ในโลกของมอเตอร์ไซค์นั้นแน่นอนว่าไม่มีมอเตอร์ไซค์คันไหนที่ผลิตออกมาแล้วจะกลายเป็นรถที่แย่เลยสักคันหากแต่คนเรามักจะตั้งความหวังเอาไว้แต่เมื่อได้ทดลองขี่ดูแล้วมันไม่เหมือนกับที่คิดที่หวังเอาไว้นี่สิ ซึ่งทีมงาน motorcycle.com ได้ระบุเอาไว้ทั้ง 10 คันซึ่งมีดังต่อไปนี้
Suzuki Katana 600 รุ่นยุค 1990/2000
ด้วยความเป็นมอเตอร์ไซค์สปอร์ตไบค์ทำให้หวังเอาไว้ว่าเครื่องยนต์ 600cc จะทำความเร็วได้ดีพอสมควรแต่เมื่อลองขี่แล้วกลับรู้สึกว่ามันช้าและหนักเกินไปจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ตระกูล “GSX” ถึงแม้ว่าโดยรวมแล้วจะถือว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่ขี่ได้ดีแต่แต่ไม่ใช่ดีพอสำหรับมอเตอร์ไซค์แบบสปอร์ตไบค์ และเมื่อเทียบกับ GSX600F รุ่นยุค 1990 – ช่วงต้นยุค 2000 แล้วพูดได้เต็มปากว่า GSX600F นั้นไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย
Ducati Multistrada 1100
มอเตอร์ไซค์ ADV จาก Ducati คันนี้ถือเป็นตัวอย่างของดีไซน์ที่น่าผิดหวังพอสมควร เพราะหน้าตามันดูแปลกๆดูไปก็ละม้ายคล้ายแมลงบางประเภทที่ติดตั้งวินด์สกรีนที่ขยับไปตามแฮนเดิลบาร์ได้ แต่หากพูดถึงสมรรถนะแล้วก็แน่นอนว่าไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า Ducati Multistrada 1100 คันนี้เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ขี่สนุกนั่งสบายเพียงแค่รูปร่างหน้าตาน่าผิดหวังเท่านั้นเอง
2006 Kawasaki ZX-10R
หากพูดถึงด้านความเร็วแล้ว ZX-10R ปี 2006 ทำได้น่าประทับใจจริงๆแต่สิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับโมเดลนี้คือตัวรถมีขนาดใหญ่และช่วงบนมีน้ำหนักมากเกินไปหน่อย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ ZX รุ่นก่อนหน้าที่มีน้ำหนักเบากว่า เรียกได้ว่าโมเดลปี 06 นี้เป็นการเดินถอยหลังในส่วนของการดีไซน์ก็อาจจะได้
1992 Suzuki GSX-R600
เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ทางทีมงานลงความเห็นว่าน่าผิดหวังจากน้ำหนักที่มากเกินความจำเป็น GSX-R600 รุ่นปี 92 นี้กลายเป็นโมเดลที่ไม่เพียงแค่ทำความเร็วได้น้อยกว่าโมเดลพี่ที่อย่าง GSX-R750 เท่านั้นแต่ยังเป็นรถที่หนักกว่าทั้งๆที่ R750 มีขนาดใหญ่กว่า
Bimota Vdue
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับมอเตอร์ไซค์ที่น่าผิดหวังก็คือ Vdue 500cc สองจังหวะคันนี้ อาจเพราะเป็นมอเตอร์ไซค์คันแรกและคันเดียวที่ Bimota พยายามสร้างขึ้นโดยใช้เครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นเองแทนการนำเครื่องยนต์จากแบรนด์อื่นมาใช้แบบที่เคย โดยมีปัญหาทั้งระบบจ่ายเชื้อเพลิง ทั้งการทำงานของ ECU เป็นผลให้เกิดหการหน่วงเมื่อเติมคันเร่ง แม้การทำงานของคาร์บูเรเตอร์จะทำงานได้เป็นอย่างดีแต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า Bimota ควรทำในสิ่งที่ถนัดที่สุดคือการพัฒนาและสร้างเฟรมขึ้นมาแล้วติดตั้งเครื่องยนต์ของแบรนด์อื่นเข้าไปแบบที่เคยทำจะดีกว่า
Suzuki Marauder
หากมอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์นั้นจะต้องขี่ด้วยสบายตัวกว่ามอเตอร์ไซค์ประเภทอื่นๆแล้วล่ะก็ ดูเหมือนว่า Marauder ที่ใช้ช่วงหน้ากลับหัว และเครื่องยนต์ V-twin 800cc ระบบเกียร์ห้าสปีดที่ขับเคลือนด้วยระบบโซ่ จะทำงานได้เป็นอย่างดีสมกับเป็นครุยเซอร์ หากแต่เบาะนั่งที่ทำให้มีอาการปวดเมื่อยรวมทั้งคาร์บูเรเตอร์ที่ทำอย่างอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพแล้วล่ะก็ถือว่าน่าผิดหวังอยู่พอสมควร
Honda Pacific Coast
มอเตอร์ไซค์ที่ได้รับขนานนามว่าเป็น Station wagon ในรูปแบบของรถสองล้อคันนี้ที่ถึงแม้ว่าจะสามารถบรรทุกสัมภาระสิ่งจำเป็นสำหรับหนึ่งสัปดาห์ไปไหนมาไหนได้ก็ตามแต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่หน้าผิดหวังสำหรับหลายๆคนก็คือเรื่องของดีไซน์ที่ไม่มีใครที่ออกมาพูดได้เต็มปากเค็มคำว่าเจ้า PC800 คันนี้รูปลักษณ์มันสวยหล่อน่าเสียเหลือเกิน
Ducati Streetfighter 1098
สำหรับหลายๆคนอาจจะคิดว่า “Ducati Streetfighter ก็โดนด้วยหรอ” เช่นนั้นจึงต้องบอกว่ามอเตอร์ไซค์ Naked ตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโมเดลจากค่ายยอดนิยมย่อมมีความคาดหวังกันบ้าง และเมื่อ Ducati ตัดสินใจแบ่งให้ Monster ใช้เครื่องยนต์ air-cooled ส่วน Streetfighter ตัวใหม่นั้นใช้เครื่องยนต์ liquid-cooled พร้อมใบพัดระบายอากาศที่เป็นเครื่องยนต์ในตระกูลเดียวกับเครื่องยนต์ air-cooled ที่ใช้กับ Monster ซึ่งรวมๆ Streetfighter นั้นยังคงขาดเสน่ห์ดึงดูดในแบบที่ Monster มีอยู่ แถมเครื่องยนต์ยนต์ยังมีการสั่นพอสมควรทั้งตอนที่ขี่ด้วยความเร็วต่ำและจะสั่นมากขึ้นเมื่อเติมคันเร่งแล้วความรู้สึกถึงการสั่นจะค่อยๆหายไป และลองมองย้อนไปพิจารณาอีกรอบ ก็ไม่ใช่แค่เพียงแค่ทีมงานเท่านั้นที่รู้สึกผิดหวังกับ naked เครื่องยนต์ V-twin 90° คันนี้แต่ดูเหมือนทางแบรนด์เองก็ยังไม่มั่นใจด้วยเช่นกันเราจึงได้เห็นเพียวแต่ Monster เท่านั้นที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในขณะที่ Streetfighter นั้นไม่มีการเคลื่อนไหวมานานพอสมควรแล้ว
Confederate America GT
สำหรับแบรนด์เล็กที่สร้างเฉพาะมอเตอร์ไซค์สั่งผลิตสุดหรูอย่าง Confederate กับหัวข้อนี้คงต้องเป็น America GT ครุยเซอร์ที่จะทำให้นักขี่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นเพราะการซีลถังเชื้อเพลิงไม่เรียบร้อยแถมด้วยแรงสั่นของเครื่องยนต์ที่ส่งผ่านมาถึงนักขี่เพียงเท่านี้ก็ทำให้รู้สึกผิดหวังได้แล้ว
Cleveland Cyclewerks Tha Heist
Cleveland Cyclewerks เป็นอีกหนึ่งบูติคแบรนด์เล็กๆ กับโมเดลที่น่าผิดหัวอย่าง Tha Heist ครุยเซอร์ค่าตัวราวๆ 3,200 ดอลลาร์ ที่เครื่องยนต์สั่นจนรู้สึกสะท้านถึงมือและขี่ไปได้ราวๆ 50 กิโลเมตรแรกน๊อตก็เริ่มคลายแถมช่วงหน้ายังแข็งอยู่นิดๆ และดูเหมือนเครื่องยนต์ Air-cooled หนึ่งสูบ Lifan จากเมืองจีนยังทำงานได้ไม่เต็มกำลังนั้นจะยิ่งฉุดให้ภาพรวมด้านคุณภาพต่ำลงไปจนเรียกได้ว่าน่าผิดหวังแบบสุดๆเลยก็ว่าได้
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... motorcycle.com