ความนิยมของ Indian Scout 101 ที่ถือว่าเป็นมอเตอร์ไซค์อีกโมเดลหนึ่งที่ได้รับความนิยมที่สูงมากๆทั้งทั่วอเมริกาและทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งาน หรือในฐานะรถแข่งประเภท flat track, hillclimbing, circuit, beach racing, และ American street racing แบบดั้งเดิมนั้นสูงจนสามารถเป้นมอเตอร์ไซค์อเมริกันไอคอนของ ณ ช่วงเวลานั้นก็อาจจะไม่ผิดนัก กระทั่งมรสุมของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำก็มาเยือนสหรัฐอเมริกาในปี 1929 ซึ่งเป็นผลให้ Scout 101 มีอันต้องปิดตำนานลงในปี 1931 ซึ่งแนวคิดในการฝ่าวิกฤตในครั้งนี้คือการตัดพาร์ทที่ไม่จำเป็นรวมถึงพาร์ทที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่างทิ้งไปเพื่อลดต้นทุน ทำให้เกิดเป็น Scout รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบขึ้นมาในช่วงเวลานั้นซึ่งจะกันเรียกว่า Standard Scout โดยใช้เฟรมตัวเดียวกับโมเดลที่ใหญ่กว่าอย่าง Indian Chief
หากแต่ยอดขายของ Standard Scout กลับไม่กระเตื้องเท่าที่ควร เนื่องจากการใช้ตัวเฟรมที่มีน้ำหนักมาก จึงต้องมีการพัฒนาโมเดลใหม่ซึ่งมีน้ำหนักของเฟรมที่เบาลงและเปิดตัวในชื่อ Sport Scout พร้อมติดตั้งช่วงหน้า girder รวมถึงนำคาร์บูเรเตอร์ Schebler มาใช้งานร่วมกับลูกสูบอัลลอย แม้ว่าจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 175 กิโลกรัมมากกว่า Scout 101 ที่หนัก 168 กิโลกรัมไม่มากนัก แต่กลับติดตั้งเครื่องยนต์ที่ทรงพลังยิ่งกว่า และยังควบคุมรถได้ง่ายกว่าโมเดลยอดนิยมที่ถูกยุติการผลิตไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตำนานนักแข่งมอเตอร์ไซค์อย่าง Ed Kretz ได้ควบ Sport Scout คว้าชัยในการแข่งขัน Daytona 200 บนสนามแข่งความยาว 3.2 ไมล์กับเส้นทางการแข่งขันรอบเกาะDaytona กว่า 57 รอบ ซึ่งถือเป็นการกลับมาคว้าชัยชนะรายการใหญ่ของ Indian เป็นครั้งแรก และการชัยชนะครั้งนี้เองก็ทำให้ความนิยมของ Sport Scout พุ่งสูงขึ้น และก็ตามมาด้วยชัยชนะอีกหลายรายการทั่วอเมริการวมไปถึงในการแข่งขันที่ New Zealand, Australia, และ South Africa ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปี 1940 ถือเป็นปีสำคัญของ Indian Sport Scout เพราะเป็นปีที่ Indian ได้เพิ่มสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้กับโมเดลนี้อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นบังโคลนทั้งหน้าและหลัง รวมถึงเบาะหนังสปริงที่ถูกปรับให้ต่ำลงและเพิ่มมุม rake ให้กับช่วงหน้า ติดตั้งระบบเกียร์ชิฟเตอร์ที่ฝั่งขวามือเข้ากัยกล่องเกียร์ 3 สปีด และ braced handlebar
ติดตั้งแตรสัญญาณเอาไว้เหนือไฟหน้า ส่วนฟุตบอร์ดมีขนาดกำลังดี ขยับขึ้นมาที่เรือนไมล์ถูกฝังเอาไว้บนถังเชื้อเพลิงตามสไตล์ของมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตในปี 1940 โดยมอเตอร์ไซค์สุดคลาสสิคคันที่อยู่ในภาพนี้ก็ผ่านการ Restore ให้กลับมาอยู่ในสภาพดั้งเดิมที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งที่ตัวเลขลำดับบนเฟรมก็คือ 6402711 และยังคงถูกนำออกมาขี่อย่างสม่ำเสมอ
------ เรียบเรียงโดย HD-Playground ที่มา... silodrome.com