การปรับแต่งมอเตอร์ไซค์เป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ และการปรับแต่งก็จะมีทั้งเพิ่มความเร็วและเพื่อความสวยงาม ซึ่งเหล่านักขี่จะนิยมเลือกเสริมที่สมรรถนะของรถเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการเพิ่มสมรรถนะให้กับมอเตอร์ไซค์ก็ทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน firmware หัวฉีดเชื้อเพลิง หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนเพลาข้อเหวี่ยง แต่ก่อนที่จะข้ามไปถึงการทำอย่างไรก็ลองมาดูกันหน่อยดีกว่าว่า “ทำไม” นักขี่หลายๆคนต้องการที่จะเพิ่มความเร็วให้กับมอเตอร์ไซค์คู่ใจกัน
เหตุผลที่ 1 ความรักที่เข้าขั้นคลั่งไคล้ในความเร็ว ความสุขที่เกิดจากสารอะดรีนาลีนสูบฉีดไปทั่วร่างกายขณะที่ขี่ด้วยความเร็วสูงนี่แหละ คือเหตุผลที่หลักเหล่านักขี่ต้องการเพิ่มสมรรถนะให้กับมอเตอร์ไซค์
เหตุผลที่ 2 สำหรับเหล่านักขี่สายลุยที่ชอบความสนุกบนทางดิน แน่นอนว่ามอเตอร์ไซค์ที่ขี่ลุยไปบนพื้นถนนที่มีความหลากหลายจะต้องอาศัยเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะมากพอแล้วต้องการความเร็วที่เหลือเฟือในยามที่ขี่บนทางดำด้วย
ซึ่งที่กล่าวมาคือเหตุผลง่ายว่าทำไมนักขี่ส่วนใหญ่ต้องการเพิ่มสมรรถนะให้กับมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง แน่นอนว่าการเพิ่มสมรรถนะนั้นทำได้หลากหลายวิธี แต่ก็ยังมีอีก 4 วิธีที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องรื้อต้องถอดชิ้นส่วนมากมายให้ซับซ้อนดังต่อไปนี้
เปลี่ยน Air intake
วิธีนี้ถือว่าง่ายที่สุดและประหยัดที่สุดวิธีหนึ่ง ซึ่งจะสามารถเพิ่มอากาศหมุ่นเวียนที่เข้าสู่เครื่องยนต์ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นเลยทีเดียว แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้อากาศเข้าไปผสมกับเชื้อเพลิงมากเกินไปได้อยู่เช่นกัน ดังนั้นจึงต้องมีการปรับคาร์บูเรเตอร์และพาร์ทอื่นๆอีกเล็กน้อยให้เกิดสมดุลด้วยจึงจะทำให้เครื่องยนต์สามารถแสดงสมรรถนะสูงสุดได้
ปรับแต่งกระบวนการจุดระเบิด
เป็นวิธีที่ยุ่งยากขึ้นมาอีกนิด สำหรับการปรับแต่งกระบวนการสร้างพลังงานสปาร์คจากการผสมระหว่างอากาศกับเชื้อเพลิงภายในกระบอกสูบของเครื่องยนต์
ส่วนประกอบหลักของระบบนี้ประกอบด้วยคอยล์จุดระเบิด ตัวควบคุมคอยล์ distributor สายหัวเทียนและหัวเทียน หากตัวมุมควบคุมการจุดระเบิดแคบเกินไป ตัวเลือกที่ดีที่สุดจะเปลี่ยนไปหรือเพียงแค่เลือกใช้หัวเทียนที่ดีกว่าเดิม
การปรับจูนคาร์บูเรเตอร์
เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดนการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับมอเตอร์ไซค์โดยที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนพาร์ทให้วุ่นวาย เริ่มจากการขี่วอร์มเครื่องยนต์ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นมองหาสกรูน้ำมันเชื้อเพลิง / อากาศที่มีหน้าที่ในการปรับแต่งอัตราส่วนในการผสมอากาศเข้ากับเชื้อเพลิง หรือ Idle screw ที่เป็นตัวตั้งค่า rpm ของเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ 2 จังหวะจะมีสกรูอากาศอยู่ที่คาร์บูเรเตอร์ด้านนอกเครื่องยนต์ ส่วนเครื่องยนต์ 4 จังหวะจะมีสกรูเชื้อเพลิงอยู่ที่คาร์บูเรเตอร์แต่ใกล้กับเครื่องยนต์ ส่วน Idle screw อยู่ใกล้กับสายคันเร่งและสามารถปรับได้ไม่ยาก
ปรับสกรูเชื้อเพลิงตามเข็มนาฬิกาให้ลดการผสมเชื้อเพลิงเล็กน้อยและหมุนทวนเข็มนาฬิกาให้มีส่วนผสมมากขึ้น ปรับสกรูอากาศตามเข็มนาฬิกาให้อากาศเข้าได้เต็มที่และหมุนทวนเข็มนาฬิกาเพื่อลดส่วนผสมของอากาศให้ลดลง ปรับ Idle screw ให้เครื่องยนต์มีรอบเครื่องยนต์อยู่ที่ 3000 rpm ปรับสกรูอากาศ/เชื้อเพลิงให้ lean ที่หรือให้มีอากาศเข้าเยอะที่สุดโดยปรับให้มีส่วนผสมกับเชื้อเพลิงที่น้อยที่สุดและปรับลดค่า rpm ลง โดยที่การปรับ lean เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์จะไม่สำลักขณะที่กำลังปรับ Idle screw
ค่อยๆปรับสกรูเชื้อเพลิงทวนเข็มนาฬิกา ซึ่งจะทำให้ค่า rpm เพิ่มอย่างช้าๆและคงที่ จากนั้นค่อยๆปรับให้มีการทำงานอย่างเต็มรูปแบบ และค่อยๆปรับค่าสกรูอากาศ/เชื้อเพลิงให้เข้มข้นขึ้น ค่อยปรับซ้ำๆประมาณไม่กี่ครั้งจนเครื่องยนต์ทำงานคงที่และสมดุล จากนั้นปรับลด Idle screw จนอ่านค่าได้ประมาณ 1100 rpm เปิดคันเร่งเมื่อเครื่องยนต์ทำงานช้าลง ซึ่งจะสังเกตเห็นความแตกต่างในการตอบสนองได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว ลองดับเครื่องและสตาร์ทอีกครั้ง ซึ่งหากสามารถสตาร์ตได้ในครั้งแรกโดยที่ไม่ต้องเปิดคันเร่งเป็นอันใช้ได้ ลองขี่และตรวจความเรียบร้อยของแต่ละเกียร์โดยสังเกตจากเสียงเครื่องยนต์และการตอบสนอง ซึ่งขั้นตอนนี้จะบอกให้รู้ว่าเครื่องยนต์ต้องการการปรับจูนเพิ่มเติมหรือไม่
เปลี่ยนท่อไอเสีย
การเปลี่ยนท่อไอเสียนั้นให้ผลสองอย่าง คือเพิ่มสมรรถนะและเพิ่มความสวยงามที่งรูปลักษณ์และเสียง โดยทั่วไปแล้วจะมีสองวิธีให้พิจารณากันคือจะเลือกเปลี่ยนท่อไอเสียทั้งระบบ หรือจะเลือกเปลี่ยนใช้ปลายท่อแบบสลิปออนก็ได้ โดยการเปลี่ยนท่อไอเสียทั้งระบบจะช่วยเพิ่มกำลังให้เครื่องยนต์ได้อย่างเต็มกำลัง ส่วนท่อแบบสลิปออนนั้นจะได้รับความนิยมมากกว่า แม้จะเพิ่มอัตรเร่งได้น้อยกว่าแต่จะให้เสียงหวานๆที่นุ่มนวลกว่า
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... rediff.com