่อนแถวๆ ที่เรียกว่า Portage valley
-
ที่ Portage valley อากาศเย็นฉ่ำ
-
หุบเขานี้ มีแต่วิวสวยๆ
-
แบกเป้-เต๊นท์-ถุงนอน ข้ามน้ำข้ามทะเล เอามามัดท้ายเบาะมอเตอร์ไซค์
แล้วออกผจญภัย .. 8 วันนี่มันสั้นมากๆ
-
ที่ลานจอดรถ มีก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่มากๆ ลอยไปลอยมา
-
จากนั้นผมก็มาที่นี่ครับ ....
AWCC [Alaska Wildlife Conservation Center]
-
มาดูกวาง ..
-
มาดู มู๊ส
-
มาดู หมี
-
มาดู มัสค์ อ๊อก (musk ox)
-
มาดูควาย (..ป่าไบซัน)
-
สถานที่นี้ อยู่ริม seward highway
หาง่าย มาไม่ยาก ค่าเข้าชม 12.5 USD
เหมาะกับการพักผ่อนเดินตากลมชมวิวเขามากๆ
มีชัตเติ้ลบัสบริการรับส่งตามจุด
แต่ก็สามารถเดินได้โดยรอบ แต่ละกรงที่่ขังสัตว์ไม่ไกลกันมากเกินไป
-
หลงรัก อะลาสก้า ....
-
เพลิดเพลินตลอดเส้นทาง
บินเดี่ยวจากเมืองไทย มาบินเดี่ยวที่อะลาสก้า แต่ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
-
จากนี้ ผมมุ่งหน้ากลับ anchorage
คืนนี้ (19 มิย. 58 ) ผมจะค้างคืนในตัวเมือง
ระหว่างทางขากลับ เลยแว้บมาขี่รถร่อนที่ Alyeska resort
ที่นี่ ช่วงหน้าหนาวเป็นลานสกี ช่วงหน้าร้อนเป็นสนามให้ปั่นจักรยานดาวน์ฮิลล์
-
แวะมาร่อนทอง .. ^^
-
ถึง anchorage ตอนเย็นๆวันที่ 19 มิย. 58
หลังจากเช๊กอินเข้าโรงแรม ผมก็ออกขี่รถชมเมือง
แวะมากินข้าวและช๊อปปิ้ง ที่ hardrock cafe เมือง anchorage
-
จากนั้นก็แวะมาทำบุญที่วัดอลาสก้าญาณวราราม
-
มาไหว้พระ และทำบุญ
-
วัดนี้มีพระ (รวมเจ้าอาวาส) 3 รูป
ก่อนจะกลับ หลวงพ่อออกมาส่ง และเอาน้ำดื่มมาให้ 1 ขวด ^^
-
ขี่ไปไหนก็ไม่พ้นเขตอุทยานแห่งชาติ
-
มาหน้าร้อน มองไปทางไหนก็เขียวสด
ถ้ามีโอกาสได้มา alaska อีกรอบ จะมาฤดูใบไม้ร่วง จะมาดูใบไม้เปลี่ยนสี
-
เช้าวันที่ 20 มิย. 58
ตื่นแต่เช้า ขี่รถเล่น มาดู รถหัวจักรทะลวงหิมะ [Rotary Snow Plow]
-
หลังจากขี่รถร่อนช่วงเช้าวันที่ 20 มิย. 58
เวลาประมาณ 10:30 น. ผมก็มาถึง motoquest
มาส่งรถคืนตามกำหนด เป็นอันสิ้นสุดทริปขี่รถร่อน 8 วันเต็ม
motoquest อยู่ใกล้ house of harley davidson มากๆ
คืนรถเสร็จ ก็เดินไปช๊อปปิ้งต่อครับ
-
หลังจากรับรถแล้วขี่ไปได้ประมาณ 40 กว่าไมลส์
นึกได้ว่า ต้องวัดระยะทางที่ขี่ในทริปนี้ เลขที่ออกคือ 2230 + 40 ไมลส์
คิดเป็น 3,600 กว่า กม.
-
นี่คือเส้นทาง 3,600 กว่า กม. ที่ harley davidson พาผมร่อนเร่ไปครับ
-
ขอบคุณ motoquest มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
-
จากนั้นผมก็เก็บข้าวเก็บของ ยัดเต๊นท์ ยัดถุงนอน ยัดหมวกกันน๊อก ยัดของฝาก ลงเป้ แล้วเดินทางไปสนามบิน Ted Steven เมือง Anchorage รัฐ Alaska
เพื่อบินกลับเมืองไทย เป็นอันจบทริป แบกเป้มาขี่รถร่อนที่ alaska & yukon ครับ
-
กระทู้ยาวนิดนึง แต่ก็จบแล้วนะครับ :TT TT:
ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมนะครับ
เดินทางไกลใกล้ ปลอดภัยทุกเส้นทางนะครับ
-
:gangs: สวยสดจบแบบเนียนครับ
-
สุดจิง ผมติดตามพี่ขับในเมกามา 3 ทริปละมีโอกาศคงใด้ไปกับพี่สักครั้ง
-
:gangs: สวยสดจบแบบเนียนครับ
ขอบคุณมากครับ .. ^^
-
สุดจิง ผมติดตามพี่ขับในเมกามา 3 ทริปละมีโอกาศคงใด้ไปกับพี่สักครั้ง
ขอบคุณที่ติดตามผลงานครับ
ปีหน้ามั้ยครับ .. Bonneville Salt Flat รัฐ Utah สหรัฐอเมริกา
บินลง LA แล้วขี่รถร่อนไปเรื่อยๆ จนขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยที่ Seattle
(ผมไปดูลาดเลา ที่ ซีแอ๊ตเติ้ล มาแล้ว .. ขี่ได้ยัน แวนคูเวอร์ แคนาดาครับ ^^ )
-
สุดยอด :have a nice day:
-
:yuush: :yuush: :yuush:
-
หลังจากที่หายเหนื่อยจาก ทริป Alaska-Yukon เมื่อเดือน มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา
ก็เลยนั่งดูตั๋วเรือบินเล่นๆ จากนั้นก็ตามมาด้วยการจองรถกับ Eagle Rider
สรุปคือ 29 ตค. 58 ถึง 6 พย. 58 นี้ (8 วัน) จะบินเดี่ยวอีกครั้ง ครั้งนี้จะไปขี่รถร่อนทางฝั่ง east coast บ้าง
โดยเริ่มต้นจาก New York มุ่งหน้าสู่รัฐ Nova Scotia [Canada]
วัน Halloween ปีนี้ (31 ตค. 58) จะไปค้างคืนที่นั่น จองโรงแรมที่ Halifax [Nova Scotia] ไว้แล้ว
ส่วนแผนเดินทางหลังจากนั้น ( 1-6 พย. 58 ) ยังไม่ชัดเจน ... :)
ส่วน plan สำหรับปีหน้า คือการขี่ไป Bonneville salt flat ที่รัฐ Utah ช่วง summer ยังคงอยู่ ... ;)