หลายๆคนมักจะคิดว่าการได้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปบนถนนที่การจราจรติดขัดรึการใช้ความเร็วสูงเกินจำเป็นนั้นคือ “ช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด” บนท้องถนน โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนด้วยแล้วจะยิ่งอันตรายกว่าปกติหลายเท่านัก ซึ่งหากจะทบทวนดูแล้วก็ไม่นับว่าเป็นความคิดที่ผิดแต่อย่างใด หากแต่เป็นความคิดความเชื่อที่ไม่ถูกทั้งหมดเพราะ “ช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด” สำหรับชาวสองล้อนั้นส่วนมากจะเป็นช่วงที่ได้ขี่รถไปพร้อมกับความคิดที่ว่า “วันนี้เป็นวันสบายๆ ขี่ไปเรื่อยๆ ค่อยๆไหลไปตามกระแสการจราจร” เพราะการคิดแบบนี้จะทำให้เกิดความประมาท การตัดสินใจและประสิทธิภาพในการสังเกตสิ่งรอบๆตัวจดลดลงอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
จริงๆแล้วการรู้สึกผ่อนคลายเวลาขี่มอเตอร์ไซค์ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรขนาดนั้นหรอกเพียงแต่ต้องคอยเตือนตัวเองเอาไว้เสมอว่าบนถนนั้นยังมีผู้ร่วมใช้ทางที่ขาดประสบการณ์หรือยังมีคนขับและนักขี่ที่ยังไม่มีทักษะมากพอที่จะรับมากับการตัดสินใจในเวลากระชั้นชิด ดังนั้นนักขี่ทุกคนก็ควรที่จะเรียนรู้ทักษะในการอ่านและค่อยๆฝ่าการจราจรไปตามกระแสอย่างรัดกุม พยายามขยับไปข้างหน้าอย่าหยุดอยู่กับที่ หากไม่สามารถขยับไปไหนได้ก็อย่าพาตัวเองไปหยุดในจุดอับสายตาของรถคันอื่นๆรอบตัว และที่ยากขึ้นไปอีกคือไม่ควรไปอยู่ในจุดที่อาจทำให้คนขับที่ยังขาดประสบการณ์เสียสมาธิได้เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ แต่หากนักขี่ฝ่าการจราจรด้วยความเร็วที่เกินจำเป็นหรืออาจจะค่อยๆฝ่าการจราจรไปแต่ขาดความรัดกุมรอบคอบแล้ว นั่นคือการขี่เข้าไปใกล้อันตรายอย่างร้ายแรง
หากฝึกจนชำนานแล้วคุณจะสามารถหาช่องที่จะค่อยๆขยับฝ่ารถติดไปข้างหน้าเรื่อยๆและจะไปหยุดพักในจุดปลอดภัยและเริ่มขยับอีกครั้งเมื่อมีช่องทาง จนเพื่อนๆของคุณจะสังเกตเห็นได้ว่าคุณจะกลายเป็นคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามกระแสของการจราจรเมื่อการจราจรไม่ติดมากนะ และจะเพิ่มความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นเมื่อเข้าสู่เขตที่มีการจราจรติดขัดมากๆ และยังมีเรื่องที่น่าสนใจมากๆอยู่ด้วยคือคุณจะนำนิสัยทักษะนี้มาใช้เมื่อคุณขับรถยนต์ด้วยเช่นกัน
------ เรียบเรียงโดย HD-Playground ที่มา... cycleworld.com