พลังงานทางเลือกเป็นอีกหนึ่งกระแสที่มาแรงที่สุด ณ ช่วงเวลานี้ ซึ่งวงการมอเตอร์ไซค์ก็ได้ขานรับกระแสนิยมนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ทั้งยังค่อยๆเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นยานยนต์สองล้อแต่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็ยังมีความแตกต่างจากมอเตอร์ไซค์ที่เหล่านักขี่คุ้นเคยอยู่พอสมควร ซึ่งหากนักขี่คนไหนกำลังพิจารณามอเตอร์ไซค์พลังไฟฟ้ามาใช้งานก็ทำความเข้าใจกับมอเตอร์ไซค์พลังงานทางเลือกนี้สักเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างทั้งด้านการใช้งานหรือเชื้อเพลิง (พลังงาน)
กระแสความแรงของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าถือว่าร้อนแรงแบบสุดๆ ถึงขั้นที่การแข่ง MotoGP ประกาศเพิ่มซีรีส์การแข่งมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในฤดูกาล 2019 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่แบรนด์ดังอย่าง Harley-Davidson ก็เดินหน้าพัฒนา Project LiveWire อย่างต่อเนื่องและยังมีคู่แข่งอย่าง Emflux ONE มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสไตล์สปอร์ตจาก Indian Motorcycle ที่จวนเจียนจะเปิดตัวใน Australia ในเร็วๆนี้ รวมถึงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าความเร็วสูงสุดเฉียดๆ 360 km/h จาก Zero Motorcycles ที่จ่อยึดพื้นที่ตลาดอี-ไบค์อยู่ ณ เวลานี้คือสิ่งตอกย้ำความร้อนแรงของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันราคาของมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้กลับค่อยๆต่ำลงทั้งที่การขยายฐานจากเดิมที่มีเพียงแค่สกู๊ตเตอร์และสปอร์ตไบค์ไปสู่มอเตอร์ไซค์รูปแบบอื่นๆอีกด้วย
Emflux ONE จาก Indian Motorcycle
ซึ่งความเข้าใจเดิมๆเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าคือผู้ใช้งานมักเข้าใจว่าไม่ควรใช้งานจนพลังงานใกล้หมดแล้วค่อยทำการชาร์จเนื่องจากจะต้องใช้เวลาในการชาร์จค่อนข้างนาน และผู้ใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าหลายคนเลือกที่จะต่อชาร์จพลังทุกครั้งที่กลับถึงบ้านหรือที่ทำงาน
BMW C evolution scooter
เรื่องของอายุการใช้งาน
แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาไปไกลจนถึงผู้ผลิตสามารถลดระยะเวลาการชาร์จลงได้กว่าครึ่งหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้ใช้งานอีกหลายคนที่พบว่าแบตเตอรี่ Lithium ที่ใช้นั้นมีความทนทานกว่าที่ระบุเอาไว้ เนื่องจากการชาร์จอย่างสม่ำเสมอและถูกต้องตามคำแนะนำ ซึ่งแบตเตอรี่ Lithium จะมีรอบการชาร์จที่สมบูรณ์อยู่ที่ประมาณ 1000 รอบ หากทำการชาร์จจาก 0 ไปจนถึง 100% แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ใช้งานหลายคนทำการชาร์จแบบ Trickle หรือชาร์จเพิ่มเติมทุกๆครั้งที่กลับถึงบ้านอยู่ ซึ่งความจริงแล้วแบตเตอรี่สามารถเพิ่มรอบการชาร์จขึ้นเป็น 20000 รอบได้ หากมีทำการชาร์จเพียง 80 – 90% และทำการรีชาร์จเพียง 10 – 20% ในแต่ละครั้ง และการวิ่งด้วยระยะ 80-90 กิโลเมตรก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวันแล้ว ส่วนปัจจัยในการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ Lithium คืออุณหภูมิทั้งการเก็บรักษาในที่เย็น และการควบคุมอุณหภูมิในการใช้งาน
รัฐบาลของหลายประเทศเริ่มหันมาพิจารณาในการลงทุนกับอุสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับผู้ซื้อผู้ใช้งานแล้ว เช่นตั้งจุดบริการชาร์จพลังงานสาธารณะ รวมถึงแคมเปญ Charge together โดย Evenergi ในประเทศออสเตรเลียเพื่อระบุตัวตนรวมถึงสร้างสังคมของผู้ใช้งานไปพร้อมกับการทำวิจัยเพื่อช่วยให้เข้าใจถึงปัญหาในการใช้งาน ซึ่งผู้เข้าร่วมแคมเปญนี้จะรับระบบที่จะคำนวณและเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการใช้งานแต่ละครั้งรวมถึงค่าใช้จ่าในการบำรุงรักษายานยนต์พลังงานไฟฟ้ามาใช้งาน โดยระบบดังกล่าวจะทำหน้าที่เก็บข้อมูลเพื่อสร้างฐานข้อมูลและเครื่องมือออนไลน์ที่จะนำไปใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาเครื่องมือการที่จะนำไปใช้ควบคู่กับพลังงานในรูปแบบอื่นๆสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเช่น แผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนตัวรถต่อไป
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... motorbikewriter.com