ตลอดสิบแปดปีที่ผ่านมา Victory Motorcycles ยังคงให้ความสำคัญกับสมรรถนะของรถอย่างต่อเนื่อง แรกเริ่มเดิมที่เป้าหมายของ Victory Motorcycles นั้นคือสร้างรถที่มีสมรรถนะเหลือกว่าและควบคุมได้ง่ายกว่ามอเตอร์ไซค์อเมริกันครุยเซอร์ที่เคยมีมา และยังคงทุ่มเทให้กับการแสวงหาขุมพลังแห่งสมรรถนะใหม่อยู่เสมอ และการที่รถแข่งไฟฟ้าต้นแบบ Victory RR ยึดอันดับสองบนโพเดียมในการแข่งขันรายการ Isle of man TT และ Empulse RR กับ Project 156 สามารถครองอันดับที่สองและสามในการแข่งปีนเขาที่ Pikes Peak ได้ รวมทั้งการทำสถิติขี่มอเตอร์ไซค์รอบโลกโดยใช้เวลาน้อยที่สุดของจอมอึด Urs “Grizzly” Pedraita ด้วย Victory Cross Country กับสถิติโลกในการทำเบิร์นเอาท์ด้วย Victory Octane ของ Joe “Vertical” Dryden ก็เปป็นการยืนยันถึงสมรรถนะของ Victory Motorcycles ได้เป็นอย่างดี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Victory Motorcycles ก็ได้เปิดตัวกองทัพโมเดล 2017 ออกมาให้ได้ยลโฉมกันโดยมีดังต่อไปนี้
OCTANE
POWER TO BURN
ครุยเซอร์ที่ออกแบบมาจากรถอเมริกันมัสเซิลคาร์ยุคคลาสสิก ด้วยกำลังเครื่องยนต์อันมหาศาลบวกกับแชสซีน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ V-Twin DOHC 60 องศา สี่วาล์ว 104 แรงม้า ระบายความร้อนด้วยน้ำแรงบิด 76 ฟุต-ปอนด์ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่พัฒนาจากรถแข่งต้นแบบ Project 156 และยังเป็นโมลที่มีอัตราเร่งจาก 0 – 60 mph ได้เร็วที่สุดในบรรดารถที่ Victory เคยผลิตขึ้น Octane ใช้อลูมิเนียมแคสเฟรมน้ำหนักเบาวงเลี้ยวไม่กว้างจนเกินไปนัก ฐานล้อกระชับ ทำให้ Octane กลายเป็นมอเอตร์ไซค์เครื่องยนต์ V-Twin ที่มีความคล่องตัวที่สุด ท่อไอเสียแบบ 2-1 ที่เข้าคู่กับระบบแอร์อินเทค ช่วยเพิ่มแรงม้าได้ถึง 10% และเพิ่มอันตราเร่งให้อีกถึง 5% เร็วแรงมีสไตล์เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพและราคาสมเหตุผลคือสูตรสำเร็จของ American Modern Musclebike โดยมีให้เลือกสี่แบบได้แก่ Gloss Black ($9,999), Matte Super Steel Gray ($10,499), Matte Pearl White ($10,499) และ Gloss Black with Graphics ($10,499)
GUNNER
SUPERIOR FIREPPOWER
อีกหนึ่งโมเดลที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อชิงพื้นที่ในตลาด Modern bobber ที่ได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์ของมอเตอร์ไซค์สไตล์ bobber โดยอดีตนักบินขับไล่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Freedom V-Twin 106ci พร้อมระบบเกียร์โอเวอร์ไดร์ฟ 6สปีด แรงบิดสูงสุด 110 ฟุต-ปอนด์ ผสานสมรรถนะเข้ากับความสบายด้วยเบาะนั่งที่สูงเพียง 25 นิ้ว และแฮนเดิลบาร์แบบ Pullback ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงสมรรถนะของมอเตอร์ไซค์สไตล์ bobber อย่างแท้จริง โดยมี Suede Titanium Metallic ($13,499) และ Suede Sagebrush Green Metallic ($13,899) ให้เลือกสำหรับ 2017 Victory Gunner
