ในโลกของมอเตอร์ไซค์นั้นนอกจากรูปลักษณ์ที่หล่อเท่โดนใจแล้วด้านสมรรถของเครื่องยนต์ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เหล่าไบค์เกอร์ตัดสินใจเลือกถอยม้าเหล็กออกมาเป็นเพื่อนคู่ใจไปไหนไปกัน แต่ว่ามันจะมีสักกี่โมเดลกันนะที่ได้ชื่อว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่โดดเด่นเกินเหนือใครโดยไม่สนใจซีซี และมอเตอร์ไซค์ทั้ง 7 โมเดลเหล่านี้คือยอดมอเตอร์ไซค์ในพิกัดเล็กที่สุดของเหล่าบิ๊กไบค์ที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
Kawasaki Ninja 300 (2013-ปัจจุบัน)
จากต้นแบบ GPX250 สู่มอเตอร์ไซค์สปอร์ต 300cc ที่ได้รับการรีดีไซน์และใช้เครื่องยนต์ liquid-cooled twin ที่ Kawasaki ได้นำมาใช้เมื่อไม่นานมานี้ พร้อมอุปกรณ์สมัยใหม่รวมไปถึง slipper clutch ลดแรงสะเทือนของเครื่องด้วยยางรองแท่นเครื่องยนต์ที่สามารถส่งแรงบิดได้ถึง 110 mph ทำงานได้อย่างดี การเติมเชื้อเพลิงก็สะดวก แถมติดตั้งระบบห้ามล้อ ABS เป็นระบบมาตรฐานพร้อมปรับโฉมใหม่ให้คมขึ้น
Yamaha TZR125 (1987-97)
ถือว่าเป็นหนึ่งในมอเตอร์ไซค์สปอร์ตพิกัด 125cc ในฝันของวัยรุ่นยุคนั้นเลยก็ว่าได้สำหรับมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เฟรม Deltabox และท่อไอเสีย bean can และ power-valve ของ Yamaha ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ดีที่สุดเลยก็ว่าๆได้ แถมยังเป็นรถที่เหมาะสำหรับคนที่เริ่มหัดขี่มอเตอร์ไซค์ทรงสอปร์ตที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 100 mph เลยทีเดียว
Suzuki DR-Z400 (2001-08)
ยอดรถวิบากพิกัด 400cc จาก Suzuki คันนี้สามารถสร้างความประทับใจเหนือกว่ารถวิบากที่ใช้เครื่องยนต์ใหญ่กว่าได้อย่างง่ายดาย และข้อดีของมอเตอร์ไซค์วิบากไซส์เล็กนั้นคือสามารถบังคับได้ง่ายกว่าแม้ว่าจะไม่มีแรงม้าสูงเท่ามอเตอร์ไซค์ที่มีเครื่องยนต์ใหญ่กว่าแต่ก็ถือว่าขี่สนุกและยังดูแลและซ่อมบำรุงได้ง่ายอีกด้วย
Honda CB400 Four (1975-78)
มอเตอร์ไซค์สปอร์ตพันธุ์แท้ที่ใช้เครื่องยนต์ SOHC สี่สูบโมเดลเดียวของ Honda เป็นโมเดลที่พัฒนาเครื่องยนต์ต่อจาก CB30 ติดตั้งถังเชื้อเพลิง Slap-sided ชุดพักเท้าหลัง แฟลตบาร์ และระบบท่อไอเสียที่นับว่าเป็นหนึ่งในชุดท่อไอเสียที่สวยที่สุดของวงการมอเตอร์ไซค์แถมยังทำความเร็วได้เกิน 100 mph ซึ่งต่ำกว่าโมเดลรุ่นพี่อย่าง CB750s แบบเดิมๆ เพียง 10 mph เท่านั้นและยังเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ขี่ง่ายที่สุดของ Hondaในยุคนั้นอีกด้วย
Suzuki GR250 Gamma (1983-87)
Suzuki ตอบโต้ RD350 ด้วยมอเตอร์ไซค์ที่ใช้แชสซีอลูมิเนียมและระบบห้ามล้อนุ่มนวล แต่กลับใช้เครื่องยนต์ในพิกัด 250cc เท่านั้น จนกลายเป็นการตอบโจทย์ที่แท้จริงของเหล่านักขี่โดยการนำเครื่องยนต์ของ Yamaha มาติดตั้งเข้ากับเฟรมของ Gamma จนกลายเป็น YamaGamma ขึ้นในที่สุดซึ่งเป็นกรณีเดียวกับ Triton
Kawasaki ZXR400 (1995-98)
โมเดลน้องชายคันน้อยของ ZXR750 คันนี้ข้อดีมีเพียงสมรรถนะของเครื่องยนต์ล้วนๆ โดยสามารถทำความเร็วได้ถึง 140 mph โดยที่การบังคับเลี้ยวต่างนั้นก็ถือว่าแทบจะไร้ที่ติเสียงก็กระหึ่มถูกอกถูกใจใครหลายต่อหลายคน หากแต่ข้อเสียของโมเดลนี้ก็คือการวางตำแหน่งพาร์ทต่างๆ ท่าทางในการขี่และเบาะนั่งแข็งขี่ๆไปไม่ค่อยจะสบายตัวสักเท่าไร
BMW R65 (1978-93)
มอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งโมเดล ‘Airheads’ จาก BMW ที่ใช้เฟรมเล็ก ฐานล้อสั้น ด้านเครื่องยนต์นั้นมีช่วงชักเพียง 61.5 มิลลิเมตร ทำให้ R65 กลายเป็นมอเตอร์ไซค์มีน้ำหนักเบากว่า ขี่นุ่มกว่า ควบคุมง่ายกว่า และถึงแม้จะไม่ได้มีความเร็วมากนักแต่ก็เป็นมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ old-school boxer ที่ให้ความรู้สึกทันสมัยมากกว่าโมเดลอื่นๆในค่าย
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... motorcyclenews.com