บางครั้งการได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์เป็นสิ่งหนึ่งที่สร้างความสนุกสนานเพลิด เพลินให้กับคุณ และอย่างยิ่งกับการได้ร่วมเดินทางไปกับบุคคลอื่นในลักษณะของ Group Riding... แต่ยังมีอีกวิธีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความสนุกสนาน และประสบการณ์ดีๆ ระหว่างทางให้คุณนั่นก็คือการขับขี่ในขณะที่มีผู้ซ้อนไปด้วย การขับขี่ในกรณีที่มีผู้ซ้อนจำเป็นต้องระแวดระวังและต้องใช้สมาธิใส่ใจต่อ การขับขี่อยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามความสนุกสนานและประสบการณ์ดีๆ ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าก็มีคุณค่ามากพอสำหรับความพยายามนั้น

ความมั่นใจและความไว้วางใจ
ความมั่นใจและความไว้วางใจเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญยิ่ง ผู้ซ้อนต้องมั่นใจในตัวคุณเพราะคุณคือคนที่ควบคุมรถ มันค่อนข้างจะแตกต่างจากการขึ้นรถยนต์คนอื่นอยู่พอสมควร เพราะการซ้อนมอเตอร์ไซค์ ผู้ซ้อนจำเป็นต้องรู้จักมั่นใจและวางใจในตัวคนขี่มาก่อนแล้ว คุณต้องระมัดระวังอย่างยิ่งหากมีเหตุจำเป็นต้องให้คนที่คุณไม่คุ้นเคยซ้อนรถ คุณต้องพยายามทำให้เขาคนนั้นมั่นใจใจตัวคุณให้ได้

อย่ากลัวที่จะพูดกับผู้ซ้อนตรง ๆ ว่า ถ้าเขาไม่มั่นใจในตัวคุณก็ไม่ควรที่จะซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ของคุณ นั่นเป็นสิ่งที่จะบอกได้ว่าคุณจริงจังในเรื่องนี้ขนาดไหน เพื่อประสบการณ์ในการเดินทางที่ดีเรื่องดังกล่าวจึงต้องรัดกุม ในขณะเดียวกันต้องมั่นใจว่าผู้ซ้อนพร้อมที่จะทำตามคำสั่งคุณ ต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันตลอดการเดินทาง

อุปกรณ์ป้องกัน
เป็นอีกหนึ่งวิธีในการรับมือกับเรื่องความปลอดภัย ถ้าผู้ซ้อนตกลงปลงใจที่จะเดินทางไปกับคุณ หรือเขามีความชื่นชอบและอยากร่วมเดินทางไปกับคุณ ยิ่งเป็นเรื่องที่ง่ายที่จะแนะนำให้เขาซื้อชุดหรืออุปกรณ์ป้องกัน อาทิ หมวก เสื้อ ถุงมือ ร้องเท้า กางเกง เป็นต้น หรือถ้าเป็นการขับขี่แค่ชั่วครั้งชั่วคราว อย่างไรก็ตามอุปกรณ์ป้องกันก็ยังมีความสำคัญและมีความจำเป็น ผู้ซ้อนควรอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม ซึ่งหาได้ตามตลาดขายอุปกรณ์ป้องกันในราคาที่สบาย ๆ กระเป๋า

ปัญหาอีกประการคือผู้ซ้อนมีโอกาสได้ซ้อนรถครั้งแรกและเป็นครั้งเดียว ซึ่งทำให้การต้องลงทุนซื้อชุดหรืออุปกรณ์ป้องกันไม่มีความจำเป็นเท่าใดนัก เป็นหน้าที่ของคุณว่าจะสามารถหยิบยืมชุดให้คนซัอนได้จากที่ไหน ต้องคำนึงไว้ว่าความปลอดภัยของทั้งคุณและคนซัอนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