HIGH-BALL
STRIPPED-DOWN SPEED DEMON
ชูกำปั้นขึ้นฟ้าแล้วออกไปหาความท้าทายกับ High-Ball ครุยเซอร์ที่ไม่มีทั้งวิทยุหรือแซดเดิลแบ็ก หรือแม้แต่บาร์กันตก ไม่มีอะไรมาดึงความสนใจคุณไปจากกำลังเครื่องยนต์ V-Twin ที่แรงสะใจนี้ได้ เพียงเอื้อมมือไปบังคับแฮนเดิลบาร์แบบ ape-hanger และปล่อยอารมณ์ไปกับวงล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วที่หมุนไปตามแต่ใจคุณต้องการ โมเดล 2017 ใหม่ประกอบด้วย สี Suede Black กับยางล้อขอบขาว ($13,499) หรือ Suede Nuclear Sunset Orange ($13,749) ที่มาพร้อมกับยางล้อขอบขาวเช่นกัน
HAMMER S
PRO STREET PERFORMANCE
ครุยเซอร์สไตล์ Streetfighter ที่ดุดันที่สุดในไลน์อัพของ Victory Motorcycle เร้าใจด้วยเครื่องยนต์ Freedom 106 V-Twin ติดตั้งช่วงหน้ากลับหัวพร้อมหยุดได้ทันใจกับดับเบิลคาลิเปอร์เบรก 4 piston สไตล์สอร์ตไบค์ เพิ่มความดุดันด้วยยางล้อหลังหน้ากว้าง 250มิลิเมตร เพิ่มความปราดเปรียวด้วยฝาครอบเบาะซ้อน และบอดีเวิร์คนั้นคาดด้วยแถบ Racing Stripes สไตล์มัสเซิลคาร์ โดย Hammer S 2017 นี้จะเป็นสีดำเงาคาดด้วยแถบ Racing Stripes สีขาว ($15,599)
VEGAS
ATTITUDE FROM EVERY ANGLE
สัมผัสกับพลังของเครื่องยนต์ Freedom 106 V-Twin กับมอเตอร์ไซค์คลีนบิลด์สีตัวถังและเฟรมเข้าชุด วงล้อหน้า Falchion ขนาด 21นิ้ว Vegas เป็นมอเตอร์ไซค์คัสตอมเมดจากโรงงานที่ทรงพลังที่สุดสวยลงตัวด้วยโคมหน้าแบบ Tucked-in พร้อมแฮนเดิลบาร์แบบ Pullback ปลายท่อไอเสียแบบตัดเฉียง ติดตั้งไฟท้าย LED แบบฝังเข้าไปที่บังโคลนท้าย รายละเอียดต่างๆเป็นสี Blacked-out ช่วยขับให้สี Sunset Red metallic ที่ตัวถังและเฟรมโดดเด่นขึ้น 2017 Vegas ครุยเซอร์คลีนลุคสี Sunset Red metallic เข้าชุดกับเฟรมรถราคาประมาณ $13,999
VEGAS 8-BALL
ROLLING THE DARK STREETS
ครุยเซอร์สีดำประกอบกับดีเทลที่เป็นพาร์ทโครมตัดกันเพียงบางส่วนรวมทั้งวงล้อหน้า Falchion ขนาด 21นิ้วแต่งรายละเอียดแบบ Contrast-cut โดย Vegas 8-Ball ติดตั้งโคมหน้าแบบ Tucked-in พร้อมเกจโครเมียม แฮนเดิลบาร์แบบ Pullback ติดตั้งบนไรเซอร์สีดำ ใช้ปลายท่อไอเสียแบบตัดเฉียง และไฟท้าย LED ติดตั้งแบบฝังเข้าไปที่บังโคลนท้าย เช่นเดียวกับโมเดลพี่ๆน้องโมเดลอื่น Vegas 8-Ball ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Freedom 106 V-Twin แรงบิดสูงสุด 110 ฟุต-ปอนด์ เร้าใจกับระบบเกียร์โอเวอร์ไดร์ฟ 6 สปีด Vegas 8-Ball โมเดล 2017 สีดำเงาราคาประมาณ $12,999
