ข้อแตกต่างระหว่างนักขี่อายุน้อยกับนักขี่ที่มีอายุแล้วคือ 'สภาพร่างกาย' นักขี่ที่อยู่ในวัยหนุ่มนั้นย่อมมีความคล่องแคล่ว ร่างกายที่ยืดหยุ่นมากกว่า รวมไปถึงความมั่นใจที่ออกจะหนักไปทางคึกคะนองเสียด้วยซ้ำ ซึ่งแน่นอนว่านักขี่ในวัยนี้จะสามารถขี่ในระยะทางที่ไกลกว่าวัยอื่น ๆ แต่ถ้าหากคุณเป็นนักขี่ที่มีอายุมากว่านั้นล่ะ หากวันหนึ่งเพื่อน ๆ ของคุณหรือแม้แต่คุณเองเกิดนึกสนุกอยากจะขี่ไปเที่ยวในที่ที่ยังไม่เคยไปมาก่อน หรือในสถานที่ที่ไกลกว่า เข้าถึงยากกว่าที่เคย ก็คงต้องอาศัยสิ่งที่นักขี่วัยหนุ่มอาจจะมีไม่เท่า นั่นก็คือความเก๋าเกมและประสบการณ์ แม้ว่าสภาพร่างกายอาจจะสู้พวกนักขี่หนุ่ม ๆ ไม่ได้แล้วก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมว่าเมื่ออายุล่วงเลยไปร่างกายก็ย่อมเปลี่ยนแปลงตามเช่นกัน หากไม่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น จากที่เคยเป็นแค่รอยฟกช้ำในวัยหนุ่มก็อาจจะกลายเป็นกระดูกกระเดี้ยวหักกันเลยก็เป็นได้ แล้วจะทำอย่างไรให้สามารถขี่มอเตอร์ไซค์ได้สบาย ๆ แม้จะอายุเข้าสู่ช่วงวัยเลข 5 เลข 6 แล้วก็ตาม คำตอบก็คือการอาศัยประสบการณ์บวกกับการปรับเปลี่ยนวิธีการขี่ เพื่อที่จะไม่เปลืองแรงโดยไม่จำเป็น ทั้งการเลือกไลน์ในการเข้าโค้งแต่ละโค้ง ขี่ให้ช้าลงหากรู้สึกว่าทัศนวิสัยข้างหน้าไม่ชัดเจน รวมไปถึงการปรับตำแหน่งของแฮนเดิลบาร์และพาร์ทต่าง ๆ ของตัวรถให้เอื้อต่อสรีระมากขึ้น มีสติและอดทนต่อสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมห่าม ๆ ที่เคยมีเมื่อครั้งยังหนุ่ม ซึ่งไม่เพียงเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานทางกายและความเหนื่อยล้าทางจิตใจไปในเวลาเดียวกันด้วย และจำเอาไว้เสมอว่า แม้เทคโนโลยีความปลอดภัยจะพัฒนาไปได้ไกลขนาดไหน ทักษะการความคุมรถของนักขี่จะมีมากขนาดไหนก็ตาม แต่มันก็จะกลายเป็นสิ่งไร้ค่าหากนักขี่คนนี้ตัดสินใจผิดพลาด นักขี่ที่เลือกและมีการตัดสินใจที่เฉียบขาดและชาญฉลาดเท่านั้นที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่บนอานสองล้อติดเครื่องยนต์ได้นานแสนนาน แม้อายุจะเยอะแค่ไหนก็ตาม มันก็เป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น!!
------ เรียบเรียงโดย... HD-Playground ที่มา... motorcyclistonline.com