Harley Davidson Playground Forum
General Talk => Vehicle Talk => ข้อความที่เริ่มโดย: oatty ที่ กรกฎาคม 04, 2009, 03:33:24 PM
-
คือ คิดไม่ตกครับ รถคาบูร์ก็ดูแลง่ายดี เรื่องสั่นไม่ค่อยเป็นปัญหา แต่ปีก็จะเก่าหน่อย ถ้าจะวิ่งเยอะก็กลัวจะไม่ค่อยสมบูรณ์
ถ้าจะเปลี่ยนเป็นปีใหม่ๆก็จะกลายเป็นหัวฉีด ก็กลัวว่าจะดูแลยาก ยิ่งถ้ารถไม่ค่อยได้วิ่งจะไปกันใหญ่ คราวนี้ดูแลเองก็ไม่ได้
เลยไม่รู้จะทำยังไงดีครับ พี่ๆเพื่อนๆมีประสพการณ์กันยังไงบ้างครับหลังเปลี่ยนไปแล้ว หรือเปลี่ยนไปแล้วเปลี่ยนกลับมาคาบูร์เหมือนเดิมรึเปล่า รบกวนด้วยนะครับ :D
-
มีผมคิดมากอยู่คนเดียวเลยเหรอครับเนี่ย เหอะๆ ???
-
ผมก็ไม่มีประสพการณ์เรื่องรถหัวฉีดเลยคับพี่โอ๊ตเห็นหัวฉีดปีใหม่ๆแล้วน่าขับเป็นบ้าเลยสวยๆทั้งนั้น eyeopoping แต่แอบๆกลัวว่าเวลาออกทริปเนี่ยถ้ามันเสียนี่มีหวังต้องยกขึ้นรถอย่างเดียวเลย ถ้าเป็นคาบูร์เนี่ยยังพอถูไถหาที่ซ่อมได้อยู่อ่ะ คับ ambulance
-
ขอบคุณโน ขอบคุณหลุยส์ครับ อาจจะโดนขู่มาเยอะมั๊งครับว่าถ้ารถหัวฉีดไม่ค่อยได้ขี่จะจุกจิกมาก เดี๋ยวจะเหมือนคัน BMW เดิมที่เคยขี่ จอดนาน พอจะเอาออกทีก็ต้องเรียกรถมายกไปล้างหัวฉัดที
แต่ถ้าเป็นคาร์บูเนี่ย ล้างหน่อยก็ฉลุยไปได้แล้ว แต่อย่างที่หลุยส์ว่าครับ รถใหม่ๆมันยั่วยวนจริงๆ
-
ผมก้อใช้อยู่คับ อย่าคิดมากคับมันคงไม่เสียง่ายๆหรอกคับ ถึงเสียก้อมีร้านซ่อมเยอะแยะ ในกรุงเทพน่ะ ;D
ผมชอบความเร็ว บอกได้คำเดียวว่าไม่ผิดหวังเลยคับที่มาเล่นหัวฉีด นานาจิตตังน่ะคับ thumbsup police
(http://i525.photobucket.com/albums/cc331/cops_2008/P1010475.jpg)
-
ขอบคุณครับพี่ฉ่อง ไว้ไปชุมพรคงต้องขอแวะไปขอคำปรึกษาพี่บ้างนะครับ ญาติๆอยู่ชุมพรกันหลายคนเลย
-
ขอบคุณครับพี่ฉ่อง ไว้ไปชุมพรคงต้องขอแวะไปขอคำปรึกษาพี่บ้างนะครับ ญาติๆอยู่ชุมพรกันหลายคนเลย
ยินดีต้อนรับคับ police
-
number1 หัวฉีดขี่เร็วก็สนุกดีครับ แต่อารมณ์ในการขี่ก็น้อยลงไปหน่อยครับ ส่วนการบำรุงรักษาก็ไม่ยากหรอกครับพอๆกับคาร์บูนั่นแหละ ;D handshake
-
หามาใช้ทั้งคาร์บูและหัวฉีดเลยคับพี่โอ๊ต...ผมเองกะจะเก็บคาร์บูไว้ซักคันเพราะต่อไปมันจะหายากขึ้นเรื่อยๆแล้วและก็หาซื้อหัวฉีดไว้ขี่ด้วยอีกซักคัน thumbsup
-
ไอเดียดีมากเลยครับหลุยส์ แต่ท่าทางจะลำบากกระเป๋าพอสมควรเลย แต่ก็น่าสนเนอะ....
