ท่าทางจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างกับโปรดักท์ของ Harley-Davidson โดยล่าสุดได้ปล่อยไลน์อัพ Softail ออกมาทุกโมเดลและดูเหมือนว่าจะไม่มี Dyna อีกต่อไปแล้วสำหรับรุ่นปี 2018 แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าเพิ่งแตกตื่นกันไปเพราะจากนี้ไป Dyna จะถูกจับเข้าไปรวมกับ Softail นั่นเอง
เฟรมตัวใหม่นี้จะฝังกันสะเทือนท้ายแบบเดี่ยวเอาไว้ที่บริเวณใต้เบาะพอดี ซึ่งทาง Harley ระบุว่านี่เป็นการรักษาความคลาสสิกของเฟรมแบบ Hardtail เอาไว้โดยที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนเข้าไปนั่นเอง ทั้งนี้ตัวเฟรมใหม่นั้นจะมีการใช้สวิงอาร์มที่ต่างกันถึงสองแบบขึ้นอยู่กับแต่ละโมเดล ซึ่งจะมีทั้งแบบที่เหมาะกับยางล้อหน้าแคบและแบบที่เหมาะกับรุ่นที่ใช้ยางล้อใหญ่ๆ ส่วนการเปลี่ยนแปลอื่นก็จะมีดังต่อไปนี้
2018 Softail จะมีน้ำหนักที่เบาลง
เฉพาะตัวเฟรมก็ลดน้ำหนังลงกว่า 13 ปอนด์ (5.9 กิโลกรัม) สำหรับเฟรมท้ายกว้างและเฟรมท้ายแคบลดลงไป 18 ปอนด์ (8.2 กิโลกรัม) ซึ่งการนำอลูมิเนียมเอามาใช้เป็นส่วนประกอบของตัวรถนั้นทำให้โดยรวมแล้วแต่ละคันจะถูกปรับให้น้ำหนักลดลงอย่างน้อยก็ 30 ปอนด์ (13.7 กิโลกรัม) ซึ่งการที่นำหนักลดลงแบบนี้นอกจากจะทำความเร็วได้สูงขึ้นแล้วยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการบังคบและเบรคให้ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
ปรับปรุงการเข้าโค้งให้ดียิ่งขึ้น
เนื่องจากน้ำหนักที่เบาลงบวกกับเฟรมรถใหม่ทำให้องศาการเข้าโค้งลงตัวมากขึ้น เช่นโมเดล Fat Bob นั้นมุมโค้งจะเหลือประมาณ 31 องศาที่โค้งขวา และ 32 องศาที่โค้งซ้าย และจากการทดลองขี่แบบจริงจังให้เหมือนกับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของสักคันต้องการจะขี่แล้วก็สัมผัสได้ถึงความสนุกที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น และแตกต่างจาก softail รุ่นก่อนๆพอสมควร เพราะการเข้าโค้งแต่ละครั้งพักเท่าหรือชีลด์ท่อไอเสียจะขูดกับพื้นได้ง่ายๆเหมือนแต่ก่อนแล้ว ระบบเกียร์ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพเข้ามาให้กับไลน์อัพปี 2018 ด้านกันสะเทือนแบบเดี่ยวก็มาพร้อมกับความสูงที่แตกต่างกันไปในแต่ละโมเดลเช่นเดียวกับสวิงอาร์ม ซึ่งความสูงของกันสะเทือนโมเดล Heritage และ Fat Bob จะอยู่ที่ 4.44 นิ้ว กับความสูง 3.4 นิ้วสำหรับโมเดลอื่นๆซึ่งจะใช้เป็นกันสะเทือนไฮโดรลิคแบบปรับได้ทั้งหมด ส่วนด้านหน้านั้นจะใช้เป็น Showa Dual Bending valve เหมือนกับที่ใช้ในโมเดล Touring
รวดเร็วยิ่งขึ้น
อย่างที่ทราบกันว่าจะมีการนำเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight มาใช้กับตระกูล Softail ซึ่งการติดตั้งก็เป็นแบบ Hard-mounted ลดปัญหาแรงสะเทือนจากไปได้กว่า 75% บวกกับการที่ทีมวิศวกรจับ Softail ไปลดน้ำหนักลงมาและยังมีระบบเกียร์ที่ปรับปรุงแล้วถือเป็นองค์ประกอบหลักๆที่ทำให้นักขี่รู้สึกได้ถึงความแรงที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้จะมีการนำเครื่องยนต์ 114 มาใช้กับโมเดลBreakout, Fat Bob, Fat Boy และ Heritage Classic อีกด้วย
ไอเทมสแตนดาร์ด
จากราคาที่อาจมีการปรับให้สูงขึ้นจึงมีการนำพาร์ทบางอย่างเพิ่มเข้ามาในลิสต์แสตนดาร์ดไอเทมที่จะติดมากับตัวรถตั้งแต่ออกจากโรงงาน เช่น ไฟหน้า LED แบบ Daymaker Signature พอร์ท USB หรือระบบสตาร์ทแบบคีย์เลส ที่จะติดตั้งเข้าไปในทุกโมเดล แต่อย่างไรก็ตามระบบ ABS จะยังเป็นเพียงหนึ่งในออปชั่นเสริมเท่านั้น เผื่อว่านักขี่บางคนจะไม่ชอบระบบ ABS นั่นเอง
------ เรียบเรียงโดย HD-Playground ที่มา... revzilla.com