เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ฮอนด้า ประกาศเปิดศูนย์ทดสอบเพื่อพัฒนาศักยภาพให้กับงานวิจัยสำหรับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์โดยได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดร. อรรชกา สีบุญเรือง เข้าร่วมในการเปิดตัวในครั้งนี้ด้วย ศูนย์ทดสอบดังกล่าวตั้งอยู่ในจังหวัดปราจีนปุรี และยังเป็นศูนย์ทดสอบแห่งที่ของ ฮอนด้า ซึ่งอีกสองสนามที่ได้สร้างมาก่อนหน้านี้อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา
ด้านมิสเตอร์ ชินจิ อาโอยามะ ประธานเจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) และประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวถึงการเปิดศูนย์ทดสอบครั้งนี้ “ปรเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมรวมถึงศูนย์กลางการส่งออกสินค้าของฮอนด้าไปทั่วภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย เช่นเดียวกับเป็นฐานการทำ R&D ที่สำคัญของฮอนด้าอีกด้วย และศูนย์ทดสอบที่ปราจีนบุรีนี้จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าของฮอนด้าในภูมิภาคนี้ได้อย่างแน่นอน”
โดยสนามทดสอบดังกล่าวจะประกอบไปด้วย
สนามทดสอบรูปวงรี (Oval Course) 2.18 กิโลเมตร ใช้ทดสอบสมรรถนะในขณะขับด้วยความเร็วสูง รวมถึงการทดสอบอื่นๆ เช่น ระดับเสียงของลมและการบังคับรถ
สนามทดสอบทางโค้ง (Winding Course) ความยาว 1.38 กิโลเมตร ใช้ทดสอบสมรรถนะโดยทั่วไป รวมถึง การทดสอบประสิทธิภาพของระบบเบรก และการทรงตัวขณะเข้าโดยจำลองถนนที่มีการขึ้น-ลง และถนนที่มีมุมอับสายตา ด้วยโค้งทั้งหมด 17 แห่ง
สนามทดสอบไดนามิคส์ (Vehicle Dynamics Area) ซึ่งจะเชื่อมต่อกับสนามทดสอบรูปวงรี ใช้ทดสอบการควบคุมการทรงตัวของรถ ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง และทดสอบประสิทธิภาพของการเบรก ขณะเข้าโค้งหักศอก
สนามทดสอบที่มีน้ำท่วมขัง (Wet Course) ที่จำลองสภาพถนนที่เปียกและลื่นเพื่อทดสอบผลกระทบของน้ำท่วมขังที่มีต่อสมรรถนะของรถ ประกอบด้วย Pool Road, Splash Road, Wet Brake Road ทั้งยังสามารถปรับระดับความลึกของน้ำได้ตั้งแต่ 0-1,000 มิลลิเมตร เพื่อจำลองสถานการณ์น้ำท่วม ที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยในทวีปเอเชีย โดยเป็นการทดสอบการกันน้ำและผลกระทบต่อเครื่องยนต์
สนามทดสอบสภาพพื้นผิวถนนในรูปแบบต่างๆ (Ride Road Course) ที่จำลองสภาพพื้นผิวถนนของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ใช้ทดสอบสมรรถนะทั่วไปบนพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน โดยมีถนนลักษณะต่างๆ ถึง 8 รูปแบบด้วยกัน อาทิ ถนนคอนกรีต (Concrete Highway) ถนนยางมะตอยที่มีพื้นผิวชำรุด (Noise Road) และถนนลาดเอียง (Camber Road)
สนามทดสอบที่มีพื้นผิวพิเศษ (Special Surface Courses) เป็นสนามที่ออกแบบและสร้างด้วยเทคโนโลยี 3 มิติ เพื่อจำลองพื้นผิวถนนที่ขรุขระ โดยมีพื้นผิวถนนลักษณะต่างๆ ถึง 8 รูปแบบด้วยกัน อาทิ ถนนที่จำลองลูกระนาด (Speed Breaker) และถนนคอนกรีตที่มีพื้นผิวขรุขระ (Concrete Rough Road)
สนามทดสอบทางลาดชัน (Slope Course) ใช้ทดสอบความแข็งแกร่งของเครื่องยนต์ และประสิทธิภาพของระบบเบรก
สนามทดสอบทางตรง (Straight Course) ที่มีทางตรงความยาว 1.2 กิโลเมตร ใช้ทดสอบอัตราการประหยัดน้ำมัน และอัตราการเร่งความเร็วหลังจากออกตัว
โดยศูนย์ทดสอบแห่งนี้ใช้งบประมาณไปถึง 1,700 ล้านบาทและคาดว่าจะเป็นศูนย์พัฒนาที่ช่วยให้ฮอนด้าสามารถผุดยานยนต์ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆออกตามมาได้อย่างหลากหลายในอนาคตอย่างแน่นอน
------ เรียบเรียงโดย HD-Playground ที่มา... motorcyclenews.com