MAGNUM X-1
โมเดล LIMITED EDITION สำหรับคันรักมอเตอร์ไซค์ที่ชอบขี่ไปพร้อมกับเสียงเพลง
2017 Magnum X-1 ติดตั้งระบบเสียงอันทรงพลังด้วยลำโพงขนาด 200 วัตต์กว่า 10 ตัวรอบคันพร้อมคัสตอมฟีเจอร์เช่น วงล้อหน้า Contrast-cut ขนาด 21 พร้อมเพ้นท์สีสกีมใหม่ และไฟท้าย LED โดย 2017 Magnum X-1 มีให้เลือกสองสีสองแบบได้แก่ Pearl White พร้อมลายกราฟฟิกส์ Platinum และ Electric Red pinstriping ($24,499)
MAGNUM
SPEED AND STYLE
Muscle bagger สุดแกร่ง Magnum กับล้อหน้าวงโตขนาด 21 นิ้ว พร้อมไฟหน้า LED และระบบ Cruise control เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารด้วยระบบ Bluetooth ประสิทธิภาพสูงรวมไปถึงระบบออดิโอทรงพลังจากลำโพงขนาด 100 วัตต์หกตัว ขี่สนุกด้วยระบบ traction control และ anti-lock brakes 2017 Victory Magnum มีให้เลือกทั้งสีดำเงาพร้อมลายกราฟฟิกส์ ($22,599) Habanero Inferno Orange กับลายกราฟฟิกส์ ($23,099) และ Indy Red Pearl พร้อมลายกราฟฟิกส์ ($23,099)
CROSS COUNTRY
MUSCLE FOR MILES
Cross Country อีกหนึ่งโมเดล bagger ของ Victory Motorcycles ที่มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานอย่างระบบเบรก ABS ระบบ cruise control เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารด้วยระบบ Bluetooth เครื่องยนต์ Freedom V-Twin 106 ci ส่งแรงบิดสูงสุดที่ 106 ฟุต-ปอนด์ Victory Cross Country bagger พันธุ์แกร่งที่วิ่งได้อย่างนุ่มนวลด้วยช่วงแบบหน้ากลับ และระบบกันสะเทือนท้ายแบบ Mono-shock มีดิสก์เบรกหน้าคู่ ABS บรรทุกสัมภาระหนักๆได้ด้วยกล่องแซดเดิลแบ็ก ความจุ 21.3 แกลลอนพร้อมตัวล็อคและซีลกันนี้ เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงด้วยวิทยุรองรับสัญญาณได้ทั้ง FM และ AM หรือ เชื่อมต่อเครื่องเล่น MP3/ iPOD ผ่านระบบ Bluetooth แรงสะใจด้วยชุดแคม Stage 2 จาก S&S เพิ่มการไหลเวียนของอากาศในระบบไอเสียช่วยเพิ่มแรงม้าให้กับเครื่องยนต์ถึง 20% รวมทั้งเพิ่มได้อีก 10% โดยมีสีดำด้าน ($19,499), Suede White Frost ($19,999), Suede Nuclear Sunset Orange ($19,999) และ Sunset Red ($19,999) ให้เลือกจับจอง
CROSS COUNTRY TOUR
PACKED WITH POWER
มอเตอร์ไซค์ Touring เครื่องยนต์ V-Twin อีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับการผจญภัยด้วยพาหนะสองล้อที่ให้ทั้งความสะดวกด้วยลำโพงขนาด 200 วัตต์แปดตัว เชื่อมต่อระบบออดิโอได้ทั้ง Bluetooth และ USB พื้นที่บรรทุกสัมภาระได้ถุง 41.1 แกลลอน ทั้งความสบายด้วยพนักพิงหลังผู้โดยสารพร้อมระบบควบคุมที่สามารถปรับระดับวินด์ชีลด์ได้พร้อมระบบเบรก ABS และไฟ LED โมเดล 2017 มีทั้งหมดสอบสไตล์ได้แก่ Gloss Black ($21,999) Gloss Blue Fire ($22,499) และสี Two-tone Turbo Silver and Black ($22,999)