-
;D ;D ;Dผมชอบ...นมหนู ครับ. ;D ;D ;D
-
คือ คิดไม่ตกครับ รถคาบูร์ก็ดูแลง่ายดี เรื่องสั่นไม่ค่อยเป็นปัญหา แต่ปีก็จะเก่าหน่อย ถ้าจะวิ่งเยอะก็กลัวจะไม่ค่อยสมบูรณ์
ถ้าจะเปลี่ยนเป็นปีใหม่ๆก็จะกลายเป็นหัวฉีด ก็กลัวว่าจะดูแลยาก ยิ่งถ้ารถไม่ค่อยได้วิ่งจะไปกันใหญ่ คราวนี้ดูแลเองก็ไม่ได้
เลยไม่รู้จะทำยังไงดีครับ พี่ๆเพื่อนๆมีประสพการณ์กันยังไงบ้างครับหลังเปลี่ยนไปแล้ว หรือเปลี่ยนไปแล้วเปลี่ยนกลับมาคาบูร์เหมือนเดิมรึเปล่า รบกวนด้วยนะครับ :D
number1 มันไม่เห็นจะยุ่งยากอะไรเลย เรียนรู้ที่จะอยู่มันก็เท่านั้นเอง ถ้าจะจอดทิ้งไว้นานๆก็หาน้ำมันสะอาดๆเติมให้เต็มถังไว้ ป้องกันกันถ้งเป็นสนิมไว้ก่อน แล้วหมั่นสตาร์ทอุ่นเครืองซักหน่อยก็ไม่น่าจะเจอปัญหา อยากจะขี่รุ่นใหม่ๆก็ต้องทำใจกับเสียงรัวๆของมันไปครับ ผมนี่จอมแอนตี้หัวฉีดเลย แต่ไม่อาจจะฝืนความจริงไปได้ 555....กัวอะไรกะหัวฉีดเจ๊ง เปลี่ยนแปลงระบบแม่งเป็นคาบูฯก็ยังได้ไม่กี่ตังครับ พรรคพวกผมเปลี่ยนข้ามสายพันธุ์กันมาหลายตัวแล้ว กับไอ้เสียง ดับ...ดับ...ดับ...จะดับ...ไม่ดับ...นี่อ่ะ อิอิ....
แล้วขับมันส์ไม๊ครับพี่สุดเดชเจ้าcross boneน่ะ ;D
-
มันก็เป็นความชอบส่วนบุคคลนะครับ ส่วนใหญ่สำหรับ harley biker จะเคยชินกับ Carb ,แต่ว่าโลกมันหมุนทุกวัน
harley ก็จำเป็นต้องพัฒนาตามนโยบายการผลิตรถประเทศเค้า ส่วนข้อดีข้อเสียการใช้งานมันก็มีทั้ง 2 อย่าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองด้วยครับ
รถ carb มันเป็นระบบเก่าที่การจ่ายน้ำมันขึ้นกับปัจจัยหลายๆอย่างของเครื่องไม่ว่าเรื่องอุณหภูมิ อากาศ ในแต่ละช่วง RPM เวลาปรับจูนมันต้องฝีมือกันนิดนึงครับ
ที่ว่าน้ำมันหนาบ้าง บางบ้าง รูปแบบการจูนหรือ jetting มันก็ต้องเป็นแบบๆเฉพาะไป ที่ต้องทำเป็น set เลยใน CV , ทั้งยังเวลาเครื่องเย็นๆก็ต้อง chock น้ำมัน ต้อง
warm รออีกซักพักนึงเพราะขี่ไปเลยมันก็คงวอดดับ แต่ข้อดีมันคือเรื่องการดูแลรักษาเพราะมันเป็นรถไม่มีสมอง การทำงานของระบบอื่นๆมันแยกกันหมดขึ้นอยู่กับเราว่าจะดูแลให้มัน
ทำงานร่วมกันได้ดีขนาดไหนอ่ะครับ
ถ้าเป็นรถ EFI มันจะมีกล่อง ECU ควบคุมระบบอิเล็คทุกอย่างของรถ แสนรู้ไปหมด ค่าการจ่ายน้ำมันกำหนดได้เสร็จสรรพตามโปรแกรมที่ map ไว้อยู่ ผมชอบตรงมันไม่ต้อง chock
เองเวลาเครื่องเย็น ระบบมันจะช่วยเร่งน้ำมัน , RPM จะโดดขึ้นไปแล้วปรับลงอัตโนมัติเวลาเครื่องร้อน อัตตราดึงคันเร่งที่ตอบสนองได้ดีมั่นคงทุกรอบมันสุดๆจริงๆ เหมาะสำหรับเอา