การปฏิบัติตนของผู้ขี่
อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องคำนึงคือคุณไม่สามารถใช้วิธีการขับขี่เหมือนตอนที่คุณขี่คนเดียวได้หากต้องมีผู้ซ้อน สิ่งสำคัญที่สุดคือความเร็วที่ใช้ต้องลดลง ทุกครั้งที่เปิดคันเร่งต้องนึกเสมอว่าล้อหลังของคุณมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากคนซ้อนรวมถึงตัวคุณเองด้วย นั่นเป็นเหตุทำให้ล้อหน้ามีน้ำหนักเบาลงและอาจเกิดอาการลอยได้ จัดท่าจัดทางขณะเบรกให้ดี เรียนรู้ใช้น้ำหนักที่กดทับด้านหลังให้เป็นประโยชน์และสัมพันธ์กับการเบรกการเข้าโค้งด้วย ที่คุณจะต้องจัดตำแหน่งควบคุมน้ำหนักที่เหมาะสมนั่นก็เพราะว่าน้ำหนักที่กดทับทำให้การกะระยะของพื้นถนนด้อยประสิทธิภาพลง (น้ำหนักที่กดทับทำให้ช็อคยุบตัวลงมากขึ้นและทำให้ตัวรถถูกกดลงพื้นมากขึ้น)

การกลับรถก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องใช้ความสามารถเมื่อมีผู้ซ้อน เนื่องจากคุณต้องละเท้าลงจากที่พักเท้ามาเหยียบพื้นถนนเพื่อทรงตัว แต่คงเป็นเรื่องยากถ้าจะให้ผู้ซ้อนทำเช่นนั้นด้วย ก่อนกลับรถคุณจึงต้องใชัพื้นที่ในการจัดท่าและวางขวาให้กว้างมากกว่าเดิม เพื่อสร้างฐานให้แข็งแรงซึ่งมันอาจจะดูไม่ถนัดและแปลก ๆ สักเล็กน้อยเมื่อเทียบการกลับรถปกติของคุณ

รถคุณมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ฉะนั้นทุก ๆ สิ่งจึงต้องมีการวางแผน ใช้พื้นที่ ใช้เวลา และความนุ่มนวลให้มากที่สุด

การปฏิบัติตนของผู้ซ้อน
ในส่วนการปฏิบัติตัวของผู้ซ้อนก็มีความสัมพันธ์กับคนขี่ไม่แพ้กัน เพราะก่อนออกเดินทางคุณต้องสำรวจความพร้อมในทุก ๆ จุดให้ดีเสียก่อน ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับผู้ซ้อนคือส่วนบนของเบาะและต้องรักษาตำแหน่งการนั่งให้มั่นคงที่สุด ทางที่ดีที่สุดอีกประการหนึ่งคือผู้ซ้อนต้องพยายามขยับตัวตามคนขี่ตลอดเวลา ผู้ซ้อนควรวางเท้าในจุดที่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ง่ายเพื่อที่จะสามารถโยกย้ายตนเองได้ทันเวลา และไม่ควรทิ้งน้ำหนักอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะทำให้สมดุลของคนขี่ผิดเพี้ยนไป

ตำแหน่งการวางมือควรเป็นไปอย่างเหมะสม ทั้งนี้ตำแหน่งการวางมือจะแตกต่างขึ้นอยู่กับประเภทของรถมอเตอร์ไซค์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นรถทัวริ่ง ผู้ซ้อนต้องงอข้อศอกวางมือไว้บนเบาะในตำแหน่งที่เหมาะสม หรือท่าทั่วไปของผู้ซ้อนที่จะต้องใช้ข้อมือจับด้านข้างลำตัวของคนขี่ไว้ ขณะเบรกผู้ซ้อนต้องย้ายมือไว้ด้านหลังในตำแหน่งที่ต่ำลงเพราะถ้าตำแหน่งการจับอยู่สูงจะส่งผลให้การทรงตัวของผู้ขี่เป็นไปอย่างลำบาก

ถ้ารถมอเตอร์ไซด์คันนั้นมีที่จับคนซ้อนยิ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ผู้ซ้อนจะใช้อุปกรณ์นั้นในการยึดลำตัว ลดแรงเหวี่ยงไปด้านหลังที่เกิดขึ้นจากการขับขี่ และยังช่วยให้ผู้ซ้อนสามารถสมดุลลำตัวโยกย้ายตามผู้ขี่ได้ง่ายยิ่งขึ้น การใช้ที่จับคนซ้อนเป็นวิธีที่ได้ประสิทธิภาพในการลดแรงเหวี่ยงมากกว่าการย้ายตำแหน่งมือจากการจับลำตัวของผู้ขี่

อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งการวางมือของผู้ซ้อนที่ดีที่สุดคือการวางมืออยู่บนถังน้ำมัน ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ขี่ ทำให้สามารถปรับตำแหน่งลำตัวและจัดท่าทางการขับขี่ได้อย่างอิสระ ไร้กังวลเรื่องน้ำหนักของผู้ซ้อนที่จะส่งมายังผู้ขี่ แต่การวางมือบนถังน้ำมันก็ไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในบางสถานการณ์ ยังมีอีกหลายวิธีที่ให้ผลดีมากกว่านั้น เช่นในรถทัวริงขนาดใหญ่อย่าง Gold Wing อย่างไรก็ตามทุกทีที่นึกขึ้นได้ ผู้ซ้อนก็ควรวางมือไว้ในตำแหน่งดังกล่าว

ผู้ซ้อนไม่ควรถ่วงน้ำหนักหรืออยู่ในตำแหน่งที่ถ่วงความสมดุล เช่น การโยกตัวไปมองทางข้างหน้า เนื่องจากจะทำให้แรงปะทะของลมในแง่ของแอโรว์ไดนามิคและการกระจายน้ำหนักผิดเพี้ยนไป ผู้ซ้อนควรรักษาตำแหน่งปกติคือลำตัวอยู่เหนือหัวไหล่เสมอ

ทุก ๆ ครั้งก่อนออกเดินทาง ผู้ขี่จำเป็นต้องซักซ้อมความเข้าใจในจุดนี้ให้ผู้ซ้อนได้รับทราบเสมอ

การขึ้นมอเตอร์ไซค์
ผู้ซ้อนจะขึ้นรถก็ต่อเมื่อคุณสตาร์ทเครื่องมอเตอร์ไซค์ คุณต้องใช้เท้ายึดตำแหน่งรถไว้ให้มั่นคงที่สุดเพื่อให้ผู้ซ้อนได้เหวี่ยงตัวขึ้นไป ในท่าปกติคือผู้ซ้อนจะเหวี่ยงขวาไปยังที่พักเท้าด้านขวาแล้วค่อยใช้เท้าซ้ายเหยียบที่พักเท้าด้านซ้ายขึ้นรถ

ในทางตรงกันข้ามอีกวิธีหนึ่งคือเอียงรถคุณไปทางด้านขวาให้ผู้ซ้อนจับไหล่และเหยียบไปที่ที่พักเท้าด้านซ้าย ส่วนมือขวาให้จับไปยังส่วนที่ขึ้นว่าสามารถดันตัวขึ้นรถได้ จากนั้นผู้ซ้อนจะอยู่ตำแหน่งที่เท้าซ้ายยืนอยู่บนที่พักเท้าด้านซ้ายแล้วจึงค่อยๆ เหวี่ยงขาขวาไปยังที่พักเท้าด้านขวา จากนั้นก็ค่อย ๆ นั่งลงคล้าย ๆ รูปแบบการขี่ม้า

การลงมอเตอร์ไซค์
จำไว้ว่านี่คือครั้งแรกที่ผู้ซ้อนจะละเท้าออกจากที่พักเท้า เช่นเดียวกันผู้ขี่ต้องยันเท้าไว้บนพื้น ผู้ซ้อนก็ใช้วิธีเดียวกับตอนขึ้นรถแต่เป็นไปในทางตรงกันข้าม ใช้สัญชาติญาณการลงรถที่ถูกวิธีไม่มีอะไรที่ซับซ้อน

จริง ๆ แล้วการขับขี่แบบมีผู้ซ้อนก็ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากนัก ปฏิบัติตามคำแนะนำ ใช้สมาธิเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย ความพยายามเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้จะสร้างความสนุก ความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีต่อทั้งผู้ขี่และผู้ซ้อนในอนาคตอย่างแน่นอน

--------------------
เรียบเรียงโดย... HD-Playground
ที่มา... motorcycle-central.com