สำหรับเสน่ห์ของมอเตอร์ไซค์ Tourer รูปลักษณ์หรูหราที่แฝงความดุดันทันสมัยโมเดลนี้อาจจะเป็นดีไซน์แบบ Neo-retro ที่ยังใช้เครื่องยนต์ V-Twin ระบายความร้อนด้วยอากาศอยู่ แต่เทคโนโลยีก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับมอเตอร์ไซค์สมัยใหม่จึงมีการติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้าไปในระบบต่างๆแทบทั้งคัน
2018 Venture มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V-Twin แบบหัวฉีด 113 ci (1,854cc) ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบเกียร์ 6 สปีดพร้อมโอเวอร์ไดร์ฟสำหรับเกียร์ที่ห้าและหก ถังเชื้อเพลิง 5.6 แกลลอน (22 ลิตร) ทำให้ขี่ได้ระยะไกลที่สุดราว 220 ไมล์ (355 กิโลเมตร) ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ควบคุมด้วยสวิตช์ที่แฮนเดิลบาร์เพื่อช่วยให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือถอยหลังอย่างช้าๆเพื่อสะดวกในการจอดรถ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์มาตรฐานอำนวยความสะดวกอีกมากมายทั้งคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-wire ระบบ Traction control และ Cruise control โหมดการขี่ที่สามารถปรับได้ตามสภาวะต่างๆรวมถึงระบบเบรก ABS
แชสซีใหม่ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำและระบบกันสะเทือนที่สามารถปรับได้ช่วยให้ขี่ได้ง่ายขึ้นทั้งบนไฮเวย์และเส้นทางคดเคี้ยวตามเนินเขา นอกจากนี้ Venture ยังมาพร้อมกับ Heated seat วินด์ชีลด์ไฟฟ้า Heated grips และ Fairing panels ที่สามารถปรับกันลมหรือรับลมก็ได้ กุญแจแบบสมาร์ทคีย์ที่ช่วยให้นักขี่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์หรือเปิดกล่องสัมภาระได้โดยที่ไม่ต้องใช้กุญแจไขโดยตรงนอกจากนี้ Venture ยังนำเสนอระบบอินโฟเทนเม้นต์อย่างครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงทรงพลัง บลูทูธ ระบบสั่งการด้วยเสียง ระบบนำทาง และฟังก์ชั่นอื่นๆอีกมากมาย โดย 2018 Venture จะมีให้เลือกสองรุ่นคือรุ่นมาตรฐานกับค่าตัวที่ 24,999 ดอลลาร์ และรุ่น Transcontinental Option Package ที่มีราคาอยู่ที่ 26,000 ดอลลาร์
------ เรียบเรียงโดย HD-Playground ที่มา... autoevolution.com