เหตุอันเนื่องมาจากนโยบายแก้ไขกฎหมายทางการค้าของประธานาธิบดี Donald Trump ที่ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans Pacific Partnership Agreement :TPPA) เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่หลายๆบริษัทในสหรัฐฯพากันลดจำนวนพนักงานลงและฐานการผลิตไปยังต่างประเทศที่มีต้นทุนค่าแรงต่ำแทน และการตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยครั้งนี้ก็มีกลุ่มสหภาพแรงงานของสหรัฐฯก็ได้ออกมาโจมตีบริษัทฯว่าเป็นการทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากต้องตกงานเพราะต้องการจ่ายค่าแรงในราคาที่ถูกกว่า ซึ่ง Marc D McAllister กรรมการผู้จัดการฝ่ายขายในต่างประเทศของ Harley-Davidson ได้กล่าวปฏิเสธข้อพิพาทนี้ว่า “การย้ายฐานการผลิตของบริษัทในครั้งนี้ก็เพื่อผลักดันธุรกิจในภูมิภาคเอเชียให้เติบโตเท่านั้น”
อย่างไรก็ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยกำแพงภาษีนำเข้าที่สูงในบางประเทศทำให้ตลาดมอเตอร์ไซค์ในภูมิภาคนี้ค่อนข้างยังไม่เจริญเติบโตได้เท่าที่ควร “การผลิตมอเตอร์ไซค์ในสหรัฐฯแล้วส่งออกไปยังประเทศต่างๆนั้นจึงยังไม่ตอบโจทย์ในสิ่งที่เราพูดถึงเมื่อต้องพบกับกำแพงภาษีนำเข้า”
ดร.อัครเวช โชตินฤมล (พี่อาร์ม) นักสะสม แฟนตัวยงและไบค์เกอร์ Harley-Davidson รูปภาพโดย Luke Duggleby
ซึ่งการตั้งฐานการผลิตที่ประเทศไทยก็จะช่วยให้นักขี่ในภูมิภาคเอเชียเข้าถึง Harley-Davidson ได้มากยิ่งขึ้นเหมือนกับ ดร.อัครเวช โชตินฤมล (พี่อาร์ม) นักสะสม แฟนตัวยงและไบค์เกอร์ซึ่ง Harley-Davidson ได้เผยว่า “ผมขี่แต่ Harley-Davidson มันเป็นทั้งงานอดิเรกทั้งของสะสมเป็นความบันเทิงในช่วงวันหยุดแล้วก็ยังเป็นคู่หูของผมในการเดินทางอีกด้วย” โดยกำแพงภาษีนำเข้าของไทยทำให้ Harley-Davidson เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มีราคาแพงเช่น 2013 Road Glide CVO ของดร.อัครเวช (พี่อาร์ม) นั้นราคาสูงถึง 60,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 2,100,000 บาท) ขณะที่ในอเมริกามอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีราคาเพียงแค่ครึ่งเดียวของราคาในไทยเท่านั้น
2013 Road Glide CVO
โดยมอเตอร์ไซค์ที่ประกอบขึ้นจากโรงงานในไทยนี้จะส่งขายไปยังเอเชียเช่นจีน และภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่กำแพงภาษีนำเข้าสูงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ซึ่งจะเป็นการทำลายกำแพงภาษีครั้งใหญ่เมื่อมีการนำส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านของไทยซึ่งมีการคุ้มครองผลประโยชน์จากการเปิดเสรีการค้าของ10 ประเทศในประชาคมอาเซียนมาเสริมในส่วนนี้ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการลดระยะเวลาขนส่งจากไทยไปยังประเทศจีนให้ลงมาเหลือเพียงหนึ่งสัปดาห์จากเดิมที่ใช้เวลา 45 ถึง 60 วันจากต้นทางที่อเมริกาอีกด้วย
โรงงานประกอบชิ้นส่วนแห่งใหม่นี้จะอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เช่นเดียวกับ Ford, Ducati, General Motors และ Suzuki และจะเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2018 ด้านดร.อัครเวช (พี่อาร์ม) ยังให้ความเห็นอีกว่าเขาคิดว่าจะมีความแตกต่างอะไรมามายนักระหว่าง Harley ที่ประกอบในไทยกับอเมริกา แต่ที่เขากังวลคือการที่ตัวมอเตอร์ไซค์ที่มีราคาถูกลงจะทำให้มูลค่าของ Harley สำหรับผู้ที่ใช้อยู่แล้วจะลดลง อย่างเช่นรุ่นที่เขาสะสมอยู่ “มันอาจจะกระทบต่อทัศนะทางการตลาด เพราะหากราคาของรถต่ำลงเหล่านักขี่อาจจะลังเลและหันไปสนใจคู่แข่งก็เป็นได้”
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... nytimes.com