ในการใช้ร่างกายใช้แรงไม่ว่าจะเป็นวิ่ง ยกน้ำหนัก หรือทำกิจกรรมต่างๆก็จะต้องมีการยืดเส้นยืดสายวอร์มกล้ามเนื้อให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ซึ่งบรรดานักนักแข่งระดับอาชีพเองก่อนจะทำการซ้อมและแข่งขันก็จะทำแบบนี้ทุกครั้ง ดังนั้นมาทำความรู้จักกับประโยชน์ของมันกันหน่อยดีกว่าว่าการเตรียมร่างกายให้พร้อมใช้งานทั้งก่อนและหลังจากการขี่มอเตอร์ไซค์นั้นเป็นอย่างไร และทำแบบไหน
1. Wrist extensor Stretch
การดัดข้อมือนี้เป็นการยืดเส้นคลายความตึงที่ช่วงบนของแขนท่อนล่างซึ่งเกิดจากการขี่มอเตอร์ไซค์ระยะทางไกลๆและบรรเทาอาการอาร์มปั๊มป์ โดยเริ่มจากการเหยียดแขนออกไปข้างหน้าให้ตึงคว่ำฝ่ามือลงและพับนิ้วโป้ง จากนั้นใช้มืออีกข้างหนึ่งกำรวบฝ่ามือเอาไว้หลวมๆ พับฝ่ามือเข้าตัวแล้วจึงค่อยๆดันแขนข้างที่เหยียดตึงไปข้างหน้าพร้อมกับดึงมืออีกข้างเข้าหาตัวอย่างโดยให้เพิ่มน้ำหนักขึ้นทีละน้อยจนรู้สึกตึงแล้วค้างเอาไว้ประมาณ 30 วินาทีค่อยปล่อย ทำสลับกันไปมาข้างละสองถึงสามครั้ง
2. Wrist Flexor Stretch
ท่านี้จะคล้ายกับแบบแรกแต่ท่านี้จะเน้นไปที่การยืดกล้ามเนื้อ Flexor ที่อยู่ด้านในของแขนท่อนล่าง โดยเริ่มจากการเหยียดแขนออกไปข้างหน้าให้ตึง จากนั้นใช้มืออีกข้างหนึ่งกำรวบปลายนิ้วทั้งสี่เอาไว้หลวมๆ พับข้อมือขึ้นพร้อมดันแขนข้างที่เหยียดตึงไปข้างหน้าพร้อมกับดึงมืออีกข้างเข้าหาตัวอย่างโดยให้เพิ่มน้ำหนักขึ้นทีละน้อยจนรู้สึกตึงแล้วค้างเอาไว้ประมาณ 30 วินาทีจึงปล่อย ทำสลับกันไปมาข้างละสองถึงสามครั้ง
ที่นี้ให้ยืนปล่อยตัวตามสบายๆแขนแนบข้างลำตัว กำมือชี้นิ้วโป้งไปข้างหน้า จากนั้นค่อยหมุนท่อนแขนให้นิ้วโป้งชี้ไปด้านข้างพร้อมกับยืดอกไปข้างหน้าจนสุดแล้วค่อยๆหมุนแขนกลับพร้อมปรับลำตัวให้กลับมาอยู่ในท่าปกติตามเดิม ซึ่งท่านี้จะช่วยบรรเทาอาการตึงของช่วงไหล่
ท่านี้จะสามารถยืนหรือเลือกนอนลงกับพื้นก็ได้ โดยให้ยกขาขึ้นพับหัวเข่าแล้วใช้แขนทั้งสองข้างรวบเอาไว้บริเวณใต้หัวเขา จากนั้นดันขาข้างนั้นออกไปข้างหน้าโดยให้แขนทั้งสองข้างพยายามฝืนค้างเอาไว้ประมาณ 30 วินาทีจึงปล่อย ทำสลับกันไปมาข้างละสองถึงสามครั้ง
ท่านี้เป็นแบบมาตรฐาน โดยให้ยืนตัวตรงจากนั้นงอเข่าไปด้านหลัง ใช้มือข้างเดียวกันจับเอาไว้บริเวณหน้าเท้าหรือข้อเท้าออกแรงดึงเท้าให้มาชิดสะโพกเท่าที่ทำได้ค้างไว้ 30 วินาทีทำสลับกันไปมาข้างละสองถึงสามครั้ง
6. Wide Lunges
สำหรับท่านี้จะต้องใช้พื้นที่กว้างพอที่จะยืดแขนและขาออกไปด้วนข้างได้เต็มที่ โดยเริ่มจากยืนกางขาข้างหนึ่งออกไปด้านข้าง กางแขนออกไปข้างลำตัว ย่อเข่าอีกข้างลงพร้อมหันปลายเท้าออกด้านข้างลงช้าๆ จนข้อมือและข้อเท้าอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกัน จากนั้นก็ยืดตัวกลับสู่ท่าเดิม ทำสลับข้างกันไปมาข้างละห้าถึงเจ็ดครั้ง
7. Deep Squat
ท่านี้ให้ยืนกางขาพอประมาณกะให้กว้างกว่าช่วงไหล่พร้อมหันปลายเท้าออกทำมุมประมาณ 45 องศา จากนั้นย่อตัวจนต้นขาขนานกับพื้นพร้อมกับวางมือเอาไว้ที่บริเวณเหนือหัวเข่า โน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมบิดหัวไหล่สลับกันไปมาทั้งซ้ายและขวา โดยท่านี้จะเป็นช่วยยืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านใน กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและส่วนกลางไปพร้อมๆกัน
ท่านี้ให้นอนราบลงกับพื้นงอเข่าทั้งสองข้างให้ข้อเท้าข้างหนึ่งมาวางอยู่บนต้นขาของอีกข้างหนึ่งพร้อมใช้มือทั้งสองข้างจับไปที่บริเวณด้านหลังท่อขาเหนือข้อพับและดึงเข้าหาตัว ขณะเดียวกันให้พยายามยกลำตัวขึ้นจากพื้นค้างเอาไว้ประมาณ 30 วินาที แล้วค่อยสลับขาไปมาข้างละสองถึงสามครั้ง
นั่งราบลงกับพื้นพร้อมเหยียดขาออกกว้างเป็นรูปตัว V หรือกว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ โน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกับยืดแขน คอ และศีรษะไปข้างหน้าโดยสไลด์มือไปตามพื้นช้าๆ เหยียดหลังให้ตึงค้างเอาไว้ 30 วินาที แล้วกลับสู่ท่าเดิม จากนั้นทำซ้ำอีกสองถึงสามครั้ง
ท่านี้จะช่วยคลายอาการเกร็งของกล้ามเนื้อสะโพก โดยการนั่งชันเข่าเอาไว้พร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้า ค้างเอาไว้ประมาณ 30 วินาที แล้วค่อยสลับไปมาข้างละสองถึงสามครั้งจะแล้วจะรู้สึกได้ถึงความตึงของสะโพก
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... motorcycle.com