HD-Playground ชวนทุกท่านมาร่วมค้นหาแรงบัลดาลใจไปกับเรื่องราวความหลงใหลและข้อคิดดีๆจากมอเตอร์ไซค์ที่เกิดขึ้นกับไบเกอร์ตำรวจหญิงสุดเท่ที่พร้อมจะท้าทายขีดจำกัดของตัวเองอยู่เสมอ ความเป็นมาเป็นไปบนเส้นทางสองล้อของเธอจะเป็นอย่างไรเชิญติดตามได้ ณ บัดนี้
ชื่อ : ร้อยตำรวจโทหญิง วันวิสา ธีระปัญญาชัย (ผึ้ง)
อาชีพ : รับราชการตำรวจ ประสบการณ์การขับขี่ : 3 ปี
รถในครอบครอง : BMW F800GS
เริ่มสนใจมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เมื่อไร?
จริงๆก็สนใจมานานแล้วนะ ตั้งแต่ยังวัยรุ่นแล้วค่ะ แต่ว่าด้วยโอกาสและจังหวะความพร้อมที่เราจะมีน่ะค่ะก็เพิ่งจะมาจริงๆเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว
ความประทับใจแรกที่มีต่อมอเตอร์ไซค์
จริงๆหลักๆเลยมองเรื่องความคล่องตัวนะ เน้นที่ความคล่องตัวในการใช้งานกับชีวิตประจำวันค่ะ แล้วก็น่าจะมาจากการที่เราได้เห็นสังคมมอเตอร์ไซค์มันกว้างขึ้น มีคนมาขี่เยอะขึ้น เป็นภาพที่เห็น ทั้งรูปลักษณ์ เสียงเครื่องยนต์ แล้วก็เวลาที่ได้ขี่ บรรยากาศ สายลม ได้สัมผัสมันเต็มที่เลย
ปกติขี่รถไปทำงานรึเปล่า
ปกติเนี่ยไม่ได้ขี่เลยค่ะ จะขี่เฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพราะว่าด้วยหน้าที่การงานเนาะ ต้องแต่งเครื่องแบบชุดกระโปรงเลยไม่เหมาะกับการขี่มอเตอร์ไซค์
สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจซื้อมอเตอร์ไซค์
มันเริ่มจะคิดถึงแต่มอเตอร์ไซค์ (หัวเราะ) อ่านแต่หนังสือมอเตอร์ไซค์ ดูแต่ข่าวมอเตอร์ไซค์ บวกกับความชอบ ความพร้อมในหน้าที่การงาน มีจังหวะเวลาที่จะได้ใช้งานอย่างเต็มที่มันมาพร้อมกันค่ะ ก็เลยตัดสินใจว่าต้องซื้อแล้ว เราอยากออกเดินทางแล้ว เราอยากออกทริป เราอยากท่องเที่ยว เราอยากไปในที่ๆเขาขี่รถไปเที่ยวกันบ้าง เราอยากเห็นอยากสัมผัสแบบนั้นก็เลยต้องมีมอเตอร์ไซค์
มีเทคนิคในการเลือกรถยังไง
จริงๆก็ไม่มีเทคนิคเลย ที่ซื้อคันนี้เพราะเป็นความชอบล้วนๆ แต่ก็มีศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของสเปครถ กำลังเครื่องยนต์ ข้อดีข้อด้อยของรถเอาไว้ก่อนตัดสินใจซื้อด้วย แต่ที่ทำให้ติดสินใจซื้อจริงๆเพราะความชอบส่วนตัวเลย ชอบรูปลักษณ์ภายนอก สเปครถก็เหมาะกับเรา ตอบโจทย์เรา คือส่วนตัวชอบขี่ทางฝุ่นทางวิบากนะแต่ด้วยความที่เป็นคนชอบท่องเที่ยว ขี่ไกลๆหรือว่าไปในจุดที่คุณสมบัติของรถที่ขี่ทางดำไปไม่ได้ แต่ก็ต้องขี่บนทางดำได้ด้วยเพราะฉะนั้นรถที่เหมาะกับเราก็คงต้องเป็น Adventure ก็เลยเลือกรถที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเรา
ก่อนซื้อได้ลองขี่ดูก่อนรึเปล่า