VICTORY VISION TOUR
UNIQUELYAMERICAN, UNIQUELY VICTORY
สร้างขึ้นเพื่อความเป็นสุดยอดมอเตอร์ไซค์ American touring อย่างแท้จริงด้วยรูปลักษณ์ สัมผัสและการใช้งาน ทำให้เป็นมอเตอร์ไซค์ touring ที่ให้สะดวกสบายมากที่สุดของอเมริกา แฟริ่งของ Vision นั้นมีช่องลมนอกจากจะช่วยเพิ่มความสบายตัวให้แล้วยังปกป้องผู้ขับขี่ด้วยเช่นกัน เนื่องจากตัวแฟริ่งติดตั้งเข้ากับเฉพาะตัวเฟรมโดยการบังคับเลี้ยวจึงทำได้ง่ายและไม่รู้สึกหนัก บอดี้ของรถก็แตกต่างจากโมเดล bagger หรือ touring ของ Victory มากคือใช้เฟรมอลูมิเนียมพิเศษและระบบกันสะเทือนท้ายแบบ air-adjustable แรงสะใจด้วยเครื่องยนต์ Freedom 106 V-twin DOHC วาล์ว วินด์ชีลด์ไฟฟ้าปรับระดับได้ อุปกรณ์มาตรฐานเช่นระบบเบรก ABS และ cruise control เพิ่มความสะดวกสบายในทุดสภาพอากาศด้วย Heater ที่เบาะนั่งและแฮนด์กริป พร้อมพื้นที่บรรทุกสัมภาระกว่า 29 แกลลอน โมเดล 2017 นี้มีให้เลือกสองสีคือ Gloss Black ($21,099) และ Gloss Blue Fire ($22,099)
EMPULSE TT
TWIST AND GO
เมื่อโอกาสในการสัมผัสความเร็วแล้ว ไม่ว่ามันจะมาจากการเผ้าไหม้สารไฮโดรคาร์บอนหรือหรอกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงก็ตามหากความเร็วนั้นมันสร้างความเร้าใจได้ใครจะสน Empulse TT ก็เช่นกันมอเตอร์ไซค์ที่พัฒนามาจากรถแข่งไฟฟ้าต้นแบบเจ้าของตำแหน่งบนโพเดียมในการแข่งขันที่ Isle of Man TT และ Pikes Peak ด้วยอัตราเร่งที่มากว่า 100 mph โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี 10.4 kWh ที่สามารถชาร์จจนเต็มได้ภายใน 3.9 ชั่วโมง เพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยช่วงหน้าแบบกลับหัวและระบบกันสะเทือนที่สามารถปรับระดับได้เพื่อเพิ่มการยึดเกาะให้เข้ากับสภาพพื้นที่ของแต่ละเส้นทาง Empulse TT ไม่ใช่เพียงมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโมเดลเดียวที่ติดตั้งระบบเกียร์หกสปีดซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงตัวเลือกเดียวแต่ยังมีโหมดอัตโนมัติ twist-and-go ใช้งานเพื่อความสะดวกสบาย และยังเป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโมเดลเดียวที่ผลิตโดยผู้ผลิตแถวหน้าของอุตสาหกรรมมอเตอร์ไซค์อีกด้วยโดยจะมีให้เลือกเพียงสีเดียวคือ Titanium Silver with Havasu Red ($19,999)
เพิ่มสมรรถนะ พัฒนามาตรฐาน และใส่ใจความมีสไตล์ Victory Motorcycles
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา...victorymotorcyclesthailand.com