ไป race , ยิ่งเวลาปรับแต่งเปลี่ยนท่อ ที่จะต้องทำคู่กันกับการการ โปรแกรมค่าน้ำมันในกล่องใหม่ ให้จ่ายน้ำมันเยอะขึ้น ที่สำคัญมากคืออากาศที่เข้าไปก็ต้อง flow มากขึ้นจนพอดีกับน้ำมัน , แต่รถ EFI ที่ขี่บ้านเราจะเจอปัญหาจริงๆก็ overheat ตอนขี่มาร้อนๆ แล้วมาเจอรถติดๆ นี่เล่นดับเอาดื้อๆเลย แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาที่รุนแรงอะไรครับ
การดูแลทั้ง 2 ระบบก็ไม่มีไรมากหรอกครับ carb ถ้าไม่ติดเครื่องมันก็ตัน หัวฉีดก็ต้องติดเครื่องให้น้ำมันหมุนเวียน รักษา fuel pump , พวก o-ring ท่อน้ำมันก็จะได้ไม่เสื่อม เพราะน้ำมันจะรั่วได้ ที่สำคัญอย่าปล่อยให้น้ำมันเน่าคาถัง ไม่งั้นอุปกรณ์ในถังจะพังแน่นอน
รถหัวฉีด harley ส่วนใหญ่เค้าจะมีการโปรแกรมน้ำมันในกล่องอยู่ 2 แบบครับ คือ chip กล่องเลย กับใส่อุปกรณ์พ่วงเข้าไปในยุคแรกของ harley EFI ปี 96-01 จะใช้ระบบของ Magneti-Marelli ก่อนจะมาเป็น Delphi ในปัจจุบัน
แต่สรุปว่าก็นานาจิตตังครับ อารมณ์คลาสสิค carb ก็มีซักคัน แล้วก็มีหัวฉีดอีกคันไว้บิดได้มันส์ๆ ;D
-
ขอบคุณสำหรับความรู้และประสพการณ์ของทุกๆคนเลยครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีแรง ต้านกระแสโลกหมุนไม่ค่อยจะอยู่ frustrated
ตอนนี้กำลังเสาะหารถถูกใจและถูกกับกระเป๋าอยู่ครับ ไม่ค่อยรีบร้อน เพราะก็ยังรักคันเดิมอยู่ อยากเก็บไว้ทั้งคู่ แต่คงจะยังไม่ถึงเวลา มันค่อนข้างเกินตัวไปสำหรับตอนนี้ถ้ามีสองคัน surrender
นอกเรื่อง : วันนี้เครียดกับงานจัง อยากขี่รถเล่น อิอิ เลิกคิดเรื่องงานมาคิดเรื่องรถต่อดีกว่า ignore
-
แล้วเรื่อง ของระบบไฟเนี้ย ถ้าแบตมีปัญหาหรือเริ่มมีอาการ จะมีการส่งผลกระทบกับระบบหัวฉีดหรือเปล่า ผมสงสัยนะ ของผมกำลังเป็นอยู่ ขี่ดีๆเพลิน ดับเฉยๆ
เรียนถามผู้รู้ อีกซักครั้ง
-
พี่โอ๊ด ได้ฟังพี่ๆเหลาเรื่อง EFIแล้ว ตัดสินใจยังไงคุยกันได้นะครับ ควบหัวฉีดสักคันแล้วจะรู้ถึงความแรงที่ติดมือ number1
555... สงสัยต้องเจอะกันแน่ๆครับโน แต่จะเป็นคันไหนนี่อีกที
-
แล้วเรื่อง ของระบบไฟเนี้ย ถ้าแบตมีปัญหาหรือเริ่มมีอาการ จะมีการส่งผลกระทบกับระบบหัวฉีดหรือเปล่า ผมสงสัยนะ ของผมกำลังเป็นอยู่ ขี่ดีๆเพลิน ดับเฉยๆ
เรียนถามผู้รู้ อีกซักครั้ง
คาบูร์ก็เป็นนะพี่ท้ง แบตเรื่อมเสื่อม ขั้วแบตหลวม ขั้วเป็นหนิมกิน ดับเฉยเลย