ไม่ได้ลองเลย (หัวเราะ) คืออาจเพราะคิดว่าไม่ว่าอะไรก็ตามเนี่ยเราสามารถทำได้ถ้ามันเกิดมาจากความชอบที่มีจริงๆ ทำได้ถ้าเกิดจากใจที่เรารักที่จะทำ เพราะงั้นเลยคิดว่าถ้าซื้อมาแล้วหัดขี่เรื่อยๆก็จะขี่ได้เอง จริงๆก็แอบคิดนะก่อนซื้อ ดูแล้วมันสูงจะขี่ได้มั้ย คิดโน่นนี่นั่น แต่พอเราได้ลองขี่ได้อยู่กับเขาจนคุ้นเคยก็ขี่ได้
การเป็นหนึ่งในขบวนจักรยานยนต์เกียรติยศเนี่ย ยากรึเปล่า
ก็ยากค่ะ ต้องฝึกค่อนข้างหนักพอสมควร เพราะว่าประเภทของรถที่ใช้ในการทำงานไม่เหมือนกับรถของเราเอง ตัวนี้เป็น F800GS ส่วนของขบวนเกียรติยศจะเป็น Harley-Davidson คือเรารู้กันอยู่แล้วว่าคุณสมบัติของ Harley เป็นยังไง ในเรื่องของน้ำหนัก เครื่องยนต์ การควบคุมรถ สิ่งที่มันยากเลยไม่ใช่แค่เรื่องของทักษะการใช้รถเท่านั้น แต่ยังต้องฝึกการขี่ในรูปขบวนให้ออกมาสวยงาม พร้อมเพรียง แข็งแรงและแสดงศักยภาพของขบวนเกียรติยศได้เต็มที่ด้วย
มีพี่ๆผู้หญิงคนอื่นๆที่ขี่รถอยู่ในหน่วยงานเยอะมั้ย
จริงๆก่อนหน้านี้ก็มีนะ ประมาณ 3-4 นายแต่ด้วยภารกิจที่ต้องแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่เลยทำให้เวลาไม่ตรงกัน เลยยังไม่กลับมาขี่กันครบทีมสักทีค่ะ
สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเข้าร่วมขบวนเกียรติยศ
ความชอบในมอเตอร์ไซค์ อยากจะขี่อยู่แล้ว แล้วก็ในใจก็แอบปลื้ม Harley-Davidson อยู่นะแต่ตอนเลือกซื้อรถก็เลือกที่ตอบโจทย์ตัวเราที่สุด คือจริงๆก็ชอบมอเตอร์ไซค์ทุกประเภทนะเพราะพี่มองว่าแต่ละประเภทมันมีเสน่ห์ในตัวของมันเองอยู่แล้ว อย่าง Harley-Davidson ในงานของตำรวจก็มีตำนานของมันอยู่ในอดีตใช้เป็นรถนำขบวนเสด็จของพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่นานแล้ว ยิ่งเราได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจเนี่ยมันเป็นเกียรติประวัติแก่ตัวเราเองด้วย แล้วก็ได้ทำในสิ่งที่เรารักก็คือการขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยค่ะ
เข้าร่วมการแข่งขัน IronMan Rally ด้วยเป็นไงบ้างเอ่ย
ก็สนุกมากเลยนะ เป็นกิจกรรมดีๆที่ทำให้คนรักการขี่มอเตอร์ไซค์มาเจอกัน มีคนเข้าร่วมประมาณ 80 คนแล้วก็จาก 80 คนเนี่ย มีผู้หญิง 3 คน เรื่องผลการแข่งขันนี่ถือเป็นข้อรองเลยนะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้มาเพื่อมาเอาชนะกัน ส่วนตัวเลยเข้าร่วมเพราะอยากพิสูจน์ตัวเองมากกว่าว่า 1 วัน 1,600 กิโลเมตรเนี่ยเราจะทำได้มั้ย เราจะชนะใจตัวเองได้รึเปล่า เราจะต่อสู้กับขีดจำกัดของเราได้มั้ย ก็ถือเป็นประสบการณ์ดีๆ
ก่อนเข้าร่วมได้ศึกษาข้อมูลยังไงบ้าง
ก็มีศึกษานะจริงๆน่าจะเป็นคนแรกๆก็ว่าได้ที่ติดตามมาในเว็บไซต์โดยตลอด แรกๆก็รู้แค่ว่า เป็นการขี่ทางไกลนะ ขี่ 1 วัน 1,600 กิโลเมตรคือไกลมากๆแต่เราก็ชอบอยู่แล้ว เลยติดตามศึกษากติกา ข้อมูล เตรียมความพร้อมให้ตัวเอง
จากที่หาข้อมูลมากับการได้สัมผัสจริงๆความโหดมันต่างจากที่คิดมากรึเปล่า
ผู้จัดเขาเน้นเรื่องความปลอดภัยของตัวผู้เข้าแข่งขันเป็นหลักเลยนะ อันนี้ดีมากๆ พอถึงเวลาจริงๆแล้วเลยไม่รู้สึกว่าโหดอะไรมากมายเท่าที่เราจินตนาการเอาไว้ มันจะยากตรงที่เราต้องต่อสู้กับตัวเองมากกว่า เพราะระยะทางไกลมากแต่มีเวลาค่อนข้างจำกัด สภาพอากาศ ความมืดก็มีส่วน สิ่งดีๆที่ได้รับก็เยอะนะ อย่างการได้พบเจอคนที่รักในการขี่มอเตอร์ไซค์ ได้แข่งกับตัวเอง ได้มิตรภาพดีๆระหว่างแข่งขัน ถ้ามีจัดอีกก็จะเข้าร่วมอีกครั้งแน่นอน น่าจะใกล้ๆนี้แล้วด้วย เหมือนว่าจะเน้นทาง off-road มากขึ้นแต่ก็ยังมุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้
มีไอดอลรึเปล่า
ส่วนตัวประทับใจกับสิ่งที่พี่ๆในวงการที่ได้มีโอกาสไปขี่กับพวกเขาคอยสอนเรามากกว่า ไม่มีใครเป็นพิเศษ ตัวเราเองก็เพิ่งจะขี่จริงจังมา 3 ปี ขณะที่พวกพี่ๆเขาขี่กันมาเป็นสิบๆปีแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรามองแล้วเราปลื้มคือประสบการณ์ของพวกพี่ๆเขาที่ผ่านกันมา แล้วก็ความเป็นพี่เป็นน้องในวงการมอเตอร์ไซค์ด้วย
ออกทริปบ่อยมั้ย
บ่อยค่ะทุกวันหยุดเลย เสาร์-อาทิตย์ต้องเอามอเตอร์ไซค์ออก แล้วก็ดูเลยว่าตรงไหนที่เรายังไม่ได้ไปบ้าง ก็จะหาข้อมูลเอาไว้แล้วเราก็ไป แล้วส่วนใหญ่ก็ไปคนเดียว ดูที่ความพร้อมเราเองสะดวกมั้ยอยากไปรึเปล่า เช็คสภาพรถเตรียมรถให้พร้อมยิ่งทริปไกลๆนี่สำคัญเลย คนพร้อมรถพร้อมก็เอารถออกได้เลย
เจออุปสรรคตอนออกทริปบ้างมั้ย
ก็จะมีบ้างค่ะเรื่องทักษะ เราก็ไม่ได้ชำนาญอะไรมากมายแต่ก็โชคดีที่ทริปนั้นๆเนี่ยมีพี่ๆที่เขาเดินทางไปด้วยก็ช่วยเราไว้ได้ ตอนไปคนเดียวก็มีบ้างเล็กๆแบบว่าขาไม่ถึง ล้มแบะบ้างอะไรบ้าง
แต่งรถรึเปล่า
เรื่องแต่งรถถ้าพูดกันจริงๆนะรถที่ทำออกมาเนี่ยมันสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้วนะ มันถึงได้ผ่านออกมาให้เราได้ใช้งานกันก็เลยชอบความดิบๆเดิมๆของรถมากกว่า แล้วก็รูปลักษณ์เดิมนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจซื้อด้วย อย่างคันนี้แทบจะไม่แต่งเลยค่ะ เรียกว่าติดอุปกรณ์เสริมน่าจะถูกกว่า
ทริปที่ขี่ไกลที่สุด
จริงๆขี่ไกลที่สุดก็ทริป IronMan นั่นแหละค่ะเพราะว่าไม่ได้สไลด์รถลงไปแข่งแบบหลายๆคนที่เขาเตรียมตัวกันไว้ก่อนแล้ว คือขี่ไปขี่กลับด้วยเลย คือเลิกงานก็ขี่จากกรุงเทพฯไปที่ภูเก็ตแล้วนอนพักคืนนึงแล้วก็แข่งเลย พอแข่งจบก็นอนพักอีกคืนนึงแล้วค่อยขี่กลับ ทริปนั้นน่าจะรวมๆแล้ว ประมาณ 3 พันกว่ากิโล
สถานที่ประทับใจ
ก็จะมีบ้านพุระกำ อยู่ติดกับฐานปฏิบัติการชายแดนที่สองติดกับเมียนมาร์ จริงๆแล้วเราหลงเข้าไปด้วย ตอนแรกตั้งใจจะไปห้วยคอกหมูแต่ผิดเส้นทาง แล้วทางก็ค่อนข้างจะหฤโหดพอสมควรนะกับการจะเอาคันนี้เข้าไป มันไม่เหมาะคือถ้าเป็นรถวิบากเต็มสูบก็จะเข้าไปได้ง่ายกว่า แล้วสิ่งที่ทำให้อยากกลับไปอีกคือได้ขี่ไปเกือบจะสุดทางแล้วแหละค่ะ แต่ร่างกายไม่ไหวเลยหยุด แต่ก็เจอพี่ๆเพื่อนๆที่เขาขี่วิบากผ่านมา ไม่รู้จักกันมาก่อนด้วย เขาก็คอยช่วยคอยดันจะให้เราเข้าไปให้ได้แต่ก็ยังไม่ไหวเลยจอดทิ้งไว้ก่อนแล้วซ้อนรถวิบากเข้าไป ขากลับก็ขี่รถตัวเองกลับออกมา เส้นทางก็เป็นโคลนเป็นลำธารนะ ก็เลยรู้สึกว่าอีกนิดเดียวก็จะเอาชนะมันได้แล้วนะ เดี๋ยวคราวหน้าเอา F800 คันนี้ไปลุยอีกจะไปให้ถึงฐานให้ได้เลย
ร้านที่ต้องแวะเวลาออกมาขี่
ถ้าในกรุงเทพฯแล้วมาประจำก็ต้อง Life & Kuisine สิมาประจำนะ เอารถออกเสาร์-อาทิตย์นี่ต้องมีสักวันนึงแวะมา ส่วนถ้าไปต่างจังหวัดก็จะเป็นที่สวนผึ้ง ร้านต้นขนมหวานสะพานกาแฟ นะ แต่เอาจริงๆก็ได้หลายที่แหละ ถ้าจะแวะจริงๆก็จะดูบรรยากาศสองข้างทางร้านไหนน่านั่ง คนไม่เยอะ มีที่จอดรถสบายก็แวะ เน้นวิวธรรมชาติหน่อย
มุมมองเรื่องผู้หญิงกับมอเตอร์ไซค์
เดี๋ยวนี้เป็นเรื่องปกติไปแล้วแหละที่ผู้หญิงหันมาสนใจมอเตอร์ไซค์ มีกลุ่มขี่หลายกลุ่มเลย แล้วแต่ประเภทกับบุคลิกของแต่ละคนเนาะว่าเลือกแบบไหน แต่ขนาดตัวเราเป็นผู้หญิงด้วยกันนะยังมองว่ามีเสน่ห์เลยค่ะ ด้วยสรีระ ความอ่อนหวานที่มีในตัวเนี่ย การที่ผู้หญิงจะมาขี่มอเตอร์ไซค์นี่ก็ต้องมีหัวใจที่ค่อนข้างจะเด็ดเดี่ยวแหละนะ แล้วคนทั่วไปก็มองว่าเท่ดีนะผู้หญิงที่ขี่มอเตอร์ไซค์เนี่ย แต่ก็ไม่อยากให้ผู้หญิงที่คิดจะมาขี่มอเตอร์ไซค์เนี่ยเลือกจะขี่เพราะความเท่นะคะ เพราะถ้ามองแค่ในเรื่องของภาพลักษณ์ที่คนมองเราเนี่ยเราจะทำสิ่งๆนั้นได้ไม่นาน แต่กับคนที่มีแรงจูงใจ อยากท่องเที่ยวมีใจรักหรือว่าเหตุผลใดก็ตามมาขี่เนี่ยก็จะอยู่กับมอเตอร์ไซค์ได้นาน
มีอะไรจะฝากทิ้งท้ายรึเปล่า
ตอนนี้มองไปทางไหนก็มีแต่มอเตอร์ไซค์นะทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่เต็มไปหมด เพราะฉะนั้นเนี่ยอุบัติเหตุนะสำคัญเลย การที่เราจะอยู่กับมอเตอร์ไซค์อะค่ะเราต้องรู้จักเขารู้จักตัวเรา การฝึกฝนทักษะการขี่สำหรับคนที่จะเริ่มต้นแล้วก็คนที่มีประสบการณ์อยู่แล้วเนี่ยเป็นเรื่องที่ต้องทำเป็นประจำอยู่แล้วเนาะ อยากให้เน้นเรื่องการฝึกฝนทักษะเพื่อจะใช้งานได้อย่างปลอดภัยอย่างน้อยๆก็เพื่อตัวเราแล้วก็รถที่เรารักด้วยให้ได้ใช้งานได้ขี่ไปด้วยกันนานๆ ไม่อยากให้เป็นแบบที่เห็นกันตามสื่อที่เขาแชร์ๆกัน แบบขี่ด้วยความห้าว คึกคะนองยกล้อโชว์แบบนั้นไม่หล่อเลย อันตรายด้วย เพราะฉะนั้นขี่ยังไงให้ปลอดภัยก็ต้องหมั่นฝึกฝน